วันพฤหัสบดี, 24 ตุลาคม 2567

หลวงพ่อเอียดดำ วัดศาลาไพ จ.นครศรีธรรมราช

ประวัติและปฏิปทา
หลวงพ่อเอียดดำ

วัดศาลาไพ
อ.เมือง จ.นครศรีธรรมราช

หลวงพ่อเอียดดำ วัดในเขียว หรือ วัดศาลาไพ จ.นครศรีธรรมราช
หลวงพ่อเอียดดำ วัดในเขียว หรือ วัดศาลาไพ จ.นครศรีธรรมราช

หลวงพ่อเอียดดำ วัดศาลาไพ หรือ วัดในเขียว พระเกจิผู้ทรงวิทยาคมเมืองนครศรีธรรมราช พระอาจารย์ผู้เรืองเวทย์ของ “ขุนพันธรักษ์ราชเดช

◉ ชาติภูมิ
พ่อท่านเอียด เกิดเมื่อประมาณปี พ.ศ.๒๔๑๒ ปีมะเส็ง ณ บ้านทับชัน หมู่ ๖ ต.นาตะเคียน อ.เมือง จ.นครศรีธรรมราช บิดาชื่อ “นายเรือง” และมารดาชื่อ “นางหนู ชูบุญเรือง” มีน้องสาว ๑ คน ชื่อ “นางส้มแก้ว ชูบุญเรือง

◉ บรรพชาอุปสมบท
เมื่ออายุ ๑๖ ปี ปี พ.ศ.๒๔๒๘ ได้บรรพชาเป็นสามเณรตลอดจนญัตติอุปสมบทเป็นพระภิกษุ เมื่ออายุ ๒๐ ปี (ประมาณ พ.ศ.๒๔๓๒) ณ พัทธสีมาวัดวังตะวันตก อ.เมือง จ.นครศรีธรรมราช โดยมี พระครูเหมเจติยานุรักษ์ (หนู) เจ้าคณะเมืองนครศรีธรรมราช วัดจันทาราม เป็นพระอุปัชฌาย์ พระครูกาชาด วัดวังตะวันตก เมื่อครั้งยังเป็นพระอธิการย่อง อินฺทสุวณฺโณ วัดวังตะวันตก เป็นพระคู่สวด ได้ฉายาทางธรรมว่า “อริยวํโส” แปลว่า “ผู้เป็นวงศ์แห่งพระอริยะเจ้า

หลังอุปสมบทเป็นพระภิกษุแล้ว ได้จำพรรษา ศึกษาพระธรรมและสรรพวิชาต่างๆในสำนักของพระอธิการย่อง (พระครูกาชาด) วัดวังตะวันตก ซึ่งในสมัยนั้นพระอาจารย์ย่อง ท่านกำลังสร้างกุฏิทรงไทยหลังใหญ่ ตามบันทึกว่า “เริ่มหาเครื่องสร้าง (ไม้) ตั้งแต่ พ.ศ.๒๔๒๕ เริ่มสร้าง พ.ศ.๒๔๓๑ สร้างแล้วเสร็จ พ.ศ.๒๔๓๘” แสดงว่า พระครูกาชาด (ย่อง) ท่านมีความสัมพันธ์กับวัดวังตะวันตกตั้งแต่ก่อน พ.ศ.๒๔๒๕ เป็นต้นมา ท่านคือ ๑ ใน ๔ สมณศักดิ์พระครูกาที่รักษาอยู่ตามทิศทั้ง ๔ ของพระบรมธาตุฯ

ในสมัยนั้น พระเอียด อริยวํโส เพิ่งอุปสมบทเป็นพระใหม่ๆ ท่านมีส่วนช่วยเหลือพระอาจารย์ของท่านในการช่วยสร้างกุฏิไม้หลังใหญ่ควบคู่กับการศึกษาธรรมและสรรพวิชาไปด้วย เนื่องจากพระอาจารย์ย่องท่านนี้มีความรู้ในหลายๆอย่าง โดยเฉพาะวิชาอาคม ศาสต์โบราณต่างๆ ได้ศึกษากับพระอาจารย์ย่องอยู่ระยะหนึ่ง จนเข้าใจแตกฉานพอที่จะช่วยเหลือตนเองและสั่งสอนผู้อื่นได้แล้ว จากนั้นได้กราบลาพระอาจารย์ย่อง เพื่อธุดงค์ไปตามสถานที่ห่างไกลเพื่อประกอบหิตานุหิตประโยชน์แก่ประชาชนตามเส้นทางที่จาริกธุดงค์ผ่าน

พ่อท่านเอียด หรือ พ่อท่านเอียดดำ ท่านยังเป็นศิษย์ในสายสำนักวัดเขาอ้อ โดยได้เรียนสรรพวิชาต่างๆจากพระอาจารย์ทองเฒ่า แห่งวัดเขาอ้อ จ.พัทลุง จนแตกฉาน มีความรอบรู้เป็นอย่างยิ่ง ในการศึกษาวิชาที่สำนักวัดเขาอ้อนั้นท่านได้พบและรู้จักกับสหธรรมิกรุ่นน้องที่อ่อนพรรษากว่าคือ พระอาจารย์ทอง พุทฺธสุวณฺโณ วัดดอนสะท้อน จ.ชุมพร

พ่อท่านเอียด ท่านชอบปลีกวิเวก ชอบเดินออกธุดงค์ไปในที่ต่างๆหลายพื้นที่ เช่น ประเทศพม่า และทั่วภาคใต้ โดยเฉพาะพระสงฆ์สหธรรมิกในภาคใต้ที่ท่านได้เดินธุดงค์ไปมาหาสู่ เช่น

พระครูวิสุทธิจารี (พุ่ม อินฺทสโร) วัดจันพอ จ.นครศรีธรรมราช
○ พระครูอินคีรีสมานคุณ (เรือง ปุญฺญโชโต) วัดอินทคีรี (บ้านนา) จ.นครศรีธรรมราช
○ พ่อท่านเสน สีสุวณฺโณ วัดเสนาราม จ.นครศรีธรรมราช
○ พ่อท่านขี้หนู (สมภารขี้หนู) วัดวนาราม (ยวนแหล) จ.นครศรีธรรมราช
○ พ่อท่านทอง พุทฺธสุวณฺโณ วัดดอนสะท้อน จ.ชุมพร
○ พระครูประกาศิตธรรมคุณ (เพชร อินฺทโชติ) วัดวชิรประดิษฐ์ (เฉงอะ) จ.สุราษฎร์ธานี
○ พ่อท่านพุ่ม ฉนฺโท วัดปากคู จ.สุราษฎร์ธานี

และมีอีกมากมาย เป็นต้น โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ท่านจะมีความสนิทสนมกับพระครูวิสุทธิจารี (พ่อท่านพุ่ม อินฺทสโร) วัดจันพอ ซึ่งมีความอาวุโสกว่าพ่อท่านเอียด ประมาณ ๑๐ ปี (พ่อท่านพุ่ม กำเนิดปี พ.ศ. ๒๔๐๒) พ่อท่านพุ่ม กับ พ่อท่านเอียด เป็นศิษย์พระอาจารย์เดียวกันคือพระครูกาชาด (ย่อง) วัดวังตะวันตก นับได้ว่าเป็นศิษย์พี่-ศิษย์น้องกัน หรือเรียกได้ว่าเป็นสหธรรมิกกัน และเป็นคนบ้านเดียวกันด้วย กล่าวคือเกิดในหมู่บ้านเดียวกัน อีกทั้งในสมัยที่ท่านทั้ง ๒ ดำรงขันธ์อยู่นั้น พ่อท่านเอียดได้ไปพักค้างคืน หรือ แวะสนทนาธรรมกับพ่อท่านพุ่มบ่อยครั้ง บางครั้งพักอยู่หลายๆ คืน

นอกจากนี้ท่านยังมีลูกศิษย์ลูกหามากมาย ทั้งเพศบรรพชิตและฆราวาส ลูกศิษย์ของท่านที่มีชื่อเสียง ได้แก่
พ่อท่านเขียว อินฺทมุนี วัดหรงบน จ.นครศรีธรรมราช
พระครูวิสุทธิจารี (กล่ำ ถาวโร) วัดวิสุทธิยาราม จ.นครศรีธรรมราช
พระครูวิริยานุศาสน์ (น่วม ธมฺมรกฺขิโต) วัดหลวงครู จ.นครศรีธรรมราช
พระครูพิศาลพัฒนกิจ (บุญรอด ฆงฺคสุวณฺโณ) วัดประดู่พัฒนาราม จ.นครศรีธรรมราช
พระครูอดุลธรรมวิมล (พิมน ฐานสุนฺทโร) หรือพ่อท่านอินทร์ วัดสระเกศ จ.สุราษฎร์ธานี
พลตำรวจตรีขุนพันธรักษ์ราชเดช (บุตร พันธรักษ์) เป็นต้น

นอกจากเรื่องพลังจิตสูงและอาคมขลังแล้ว พ่อท่านเอียด ท่านยังมีความสามารถด้านวิชาการอีกด้วย เช่น การแต่งบทร้อยกรอง (กลอนแปด) โดยท่านเขียนเป็นภาษาถิ่นใต้เล่าเรื่องเหตุการณ์ต่างๆแบบสำเนียงคนนครศรีธรรมราชได้ไพเราะมาก สัมผัสถูกต้องตามหลักภาษา แสดงให้เห็นว่าท่านได้ศึกษามาไม่น้อยเลย

เหตุที่ได้เอ่ยนามท่านว่า “พ่อท่านเอียดดำ” ก็เพราะว่า ในสมัยที่พ่อท่านเอียด ครองวัดศาลาไพอยู่นั้นในละแวกใกล้กัน มีสมภารวัดชื่อ “เอียด” อยู่สองวัด คือ พ่อท่านเอียด อริยวํโส วัดศาลาไพ และ พ่อท่านเอียด มุนิโช วัดโรงฆ้อง เพื่อไม่ให้เป็นการสับสนเวลาเอ่ยนาม ด้วยรูปพรรณสัณฐานของ พ่อท่านเอียด วัดศาลาไพ มีผิวพรรณที่คล้ำกว่า ชาวบ้านจึงขนานนามท่านว่า “พ่อท่านเอียดดำ” ส่วนพ่อท่านเอียด วัดโรงฆ้อง ชาวบ้านขนานนามว่า “พ่อท่านเอียดขาว

◉ งานด้านการปกครอง
พ.ศ.๒๔๗๐ เป็นเจ้าอาวาสวัดศาลาไพ
พ.ศ.๒๔๗๕ สร้างโรงเรียนวัดศาลาไพ
พ.ศ.๒๔๘๖ เป็นเจ้าอาวาสวัดคงคาวง(ในเขียว)
ท่านได้พัฒนาวัดวาอาราม จัดสร้างถาวรสถานไว้มากมาย เป็นต้น

รูปเหมือนบูชา พ่อท่านเอียดดำ วัดศาลาไพ หรือ วัดในเขียว จ.นครศรีธรรมราช
รูปเหมือนบูชา พ่อท่านเอียดดำ วัดศาลาไพ หรือ วัดในเขียว จ.นครศรีธรรมราช
รูปเหมือนบูชา พ่อท่านเอียดดำ วัดศาลาไพ หรือ วัดในเขียว จ.นครศรีธรรมราช
รูปเหมือนบูชา พ่อท่านเอียดดำ วัดศาลาไพ หรือ วัดในเขียว จ.นครศรีธรรมราช

◉ มรณภาพ
พ่อท่านเอียด อริยวํโส ท่านมรณภาพ วันอาทิตย์ แรม ๗ ค่ำ เดือน ๖ ปีเถาะ ตรงกับวันที่ ๒๗ พฤษภาคม พ.ศ.๒๔๙๔ สิริอายุรวมได้ ๘๒ ปี พรรษา ๖๒ และทางวัดได้เก็บรักษาสังขารของอาจารย์เอียดดำไว้จนถึงปี วันศุกร์ แรม ๕ ค่ำ เดือน ๗ ปีมะเส็ง ตรงกับวันที่ ๒ มิถุนายน พ.ศ.๒๔๙๖ จึงได้ทำการฌาปณกิจศพ

หลวงพ่อเอียดดำ” ท่านเป็นที่นับถือของศิษยานุศิษย์และบุคคลทั่วไป เอกลักษณ์และคุณวิเศษที่เลื่องลือ คือการสรงน้ำ ๗ วัน อาบน้ำ ๑ ครั้ง โดยไม่มีใครเห็นและไม่มีกลิ่นตัว ท่านใช้พระคาถาปราบช้าง ขณะที่ช้างกำลังตกมันได้ ท่านใช้คาถาปราบสัตว์ที่ดุร้าย เช่น เสือ หมี งู และท่านสามารถห้ามฝนตกได้ ทุกครั้งที่แถวนั้นมีงานชาวบ้านมักจะนิยมไปบนบานบอกกล่าวกับรูปหล่อหลวงพ่อเอียดดำ ซึ่งแต่ละคนได้ประจักษ์เรื่องประสบการณ์ด้านค้าขายร่ำรวย โชคลาภและแคล้วคลาดปลอดภัยมากมาย พระเครื่องอาจารย์เอียดดำ และเครื่องรางที่ท่านหลวงพ่อเอียดดำสร้างเป็นที่ต้องการของทุกคน เพราะมีพุทธคุณในด้านแคล้วคลาดคงกระพันสุดยอดโดยเฉพาะเหรียญพ่อท่านเอียดดำ วัดศาลาไพ จ.นครศรีธรรมราช ปี พ.ศ.๒๔๘๐ หนึ่งในห้าเหรียญยอดนิยมของเมืองนครฯ เพราะได้เกิดปาฏิหารย์กับผู้ที่ได้รับของดีจากท่านมากมาย

เหรียญรุ่นแรก พ่อท่านเอียดดำ วัดในเขียว พ.ศ.๒๔๘๐
เหรียญรุ่นแรก พ่อท่านเอียดดำ วัดในเขียว พ.ศ.๒๔๘๐

◉ ด้านวัตถุมงคล
ส่วนมากจะเป็นพวกเครื่องรางของขลัง เช่น ตะกรุด เสื้อยันต์ ผ้ายันต์ ผ้าประเจียด ลูกอม เป็นต้น ซึ่งมีรูปแบบไม่แน่นอน ท่านโด่งดังมากในช่วงสมัยสงครามโลกครั้งที่ ๒ เพราะประสบการณ์ในวัตถุมงคลที่มีผู้นำไปใช้ ส่วนวัตถุมงคลประเภทที่ผู้คนนิยมและพูดถึงกันมากคือ เหรียญ ได้สร้างขึ้นโดยลูกศิษย์ที่เคารพศรัทธาในตัวท่าน ในช่วง พ.ศ.๒๔๘๐-๒๔๘๒ เป็นที่นิยมเป็นอย่างมาก ติด ๑ ในเบญจภาคีพระเหรียญเมืองนครศรีธรรมราช นอกจากนี้ท่านยังเป็นพระเกจิที่รับนิมนต์อธิษฐานจิตปลุกเสกเหรียญพระเครื่องอื่นๆอีก เช่น
เหรียญรุ่นแรก พ.ศ.๒๔๗๖ พระรัตนธัชมุนี (ม่วง รตนทฺธโช) วัดท่าโพธิ์ฯ จ.นครศรีธรรมราช
เหรียญรุ่นแรกศิษย์พี่ของท่าน พ.ศ.๒๔๘๕ พระครูวิสุทธิจารี (พุ่ม) วัดจันพอ จ.นครศรีธรรมราช
พระผงผสมชันโรงวัดหน้าพระธาตุฯพ.ศ.๒๔๘๕ สร้างโดยพระศรีธรรมราชมุนี (หมุ่น อิสฺสโร) วัดหน้าพระบรมธาตุฯ จ.นครศรีธรรมราช เป็นต้น

ขอขอบคุณข้อมูลจาก คุณจักรกฤษณ์ แขกฮู้ ผู้เรียบเรียง