ประวัติและปฏิปทา
หลวงปู่กิ ธัมมุตฺตโม
วัดป่าสนามชัย
อ.พิบูลมังสาหาร จ.อุบลราชธานี
หลวงปู่กิ ธัมมุตฺตโม ท่านเป็นพระธุดงคกรรมฐาน ที่มีถิ่นฐานในประเทศลาว อดีตสมัยท่านเป็นพระภิกษุสงฆ์ที่มีความรู้ความสามารถและตําแหน่งสูงในเวียงจันทน์
แต่ด้วยรักในการเดินธุดงค์มากกว่า ท่านจึงมักแสวงหาครูบาอาจารย์ที่มีความรู้ความสามารถอยู่เสมอ ๆ เพราะวิสัยของโยคาวจร พระภิกษุผู้เรียนวิปัสสนากรรม ฐาน แต่ละรูปไม่เหมือนกัน บางองค์การปฏิบัติเป็นไปอย่างเรียบๆ บางองค์มีการปฏิบัติอย่างผาดโผน จิตใจมิได้รับการทรมานเลย ก็ไม่สามารถสงบลงไปได้
พระอาจารย์กิ ธัมมุตตโม ท่านเป็นพระที่มีจิตใจโลดโผน ชอบเข้าป่าหาความวิเวกไปเรื่อย ๆ จากเขาลูกหนึ่งไปอีกลูกหนึ่ง เมื่อวนจนครบรอบแล้ว ท่านก็เดินธุดงค์ ข้ามแม่น้ําโขงมาทางฝั่งประเทศ ไทย เที่ยวเดินธุดงคกรรมฐานอยู่คราวหนึ่ง
ต่อมาได้มีโอกาสพบพระอาจารย์ฝ่ายปฏิบัติพระกรรมฐานแห่งยุค คือ หลวงปู่เสาร์ กันตสีโล และ หลวงปู่มั่น ภูริทัตโต จึงได้ฝากตัวเข้าเป็นศิษย์ศึกษาปฏิบัติ จากท่านพระอาจารย์ทั้งสอง จนบังเกิดความอัศจรรย์ อํานาจจิตแก่กล้าขึ้นอีกมากมาย ทําให้ท่านฝังจิตฝังใจในข้อวัตรปฏิบัติสายของ หลวงปู่มั่น ภูริทัตโต เสมอ
แต่ละปีท่านจะออกเดินธุดงค์เข้ามาในประเทศไทยภายหลังจากออกพรรษาแล้วทุกปี แต่เดิมนั้นท่านเป็นศิษย์ของ หลวงปู่เสาร์ กันตสีโล เพราะท่านจะเดินทาง มานมัสการตอนออกพรรษาในทุกๆ ปี
ภายหลังจาก หลวงปู่เสาร์ กนฺตสีโล มรณภาพแล้ว ท่านพระอาจารย์กิ ธัมมุตตโม ก็ได้ยึดเอา หลวงปู่มั่น ภูริทตฺโต เป็นครูบาอาจารย์ผู้ดําเนินจิตปฏิบัติต่อมา
หลวงปู่กิ ธัมมุตฺตโม ท่านเป็นคนชาวนครจําปาศักดิ์ ท่านได้บรรพชาเป็นสามเณร เมื่ออายุได้ ๑๙ ปี ที่วัดบ้านห้วยเงิน นครจําปาศักดิ์ (สมัยก่อนเป็น จ.นครจําปาศักดิ์ ขึ้นอยู่กับประเทศไทย) เมื่อได้บวชเป็นสามเณรแล้ว ท่านพระอาจารย์กิ ก็ได้ศึกษาพระธรรมวินัย อยู่รับใช้ครูบาอาจารย์ ๑ ปี เต็ม
ครั้นอายุ ๒๐ ปี ท่านได้อุปสมบทเป็นพระภิกษุในบวรพุทธศาสนา ณ วัดทุ่งแก้ว แขวงนครจําปาศักดิ์ ได้รับฉายาว่า “โสธโรภิกษุ” เป็นพระฝ่ายมหานิกาย
เมื่อได้บวชเป็นพระภิกษุสงฆ์แล้ว ท่านก็ได้มุ่งหน้าปฏิบัติธรรมตามครูบาอาจารย์ของท่าน คือ “ท่านพระอาจารย์บุญมาก ฐิติปัญโญ ซึ่งท่านเป็นศิษย์ของ หลวงปู่เสาร์ กันตสีโล หลวงปู่มั่น ภูริทัตโต และ พระอาจารย์ทองรัตน์ กันตสีโล มีสํานักปฏิบัติธรรมชื่อ วัดป่าสาลวัน นครจําปาศักดิ์”
หลวงปู่กิ ธัมมุตฺตโม ได้อยู่จําพรรษา ณ วัดป่าสาลวัน แห่งนครจําปาศักดิ์เรื่อยมา จนได้เป็นรองเจ้าอาวาสวัดป่าสาลวัน เสียสมัยหนึ่ง
บางคราวท่านจะไปอยู่ภาวนาในป่าช้าเป็นแรมเดือนเลยก็มี จิตใจทางธรรมนั้น ท่านพระอาจารย์กิเคยสอนเสมอว่า
“ขอให้สู้ตายทุกอย่าง สละชีวิตเพื่อพระพุทธศาสนา คือ ทําตามคําสั่งสอน ของพระพุทธเจ้า”
ในชีวิตของท่าน ไม่ประสงค์ความสุข ท่านสละหมดทุกอย่าง ท่านมีความชํานาญในการเดินธุดงค์มาก การไปอยู่พักปฏิบัติธรรมในสถานที่เช่น ป่าช้า ป่ารก ป่าที่มีสัตว์ป่า ไข้ป่า ภูตผีปิศาจ ตลอดจนดินฟ้าอากาศ ท่านมีความเข้าใจชํานาญยิ่ง
ท่านจะสอนบรรดาศิษย์ทุกองค์ของท่านเสมอในเรื่องนี้ ท่านให้ลูกศิษย์ทําความเข้าใจจนแจ่มแจ้ง
กาลต่อมา ท่านได้เดินธุดงค์เดี่ยวเข้ามาฝั่งไทย มุ่งลัดเลาะมาตามชายแม่น้ําโขง แล้วข้ามเรือมาศึกษาธรรมปฏิบัติอยู่กับ หลวงปู่เสาร์ กันตสีโล ณ วัดบูรพา จ.อุบลราชธานี
แต่เดิมนั้น พระอาจารย์กิ ธัมมุตตโม ได้ติดตาม พระอาจารย์บุญมาก มานมัสการ หลวงปู่เสาร์ ที่จังหวัดนครพนมมาก่อน
ดังนั้น ท่านพระอาจารย์กิ ธัมมุตตโม จึงรู้จักและเคารพครูบาอาจารย์ฝ่ายปฏิบัติ คือหลวงปู่เสาร์ และ หลวงปู่มั่น มากเป็นพิเศษ
สำหรับท่านพระอาจารย์กิ นี้ ท่านมีความชำนาญในเรื่องมนตร์อาคมต่างๆ มาก่อน ต่อมาท่านละทิ้งจนหมดสิ้น ถืออารมณ์ ภาวนาธรรม พุท-โธ ตามแบบอย่าง หลวงปู่มั่นเท่านั้น
ท่านเคยพูดว่า “เรื่องฤทธิ์นี้ มันช่วยพ้นทุกข์ไม่ได้ อย่าไปเอามันเลย มันเป็นของช้า สู้จิตไม่ได้ ถ้าปฏิบัติให้ถึงภูมิธรรมะปัญญาแล้ว เราวางจิตลงไปเท่านั้นก็จะได้ เรื่องเลย
ถ้าไปเรียนเวทมนตร์อาคมมันช้ากว่าจะว่าโองการจบ ก็เหนื่อยแทบแย่ ฉะนั้นรู้จิตไม่ได้อย่างเด็ดขาด ! จิตเร็วกว่ามากนัก ข้อสําคัญ ต้องเอาให้จริงเท่านี้”
ต่อมา ท่านพระอาจารย์กิ โสธโร แห่งนครจําปาศักดิ์ ได้มาประเทศไทยอีกครั้ง ท่านเดินทางมาเปลี่ยนจากพระมหานิกาย มาเป็นพระธรรมยุตนิกาย ณ วัด โพธิสมภรณ์ จ.อุดรธานี
โดยมี ท่านเจ้าคุณพระธรรมเจดีย์ (จูม พันธุโล) เป็นพระอุปัชฌาย์ได้รับฉายาว่า ธมฺมุตฺตโม” นี้เป็นฉายาภิกขุท่านในปัจจุบัน
ท่านพระอาจารย์กิ ธมฺมุตฺตโม ท่านเป็นพระสงฆ์ผู้ปฏิบัติธรรม ชอบอยู่ป่าดงพงไพรมากกว่าจะมาอยู่กุฏิวัดอารามทั้งหลาย
เมื่อท่านได้รับอุบายธรรมะ จาก หลวงปู่เสาร์ และ หลวงปู่มั่น แล้วท่านก็ออกป่านั่งสมาธิภาวนาเดินจงกรมรักษาสติ จิตใจต่อไป
เมื่อทําได้แล้วดําเนินจิตได้แล้ว ก็เข้ามานมัสการเล่าเหตุการณ์ที่ได้ปฏิบัติมา สิ่งใดที่ มีความสงสัยหรือเพิ่มเติมธรรม ท่านก็จะได้รับในขณะนั้น แล้วนําไปปฏิบัติต่อไป
ท่านพระอาจารย์กิ ท่านมีอํานาจจิตสูงเยี่ยมองค์หนึ่ง ส่วนธรรมะนั้น ท่านมีความสามารถบรรยายอย่างแตกฉาน แม้จะพูดภาษาลาวผสมอยู่บ้าง ก็ฟังออกได้ดี
ต่อมา พระอาจารย์กิ ธมฺมุตฺตโม ท่านได้มาอยู่จําพรรษาที่ วัดป่าสนามชัย อ.พิบูลมังสาหาร จ.อุบลราชธานี
การเดินธุดงค์อยู่ในแถบป่าเขาทางด้านประเทศลาวในครั้งสุดท้าย เมื่อประเทศลาวเกิดสงครามรบกัน คือ ลาวขาว-ลาวแดง ท่านพระอาจารย์กิ ธมฺมุตฺตโม จึงเดินธุดงคกรรมฐานข้ามมาทางฝั่งไทย และตั้งแต่บัดนั้นท่านไม่ได้ไป เห็นถิ่นกําเนิดของท่านอีกเลย
ท่านพระอาจารยกิ ธมฺมุตฺตโม และ พระอาจารย์โชติ อาภัคโค ท่านมีความเคารพรักกันมาก เพราะท่านเป็นพระสหธรรมมิกที่ เคยร่วมทุกข์ร่วมสุขมาด้วยกัน ท่ามกลางความเป็นความตาย ขณะมุ่งทางความเพียร โพธิ์ทองสองต้นนี้ โดดเด่นเป็นสง่าให้แก่ชาวพิบูลมังสาหาร ได้รับอรรถธรรมความร่มเย็นมาเป็นเวลาช้านาน
ข้อวัตรปฏิบัติที่หลวงปู่ทำอยู่เป็นนิจ
หลวงปู่กิ ธมฺมุตฺตโม วัดป่าสนามชัย อ.พิบูลมังสาหาร จ.อุบลราชธานี
ท่านจะต้อนรับพระภิกษุ สามเณร อุบาสก อุบาสิกา ที่มานมัสการท่านตลอดเวลา บางวันไม่ได้พักผ่อนเลย ช่วงระยะเวลาที่ไม่มีใครมาท่านจะนั่งสมาธิ ประมาณ ๕-๑๐ นาที พอออกจากสมาธิแล้วเหมือนกับว่าได้นอนเต็มอิ่ม ไม่ง่วง ตอนดึก ๆเวลาประมาณ ๒-๓ ทุ่ม ท่านจะลงมาเดินจงกรม ประมาณ ๑-๒ ชั่วโม่ง หลังจากเดินจงกรมเสร็จท่านจะขึ้นกุฏิเพื่อพักผ่อน ซึ่งทางจงกรมจะอยู่ด้านข้างของกุฏิท่านในปัจจุบัน