ประวัติและปฏิปทา
หลวงพ่อพุธ ฐานิโย
วัดป่าสาลวัน
อ.เมือง จ.นครราชสีมา
พระเดชพระคุณหลวงพ่อพุธ ฐานิโย พระอริยเจ้าศิษย์องค์สุดท้ายของหลวงปู่ เสาร์ กันตสีโล ท่านกําพร้าพ่อแม่ตั้งแต่ ๔ ขวบ เมื่ออายุ ๑๑ ขวบ ท่านเคยกราบท่านพระอาจารย์มั่น ภูริทตฺโต
ในวัยเด็กเมื่อป่วยไข้ไม่สบาย จิตจะเกิดแสงสว่าง นิมิตเห็นก้อนศิลากลิ้งมาจากทิศทั้ง ๔ บดขยี้ร่างกาย เป็นมรณสติกระตุ้นเตือนปัญญาและจิตวิญญาณอยู่เสมอ ท่านจึงมีมโนปณิธานตั้งแต่วัยเด็กว่า “จะบวชตลอดชีวิต”
ท่านเป็นผู้มีปฏิปทางดงาม หนักแน่นในความกตัญญูต่อครูบาอาจารย์ มีปัญญาดี สามารถ ท่องพระปาฏิโมกข์ได้ตั้งแต่ยังเป็นสามเณร ท่านเป็นผู้ชํานาญทั้งปริยัติและปฏิบัติ เป็นที่ยอมรับทั้งฝ่ายคามวาสีและอรัญญวาสี เทศนาธรรมของท่านประกอบไปด้วยโวหารที่ฟังเข้าใจง่ายเป็นที่
ซาบซึ้งถึงใจแก่ผู้ที่ได้ฟัง ได้รับการยกย่องจาก พระอาจารย์อ่อน ญาณสิริ ว่า
“เป็นผู้สามารถ เทศน์เรียงลําดับสมาธิได้ละเอียดลออดี”
พระอาจารย์เจี๊ยะ จุนโท ออกปากชมท่านว่า
“ท่านเจ้าคุณพุธมีความอ่อนน้อมถ่อมตัวมาก เขียนหนังสือด้านการปฏิบัติได้ดีถูกต้องทุกขั้นตอน เก่งกว่าพระที่มียศตําแหน่งเป็นสมเด็จเสียอีก เราชอบอ่านหนังสือที่ท่านเจ้าคุณพุธเขียน”
ท่านเป็นพระเถระที่อ่อนน้อมถ่อมตนอยู่เสมอ ในโอกาสอันควรท่านมักเที่ยวไปคารวะและสนทนาธรรมกับพระมหาเถระผู้ทรงธรรมเป็นปราชญ์ทาง ศาสนา เช่น ท่านพ่อลี ธัมมธโร , หลวงปู่แหวน สุจิณโณ , หลวงปู่เทสก์ เทสรังสี , หลวงตามหาบัว ญาณสัมปันโน , หลวงปู่ฝั้น อาจาโร , หลวงปู่อ่อน ญาณสิริ , หลวงปู่เจี๊ยะ จุนโท เป็นต้น ท่านเคยดํารงตําแหน่งทางคณะสงฆ์หลายตําแหน่ง เช่น เจ้าคณะจังหวัดศรีสะเกษ เป็นต้น ท่านเป็นผู้มิเคยหยุดบําเพ็ญประโยชน์ต่อชาติ พระศาสนาและสังคม
ท่านมีสหธรรมิกคือ พระอาจารย์วัน อุตตโม พระอาจารย์มานิตย์ สุรปัญโญ
ท่านรับเป็นองค์บรรยายธรรมและอบรมสมาธิภาวนาให้แก่ศาสนิกชนอย่างสม่ําเสมอ นับเป็นผู้สร้างคุณประโยชน์แก่พระศาสนาและประชาชนอย่างยิ่ง เป็นผู้ยินดีเอาใจใส่ในการอบรมสั่งสอนธรรมแก่พระภิกษุ สามเณร ตลอดถึงสาธุชนผู้ มาถึงสํานักด้วยความเมตตา เป็นผู้ชี้นําในธรรมปฏิบัติ ทั้งเป็นผู้ปฏิบัติสํารวมตนในพระธรรมวินัย ซึ่งเป็นแบบอย่างอันดีแก่ศิษย์มาโดยตลอด ควรแก่การเคารพเทิดทูนยิ่ง
ท่านเกิดเมื่อวันที่ ๘ กุมภาพันธ์ พุทธศักราช ๒๔๖๔ ที่บ้านหนองโดน อําเภอหนองโดน จังหวัดสระบุรี หลวงพ่อพุธ ท่านเล่าประวัติว่า
“ท่านเป็นเด็กกําพร้าพ่อแม่ตั้งแต่อายุ ๔ ขวบ ท่านเคยทํากรรมพรากชีวิตสัตว์ไว้ จึงต้องเป็นกําพร้าตั้ง แต่เด็ก”
ปีพุทธศักราช ๒๔๗๙ เมื่ออายุ ๑๕ ปี ได้ บรรพชาเป็นสามเณร ที่วัดอินทสุวรรณ อําเภอสว่างแดนดิน จังหวัดสกลนคร โดยมี พระครูพิบูลย์ธรรมขันธ์ เป็นพระปัพพชาจารย์ หลังบรรพชาแล้วได้ติดตาม พระอริยคุณาธาร (เส็ง ปุสโส) ธุดงค์ไปยังจังหวัดอุบลฯ และได้ฝากตัวเป็นศิษย์พระอาจารย์พร สุมโน
พระอาจารย์พรได้นําท่านไปฝากเป็นศิษย์ของ หลวงปู่เสาร์ กนฺตสีโล ที่วัดบูรพาราม อําเภอเมือง จังหวัดอุบลราชธานี
วันที่ ๔ กรกฎาคม พ.ศ. ๒๔๘๑ ได้บรรพชา เป็นสามเณรฝ่ายธรรมยุต ที่วัดบูรพาราม อําเภอเมือง จังหวัดอุบลราชธานี โดยมี พระศาสนาดิลก (เสน ชิตเสโน) เป็นพระปัพพชาจารย์
ในปีพุทธศักราช ๒๔๘๓ ท่านพระอาจารย์เสาร์ ได้พาไปฝากเรียนพระปริยัติธรรมกับท่านเจ้าคุณพระปัญญาพิศาลเถร (หนู ฐิตปญโญ) ณ วัดปทุมวนาราม กรุงเทพมหานคร ท่านเรียนจบนักธรรมเอก และเปรียญธรรม ๔ ประโยค
ท่านอุปสมบทเมื่อวันที่ ๒๔ กรกฎาคม พุทธศักราช ๒๔๘๕ ณ วัดปทุมวนาราม กรุงเทพมหานคร โดยมี พระปัญญา พิศาลเถร (หนู) เป็นพระอุปัชฌาย์ พระธรรมปาโมกข์ (บุญมั่น มันตาสโย) เป็นพระกรรมวาจาจารย์ พระปลัดบัว เป็นพระอนุสาวนาจารย์
ปีพุทธศักราช ๒๔๘๗-๒๔๘๙ ท่านกลับมา จําพรรษาที่วัดบูรพา อําเภอเมือง จังหวัดอุบลราชธานี ได้ป่วยเป็นวัณโรคอย่างหนัก นอนไม่ได้ ถึง ๗ วัน ๗ คืน ใกล้จะตาย หลวงปู่ฝั้น อาจาโร ได้สอนให้ท่านพิจารณาอริยสัจ ว่า
“ทุกขัง อริยสัจจัง ทุกข์มันปรากฏแก่เธอทุกลมหายใจ ให้กําหนดสติรู้สิ่งที่มันมีอยู่ในกายใจ เวลานี้ปอดของเธอเป็นวัณโรค มันเป็นจุดเกิดของทุกข์ จิตของเธอไป ยึดติดอยู่ที่ปอดเพราะเธอป่วยที่ปอด แต่ความทุกข์มันเกิดที่จิต ความเจ็บปวดเกิดที่กาย ฉะนั้น ให้ดูสิ่งที่มันมีอยู่ในปัจจุบัน อย่าไปไขว่คว้าอะไร”
ท่านปฏิบัติตามคําสอนของหลวงปู่ฝั้น อาจาโร ได้ปีเศษ จิตเกิดมรณนิมิต เห็นตัวเองนอนตายแล้วแสดงอาการต่างๆ ที่เกิดขึ้น ตั้งอยู่แล้วดับไป เป็นต้น กายหายเหลือแต่จิตเพียงดวงเดียวสว่างไสวอยู่เป็นที่อัศจรรย์ จากนั้นมาวัณโรค ที่ว่าร้ายไม่มียารักษาได้ในสมัย นั้นได้หายเป็นปลิดทิ้ง
ปีพุทธศักราช ๒๕๑๓ ท่านได้รับนิมนต์ให้มาดํารงตําแหน่งเป็นเจ้าอาวาสวัดป่าสาลวัน จังหวัดนครราชสีมา และอยู่จําพรรษาเรื่อยมาจนถึงวาระสุดท้าย
ปีพุทธศักราช ๒๕๒๕ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวและสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ฯ นิมนต์ ท่านไปที่พระราชวังไกลกังวล ทั้งสองพระองค์ได้ สนทนาธรรมกับหลวงพ่อพุธเป็นเวลานาน
พระราชสังวรญาณ (หลวงพ่อพุธ ฐานิโย) ท่านมรณภาพเข้าสู่แดนธรรมอันสงบ ณ โรงพยาบาลมหาราช จังหวัดนครราชสีมา เมื่อวันที่ ๑๕ พฤษภาคม พ.ศ. ๒๕๔๒ เวลา ๐๗.๑๕ น.
สิริอายุได้ ๗๘ ปี ๓ เดือน ๗ วัน พรรษา ๕๗