วันอังคาร, 26 พฤศจิกายน 2567

หลวงปู่เม้า ลิ้นดำ วัดสี่เหลี่ยม อ.นางรอง จ.บุรีรัมย์

ประวัติและปฏิปทา
หลวงปู่เม้า พลวิริโย

วัดสี่เหลี่ยม
อ.นางรอง จ.บุรีรัมย์

หลวงปู่เม้า พลวิริโย วัดสี่เหลี่ยม อ.นางรอง จ.บุรีรัมย์
หลวงปู่เม้า พลวิริโย วัดสี่เหลี่ยม อ.นางรอง จ.บุรีรัมย์

หลวงปู่เม้า ลิ้นดำ วัดสี่เหลี่ยม พระเกจิผู้มีอาคมเข้มขลัง บารมีแก่กล้า วาจาศักด์สิทธิ์ และมีอายุยืนถึง ๑๐๒ ปี รูปหนึ่งแห่งอีสานใต้

◉ ชาติภูมิ
หลวงปู่เม้า พลวิริโย วัดสี่เหลี่ยม เกิดเมื่อวันที่ ๒๓ พฤษภาคม ปี พ.ศ.๒๔๑๗

◉ บรรพชาอุปสมบท
หลวงปู่เม้า ท่านได้บรรพชาเป็นสามเณรเมื่ออายุ ๑๓ ปี เมื่อปี พ.ศ.๒๔๓๐ ครั้นเมื่ออายุครบบวช ท่านจึงอุปสมบท โดยมี หลวงพ่อเพียร วัดถนนหัก เป็นพระอุปัชฌาย์ ได้รับฉายาว่า “พลวิริโย

เมื่อหลวงปู่ท่านอยู่ในร่มกาสาวพัสตร์ ท่านถือการธุดงควัตรเป็นนิจสิน ท่านได้เดินออกธุดงค์ไปจังหวัดต่างๆ ในพื้นที่แถบภาคอีสานเป็นเวลานานหลายสิบปี

หลวงปู่เม้า วัดสี่เหลี่ยม ท่านได้รับการศึกษาจากพระอาจารย์ที่มีชื่อเสียงโด่งดังต่างๆ ในยุคนั้นมากมายโดยเฉพาะวิชาวิปัสสนากัมมัฏฐานจาก พระอาจารย์เพียร ซึ่งเป็นที่ยอมรับของพระอาจารย์เพียร ท่านเป็นยอดในวิชาวิปัสสนากัมมัฏฐาน และยังได้ศึกษาเพิ่มเติมจากพระอาจารย์อื่นๆ อีกมาก เช่น พระอาจารย์ครุฑ พระอาจารย์นิล พระอาจารย์ดา และพระอาจารย์เสาร์ เป็นต้น นับว่าหลวงปู่เม้าได้รับการประสิทธ์ประสาทวิชาจากพระอุปัชฌาย์ที่มีชื่อเสียงมากมาย

หลวงปู่เม้า ท่านไม่เคยเห็นแก่ความเหน็ดเหนื่อยหรือประโยชน์ส่วนตัวเลย ท่านได้ทำนุบำรุงสร้างความเจริญให้กับวัดอารามต่างๆ ถึง ๖ วัด คือ วัดใหม่เรไร่ทอง ,วัดบ้านถนนหัก ,วัดบ้านตะโก ,วัดสังเวทกิริญาวาส ,วัดบ้านหนองยายพิม และวัดสี่เหลี่ยม ซึ่งท่านเป็นเจ้าอาวาสวัดสี่เหลี่ยมอยู่ในช่วงนั้น ด้วยในจำนวนวัดที่กล่าวมานี้ท่านเป็นเจ้าอาวาสเองถึงสี่วัดมาแล้ว จึงกล่าวได้ว่า ท่านเป็นพระอาจารย์ที่น่าเคารพนับถือมากในยุคนี้อีกท่านหนึ่ง การจัดสร้างพระอุโบสถที่วัดสี่เหลี่ยมนี้ ซึ่งก็เป็นการยากที่จะให้สำเร็จลุล่วงไปโดยลำพัง จึงได้สร้างสิ่งมงคลต่างๆ ขึ้นเพื่อหาปัจจัยมาเป็นทุนทรัพย์ในการสร้างพระอุโบสถ ไว้เป็นที่ระลึกและท่านที่ต้องการมีไว้เพื่อเป็นสิริมงคลและแค้วคลาด จากภัยอันตรายต่างๆ อีกทั้งจะได้ทำบุญร่วมในการสร้างพระอุโบสถนี้อีกด้วย ในการก่อสร้างพระอุโบสถ หลวงปู่ท่านจึงได้สร้างสิ่งมงคลขึ้นโดยมี (พระเจ้าวรวงศ์เธอพระองค์เจ้าเฉลิมพลฑิฆัมพร) ได้ทรงเป็นองค์ประธานจัดงาน

และด้วยบุญญาธิการที่เปี่ยมล้นในคืนที่ท่านจะปลุกเสกเหรียญได้เกิดเหตุการณ์จันทรุปราคาขึ้น ในโบราณกาลถือว่าเป็นฤกษ์ดีที่สุดในการปลุกเสกเครื่องรางของขลังต่างๆ และพอท่านนั่งปรกปลุกเสกเหรียญดังกล่าว เกิดเหตุการณ์ฝนตกลงมาอย่างน่าอัศจรรย์ ท่ามกลางพระสงฆ์สามเณรและสาธุชนจำนวนมาก ซึ่งเป็นฝนที่ไม่ได้ตั้งเค้ามาก่อน อีกทั้งยังเป็นช่วงหน้าแล้งมาก และเมื่อหลวงปู่เม้าปลุกเสกเหรียญแล้ว พื้นที่ใน อ.นางรอง ได้เกิดฝนตกลงมาอย่างหนัก เพียงพอกับการต่ออายุพืชผลเกษตร สวนทางกับพื้นที่เขตอำเภอใกล้เคียงและจังหวัดอื่นในภาคอีสานกับแล้งขาดแคลนน้ำอย่างหนัก ด้วยปรากฏการณ์ที่เกิดขึ้น จึงทำให้ศิษยานุศิษย์ของท่านทั้งหลายได้ตื่นตากับเหตุการณ์นั้น

จากความที่ท่านเป็นพระผู้ที่มีความเมตตาต่อลูกศิษย์ลูกหาทุกคน โดยไม่มีการแบ่งชั้นวรรณะ ไม่ว่าจะยากดีมีจนท่านก็ให้ความเสมอภาคเท่ากันหมด ลูกศิษย์ต่างๆ ของท่านทั่วทุกสารทิศในประเทศไทย จึงได้ร่วมจิตร่วมใจกันจัดองค์ผ้าป่าและกฐินนำติดตามไปทอดยังวัดต่างๆ ที่หลวงปู่เม้ากำลังพัฒนาอยู่ทุกแห่ง เพื่อเป็นการสนองพระคุณที่ท่านมีต่อลูกศิษย์ทุกคนอย่างเท่าเทียมกัน ญาติโยมที่เดินทางไกลไปนมัสการท่าน หลวงปู่เม้าก็ให้เข้าพบโดยมีได้รังเกียจกีดกันใดๆแม้แต่น้อย โดยที่ท่านมีเมตตาต่อญาติโยมที่ต้องเดินทางมาไกลท่านก็จะช่วยปัดเป่าความเดือดร้อนให้เขาเหล่านั้นได้สมความหวังที่ตั้งใจไว้ หลวงปู่เม้าจะรดน้ำพระพุทธมนต์ให้อยู่เย็นเป็นสุข และยังมอบเครื่องรางของขลังให้ไว้บูชา เพื่อสนองความศรัทธาทุกคนที่มีต่อหลวงปู่เม้า

เมื่อสมัยสงครามอินโดจีนเกือบทุกท่านคงทราบถึงความขลังของอาคม ที่หลวงปู่เม้าท่านได้ปลุกเสกวัตถุมงคลต่างๆ โดยเฉพาะผ้ายันต์และตะกรุดโทนอันลือชื่อ บรรดาทหารหาญที่ได้รับผ้ายันต์หรือตะกรุดโทนทุกๆท่านต่างได้รับความปลอดภัย แคล้วคลาดจากภัยในสมรภูมิได้ทุกท่านราวปฎิหาริย์เมื่อ ท่านจอมพล ป.พิบูลย์สงคราม ท่านทราบข่าวถึงความปลอดภัยแคล้วคลาดจากภัยอันตรายต่างๆอย่างน่าอัศจรรย์ กิติศักดิ์เป็นที่เลื่องลือ ในหมู่ชนทุกๆถิ่นฐาน จอมพล ป.พิบูลย์สงคราม ถึงกับฝากตัวเป็นลูกศิษย์หลวงปู่และเลื่อมใสนับถือหลวงปู่เม้าเป็นอย่างมาก

หลวงปู่เม้า ท่านเป็นเกจิอาจารย์ที่เรืองวิทยาคม มีญานจิตสูงรูปหนึ่ง บารมีแก่กล้า วาจาศักด์สิทธิ์ (ในปากท่านเป็นลิ้นดำ) เป็นพระอริยสงฆ์ที่มีเมตตาธรรมขั้นสูงสุด ที่รู้อดีตปัจจุบันและอนาคต ท่านเป็นพระวัดบ้านป่าที่คนระดับหม่อมราชวงค์และนายกรัฐมนตรี ให้ความเคารพนับถือ พระดังๆ ทั่วประเทศมีมากมาย แม้แต่นายกรัฐมนตรีสัญญาธรรมศักดิ์ เลือกที่จะนิมนต์พระป่าอย่างหลวงปู่เม้า ลงไปช่วยปัดเป่าทุกข์ภัยที่ทำเนียบให้แก่บ้านเมือง และท่านเคยออกธุดงค์กับหลวงพ่อปาน วัดบางเหี้ย ด้วย

หลวงปู่เม้า พลวิริโย วัดสี่เหลี่ยม อ.นางรอง จ.บุรีรัมย์
หลวงปู่เม้า พลวิริโย วัดสี่เหลี่ยม อ.นางรอง จ.บุรีรัมย์

หลวงปู่เม้า ท่านได้เข้ามาอยู่ในร่มกาสาวพัสตร์เมื่ออายุได้เพียง ๑๓ ปี จนถึงกาลที่ท่านมรณะภาพท่านมีอายุ ๑๐๒ ปี นับได้ว่าท่านเป็นพระอาจารย์ที่บวชพรรษาสูงที่สุดในยุคนั้น

◉ มรณภาพ
หลวงปู่เม้า วัดสี่เหลี่ยม ท่านถึงแก่มรณภาพเมื่อปี พ.ศ.๒๕๑๙ สิริอายุรวม ๑๐๒ ปี พรรษา ๘๒

◉ ด้านวัตถุมงคล
หลวงปู่เม้า วัดสี่เหลี่ยม เป็นหนึ่งในพระเกจิที่มีอายุ ๑๐๒ ปี ของอีสาน เหรียญรุ่นแรกของหลวงปู่เม้า สร้างปี พ.ศ.๒๕๑๗ เมื่ออายุครบ ๑๐๐ ปี ตอนสร้างออกมาใหม่ๆ ได้รับความนิยมและมีชื่อเสียงมากในสมัยนั้น ถ้าพูดถึงวิชาอาคมความขลัง เชื่อว่า หลวงปู่เม้า ไม่เป็นสองรองใครในยุคนั้น เนื่องจากพระเครื่องของท่านสร้างน้อยมีไม่กี่รุ่น จึงทำให้วัตถุมงคลของท่านหาชมได้ยากนัก

เหรียญหลวงปู่เม้า วัดสี่เหลี่ยม รุ่นแรก ปี พ.ศ.๒๕๑๗
เหรียญหลวงปู่เม้า วัดสี่เหลี่ยม รุ่นแรก ปี พ.ศ.๒๕๑๗
หนุมาน หลวงปู่เม้า วัดสี่เหลี่ยม ปี พ.ศ.๒๕๑๗
หนุมาน หลวงปู่เม้า วัดสี่เหลี่ยม ปี พ.ศ.๒๕๑๗

วัตถุมงคลอีกหนึ่งที่ลูกศิษย์เสาะหากันมากของท่าน คือ หนุมานหล่อโบราณบรรจุกริ่ง หลวงปู่เม้า วัดสี่เหลี่ยม สร้างปี พ.ศ.๒๕๑๗ เนื้อสำริดทองแดงเถื่อน ขึ้นทำเนียบเครื่องรางยอดนิยมไปแล้ว ท่านปลุกเสกหนุมานแบบรู้จริง ดีจริงทรงฤทธิ์จริง ตามตำราวิชาโบราณ และมีหนุมานตนแม่ตนครูที่บูชาอยู่บนเขาพนมรุ้ง พุทธคุณเน้นด้านเมตตา การงานเจริญก้าวหน้ารุ่งเรือง มีโชคลาภ วาสนา แคล้วคลาดปลอดภัย นิรันตราย