วันอังคาร, 26 พฤศจิกายน 2567

หลวงปู่รอด วัดนายโรง บางกอกน้อย กรุงเทพฯ

ประวัติและปฏิปทา
หลวงปู่รอด

วัดนายโรง
บางกอกน้อย กรุงเทพฯ

หลวงปู่รอด วัดนายโรง บางกอกน้อย กรุงเทพฯ
หลวงปู่รอด วัดนายโรง บางกอกน้อย กรุงเทพฯ

หลวงปู่รอด วัดนายโรง พระเกจิที่เชี่ยวชาญด้านวิปัสสนาธุระในระดับสูง และเป็นที่เลื่องลือด้านคุณวิเศษทางพุทธาคมและวิทยาคม

◉ ชาติภูมิ
หลวงปู่รอด วัดนายโรง เป็นชาวบ้านบางพรม อําเภอตลิ่งชัน จังหวัดธนบุรี เกิดประมาณ พ.ศ.๒๔๗๐ กว่าๆ ในสมัยรัชกาลที่ ๓

◉ อุปสมบท
อุปสมบท ณ วัดเงิน หรือ วัดรัชฎาธิษฐาน ที่คลองบางพรม อันเป็นสำนักที่มีชื่อเสียงทางด้านวิปัสนากรรมฐานฝ่ายอรัญวาสี

ต่อมาหลวงปู่ได้ย้ายมาจำพรรษาที่วัดนายโรง จนกระทั่งได้รับแต่งตั้งให้เป็นเจ้าอาวาสองค์ที่ ๒ ของวัดนายโรง และเป็นพระอุปัชฌาย์ ได้ให้การอุปสมบทให้แก่กุลบุตร นับแต่ชั้น พ่อ ลูก หลาน ของแต่ละตระกูลในแถบย่านคลองบางกอกน้อย คลองชักพระ ตลิ่งชัน บางระมาด บางพรม บางกรวย บางใหญ่ บางคูเวียง จึงมีลูกศิษย์เป็นจำนวนมาก

หลวงปู่รอดเป็นพระเถระที่สำคัญองค์หนึ่งในย่านคลองบางกอกน้อย ที่มีความรู้ ความเชี่ยวชาญในด้านวิปัสสนากัมมัฏฐาน และมีเกียรติคุณเป็นพิเศษในทางพุทธาคมและเวทย์วิทยาคม หลวงปู่รอด เป็นองค์ปฐมนามแห่งเบี้ยแก้ ท่านได้สร้างเบี้ยแก้ขึ้น เป็นสำนักแรก ถือว่าเป็นเครื่องรางอมตะ จนมีคำกล่าวว่า หมากดี ต้องวัดหนัง เบี้ยขลัง ต้องวัดนายโรง เบี้ยแก้หลวงปู่รอด เป็นหนึ่งในเบญจภาคีที่ได้รับความที่นิยมสูงสุดในปัจจุบัน จัดเป็นเครื่องรางสารพัดดี มีพุทธานุภาพเข้มขลัง ใช้สำหรับแก้และป้องกันคุณไสย ภูตผี ปีศาจ สัตว์ที่มีพิษ เป็นเครื่องรางเมตตา และมหานิยมอีกด้วย

รูปเหมือนบูชา หลวงปู่รอด วัดนายโรง บางกอกน้อย กรุงเทพฯ
รูปเหมือนบูชา หลวงปู่รอด วัดนายโรง บางกอกน้อย กรุงเทพฯ
รูปเหมือนบูชา หลวงปู่รอด วัดนายโรง บางกอกน้อย กรุงเทพฯ
รูปเหมือนบูชา หลวงปู่รอด วัดนายโรง บางกอกน้อย กรุงเทพฯ

ตลอดเวลาที่ท่านอยู่วัดนายโรง ได้สร้างความเจริญรุ่งเรื่องให้กับวัดและมีลูกศิษย์ให้ความเคารพนับถือท่านเป็นจํานวนมาก ด้วยท่านมีวิชาอาคมที่เข้มขลังและอยู่ในยุคสมัยเดียวกับ หลวงปู่เอี่ยม วัดหนัง, หลวงปู่ทับ วัดทอง ฯลฯ

◉ มรณภาพ
หลวงปู่รอด วัดนายโรง เป็นเจ้าอาวาสวัดนายโรง เขตบางกอกน้อย กรุงเทพฯ จนกระทั่งมรณภาพประมาณปี พ.ศ.๒๔๕๖

◉ ด้านวัตถุมงคล
วัตถุมงคลของ หลวงปู่รอด วัดนายโรง มีเพียงตะกรุด ผ้ายันตร์ ลูกอมชานหมากและที่โด่งดังเป็นที่ปรารถนาของลูกศิษย์อย่างมาก เพราะลือลั่นในด้านพุทธคุณคือเบี้ยแก้นั่นเอง หลวงปู่รอด ท่านเริ่มสร้างเบี้ยแก้ตั้งแต่เมื่อไหร่ไม่ปรากฎหลักฐานเอาไว้แต่เป็นที่ต้องการของชาวบางกอกน้อย และท้องที่ใกล้เคียงโดยผู้ที่ต้องการจะต้องนําของสี่อย่างมาให้ท่านคือตัวหอยเบี้ย (ส่วนมากจะมีขนาดเล็ก) ชันโรงใต้ดิน ปรอท และแผ่นตะกั่ว ซึ่งหลวงปู่ท่านมักจะทําให้ต่อหน้าผู้ที่ต้องการเลยโดยท่านจะเริ่มจากนําปรอทมากรอกใส่ตัวหอยเบี้ยแล้วนําชันโรงมาปิดให้แน่นกันปรอทใหลออกมา หลังจากนั้นจะนําแผ่นตะกั่วมาหุ้มให้เรียบร้อยและจารยันตร์โดยรอบพร้อมกับปลุกเสกไปด้วยหลังจากนั้นจะมอบให้กับผู้ที่มาขอให้ท่านทําให้ ซึ่งผู้ที่ได้รับไปแล้วมักจะนําไปถักเชือกและลงรักหรือยางไม้เพื่อความคงทนแต่ส่วนมากมักจะนําไปให้หลวงตาชมพระที่อยู่ในวัดนายโรงท่านช่วยถักให้เพราะท่านมีฝือมือถักเชือกได้สวยงาม

เบี้ยแก้ เป็นหอยชนิดหนึ่งในตระกูล Cypraea วงศ์ Cypraeidea จะมีลักษณะหลังนูนท้องแบน เปลือกแข็ง ผิวเป็นมัน ช่องปากยาวแคบเป็นลำราง ไปจนสุดปลายทั้งสองข้างริมปากทั้งสองด้านเป็นหยัก ๆ คล้ายฟัน ไม่มีแผ่นปิด คนทั่วไปจะเรียกว่า หอยเบี้ย ในสมัยโบราณเคยใช้หอยชนิดนี้เป็นตัวกลางในการแลกเปลี่ยนซื้อขาย แทนเงิน และเบี้ยชนิดนี้มีชื่อเรียกหลายอย่างเช่น เบี้ยจั่น เบี้ยแก้ว เบี้ยนาง อัตราการแลกเปลี่ยนจะอยู่ที่ ๑๐๐ เบี้ย เท่ากับ ๑ อัฐ หรือสตางค์ครึ่ง
ครั้นนำมาประกอบพิธีปลุกเสกด้วยพุทธาคมและเวทย์วิทยาคม ตามกรรมวิธีหลวงปู่แล้ว เรียกว่า เบี้ยแก้ เชื่อกันว่า เป็นวัตถุมงคลที่มีความศักดิ์สิทธิ์ ช่วยให้ผู้ถือครองตั้งอยู่ในความดี และสามารถป้องกันหรือแก้ไขอันตรายต่าง ๆ จากคุณไสย และภูตผีปีศาจได้เป็นอย่างดี ตามความเชื่อของคนในสมัยนั้น

◉ เบี้ยแก้ของหลวงปู่จะประกอบด้วยวัตถุ ๔ อย่าง คือ
๑. หอยเบี้ย
๒. ปรอท
๓. ชันโรงใต้ดิน
๔. แผ่นตะกั่วนม

หลวงปู่รอด จะนำวัตถุทั้ง ๔ อย่างมาส่วนประกอบและมวลสาร หลังประกอบพิธีปลุกเสกด้วยพุทธาคมและเวทย์วิทยาคมตามกรรมวิธีของท่าน เมื่อผ่านพิธีปลุกเสกแล้ว หลวงปู่จะมอบให้ลูกศิษย์ไว้ติดตัวเพื่อป้องกันและแก้ไขอันตรายต่าง ๆ ปัจจุบันเบี้ยแก้ของหลวงปู่รอด เป็นวัตถุมงคลที่มีค่าสูง และหาได้ยากมาก

เบี้ยแก้หลวงปู่รอด วัดนายโรง
เบี้ยแก้หลวงปู่รอด วัดนายโรง

◉ ลักษณะพิเศษเบี้ยแก้หลวงปู่รอด
เบี้ยแก้ของหลวงปู่ จะมีลักษณะพิเศษที่พอสังเกตได้ดังนี้
๑. ตัวเบี้ย หรือที่คนทั่วไปนิยมเรียกว่า เบี้ยพลู มีขนาดไม่ใหญ่เกินไปนัก จะมีขนาดความยาว
ประมาณ ๓.๔ -๓.๕ ซ.ม. และกว้าง ๒.๔-๒.๕ ซ.ม.
๒. ลักษณะภายใน หากจับเขย่าดู จะมีเสียงดังเบา ๆ ซึ่งเป็นเสียงปรอทที่บรรจุไว้ภายใน
๓. บริเวณใต้ท้องเบี้ยแก้ จะมีชันโรงใต้ดินปิดอยู่ ตั้งปากเบี้ยจนถึงท้องเบี้ย และชันจะเกาะติด
แน่นอยู่กับท้องเบี้ย
๔. เบี้ยแก้ทุกตัว จะหุ้มด้วยแผ่นตะกั่วนมอย่างดีและประณีตบรรจง โดยจะเปิดส่วนที่นูนของ
เบี้ยไว้
๕. แผ่นตะกั่วที่หุ้มเบี้ยแก้ จะมีการลงอักขระกำกับไว้ โดยการใช้เหล็กจาร หากดูผิวเผินอาจจะ
มองไม่เห็นชัด และตัวอักษรที่จารจะมีรอยเส้นเรียบ
๖. เบี้ยแก้ทุกเบี้ยจะถักด้ายหุ้มไว้ ในการถักด้ายจะมี ๒ แบบ คือ ถักหุ้มปิดหลังเบี้ย และถัก
หุ้มเปิดหลังเบี้ย แล้วทาด้วยยางมะพลับ หรือยางหมาก ปิดทับไว้อีกชั้นหนึ่ง

ขอขอบคุณข้อมูลจาก watnairong.com