ประวัติและปฏิปทา
หลวงพ่อแทน ธรรมโชติ
วัดธรรมเสน (วัดแก้วฟ้า)
อ.โพธาราม จ.ราชบุรี
หลวงพ่อแทน ธรรมโชติ ท่านเป็นพระเกจิที่ทรงวิชาเข้มขลังรูปหนึ่งของอำเภอโพธาราม จังหวัดราชบุรี ท่านเป็นศิษย์สายวัดประดู่ทรงธรรม จังหวัดอยุธยา ซึ่งเกจิอาจารย์ที่เรื่องชื่อหลายๆ ท่านก็เป็นศิษย์สายวัดประดู่ทรงธรรมแทบทั้งสิ้น อาทิ หลวงพ่อจง วัดหน้าต่างนอก เป็นต้น
หลวงพ่อแทน ธรรมโชติ วัดธรรมเสน อ.โพธาราม จ.ราชบุรี ท่านเป็นเกจิย์จอมขมังเวทย์ แห่งยุค ๒๕ ศตวรรษ ย้อนอดีตกลับไปเมื่อปี พ.ศ.๒๕๐๐ คนที่ชอบในเรื่องพุทธาอาคม ไม่มีใครที่ไม่รู้จัก หลวงพ่อแทน แห่งวัดธรรมเสน ท่านเป็นพระเกจิที่มีชื่อเสียงในยุคกึ่งศตวรรษ เป็นเจ้าพิธีงานปลุกเสกพระเครื่องวัดปราสาทบุญญาวาส สามเสน และเป็นเกจิย์ของจังหวัดราชบุรีท่านหนึ่งที่ได้เข้าร่วมปลุกเสกพระ ๒๕ ศตวรรษ ณ ท้องสนามหลวง ในปี พ.ศ.๒๕๐๐
หลวงพ่อแทน ธรรมโชติ วัดธรรมเสน ท่านเกิดเมื่อราวปี พ.ศ.๒๔๓๗ ที่บ้านเกาะ หมู่ที่ ๙ ตำบลธรรมเสน อำเภอโพธาราม จังหวัดราชบุรี โยมบิดาชื่อ “นายหุ่น ไพรวรรณ” โยมมารดาชื่อ “นางชุ่ม ไพรวรรณ” มีพี่น้องร่วมบิดามารดาเดียวกัน ๕ คน ท่านเป็นบุตรคนที่ ๒ ประกอบไปด้วย
๑. อุบาสิกาแกละ นิ่มนวล
๒. เจ้าอธิการแทน ไพรวรรณ
๓. พระภิกษุหรีด ไพรวรรณ
๔. นายชื่น ไพรวรรณ
๕. นายยิ้ม ไพรวรรณ
เมื่อหลวงพ่อแทน ท่านมีอายุประมาณ ๙ ขวบ บิดาได้ถึงแก่กรรม ท่านและพี่น้องทุกคนจึงตกเป็นภาระของมารดาตลอดมาจนกระทั่งอายุพอสมควร มารดาจึงนำท่านไปฝากตัวเป็นศิษย์วัดบางโตนด โดยมี ท่านพระครูวิมลเกียรติ (หลวงพ่อแดง) เป็นเจ้าอาวาส และท่านได้มีโอกาสศึกษาเล่าเรียนอักษรขอมและภาษาไทยจนมีความรู้ความเข้าใจในอักขระขอมเป็นอย่างดี
แต่แล้วไม่นานเท่าไหร่ท่านก็ได้ลาออกจากวัดเพื่อกลับไปช่วยงานเล็กๆน้อยๆที่บ้าน เพราะในขณะนั้นมารดาก็แก่ชราลงแล้ว ไม่มีใครช่วยเหลืองานทางบ้าน จะกระทั่งเมื่อท่านเข้าเกณฑ์รับคัดเลือกไปเป็นทหาร ก็ได้รับการคัดเลือกเข้าไปเป็นทหารเข้าไปเป็นทหารรับใช้ชาติ เป็นเวลา ๒ ปี หลังจากปลดประจำการท่านได้กลับมาช่วยงานที่บ้านอีกครั้ง
จนกระทั้งมารดาและพี่น้องของท่านเห็นสมควรว่าท่านควรบวชได้แล้ว จึงจัดการบวชให้ ซึ่งท่านบรรพชาอุปสมบท ณ พัทธสีมาวัดแก้วฟ้า ตำบลธรรมเสน อำเภอโพธาราม จังหวัดราชบุรี เมื่อวันขึ้น ๑๓ ค่ำ เดือน ๘ ปีมะโรง พ.ศ.๒๔๕๙ โดยมี พระครูวิมลเกียรติ (หลวงพ่อแดง) วัดบางโตนด เป็นพระอุปัชฌาย์ พระอธิการคง วัดแก้ว เป็นพระกรรมวาจาจารย์ และ พระอธิการเจ่อ วัดใหม่ชำนาญ เป็นพระอนุสาวนาจารย์ ได้รับฉายาว่า “ธรรมโชติ”
เมื่ออุปสมบทแล้วท่านได้ศึกษาเล่าเรียนพระธรรมวินัย โดยพรรษาแรกไปจำพรรษาที่วัดเขาถ้ำกรวย ตำบลเขาแร้ง อำเภอเมือง จังหวัดราชบุรี
พอออกพรรษาแล้วได้จาริกธุดงค์ไปนมัสการพระแท่นดงรัง จังหวัดกาญจนบุรี จวนจะเข้าพรรษาจึงได้มาจำพรรษาอยู่ที่วัดแก้วฟ้า พอออกพรรษาก็จาริกธุดงค์ไปทางปักษ์ใต้ ตลอดฤดูแล้ง เมื่อจวนจะเข้าพรรษาก็กลับวัด
พรรษาที่ ๓ ท่านอยู่จำพรรษาที่วัดกำแพง โดยแทบทุกปีท่านจะออกจาริกธุดงค์ไปเรื่อยๆ โดยท่านธุดงค์ไปร่ำเรียนวิชาที่วัดประดู่ทรงธรรม ซึ่งเป็นสำนักดังที่มีเกจิอาจารย์นิยมไปร่ำเรียนวิชากันมากมาย
จวบจนกระทั่งท่านมาดำรงตำแหน่งเจ้าอาวาสวัดแก้วฟ้า ท่านจึงได้หยุดการธุดงค์เนื่องด้วยงานที่มากขึ้น เนื่องด้วยนับตั้งแต่ท่านได้รับตำแหน่งเจ้าอาวาสวัดแก้วฟ้า ท่านก็ได้ก่อสร้างและปฏิสังขรณ์ สิ่งที่เป็นสาธารณะประโยชน์ไว้มากมาย
หลวงพ่อแทน วัดธรรมเสน ท่านมามีชื่อเสียงโด่งดังมากในช่วงที่มีสงครามเวียดนาม ซึ่งศิษย์ทุกคนที่ได้รับแจกเหรียญรุ่นแรกของท่านไปรบในสงครามครั้งนั้น ทุกคนกลับมาอย่างปลอดภัยทุกคน และทุกคนที่กลับมาก็มักจะเล่าเรื่องพุทธคุณที่ตนเองได้พบเจอมากับตัว จนชื่อเสียงของหลวงพ่อเริ่มกระจายไปทั่วผู้คนต่างมุ่งหมายมาที่วัดธรรมเสน เพื่อมาขอของดีจากท่านกันอย่างมากมาย
นอกจากนี้ในคราวที่มีการสร้างพระครั้งใหญ่ของวัดปราสาทบุญญาวาส เมื่อปี พ.ศ.๒๔๐๖ ซึ่งมีพระเกจิที่มีชื่อเสียงโด่งดังจากทั่วประเทศมาชุมนุมกันเพราะสร้างวัตถุมงคล โดยในงานนี้ หลวงพ่อแทน วัดธรรมเสน พร้อมศิษย์พี่ศิษย์น้องของท่านอีก ๒ รูป ที่เรียนวิชาที่วัดประดู่ทรงธรรมมาด้วยกัน คือ หลวงพ่อกี๋ วัดหูช้าง จ.นนทบุรี หลวงปู่เทียม วัดกษัตราธิราช จ.อยุธยา ก็แสดงอภินิหารแบบเดียวกัน ตะกรุดของอีก ๒ รูป ก็ไม่ละลายเช่นเดียวกัน หลวงพ่อแทน วัดธรรมเสน ท่านเป็นพระเกจิเพียงไม่กี่รูปที่จารตะกรุดแล้วหลอมไม่ละลาย ความร้อนไม่สามารถละลายตะกรุดของท่านได้ ซึ่งเป็นเรื่องที่สร้างชื่อเสียงให้กับหลวงพ่อเป็นอย่างยิ่ง
หลวงพ่อแทน ท่านสร้างและพัฒนาวัดธรรมเสนเรื่อยมา จนกระทั้งหลวงพ่อแทน ป่วยด้วยโรคมะเร็งในหลอดลม และได้รับการรักษาพยาบาลที่โรงพยาบาลภูมิพล เป็นเวลาถึง ๑๐ เดือน ท่านจึงมรณะภาพลงเมื่อวันที่ ๒๓ มิถุนายน พ.ศ.๒๕๑๐ เวลาประมาณ ๑๔.๐๐ น. เศษ สิริอายุรวมได้ ๗๓ ปี พรรษา ๕๐