วันอาทิตย์, 12 มกราคม 2568

หลวงปู่ทองปาน ทันตจิตโต วัดป่าภูผาชัน อ.ปักธงชัย จ.นครราชสีมา

ประวัติและปฏิปทา
หลวงปู่ทองปาน ทันตจิตโต

วัดป่าภูผาชัน
อ.ปักธงชัย จ.นครราชสีมา

หลวงปู่ทองปาน ทนฺตจิตฺโต วัดป่าภูผาชัน
หลวงปู่ทองปาน ทนฺตจิตฺโต วัดป่าภูผาชัน

หลวงปู่ทองปาน ทนฺตจิตฺโต เจ้าสำนักสงฆ์วัดป่าภูผาชัน บ้านหนองปล้อง ต.ตะขบ อ.ปักธงชัย จ.นครราชสีมา พระอริยสงฆ์ที่พุทธศาสนิกชนชาวโคราชรู้จักกันดี เพราะท่านถือได้ว่าเป็นพระสงฆ์ที่ปฏิบัติอย่างเคร่งครัด จึงเป็นที่เคารพนับถือของชาวบ้าน

◎ ชาติภูมิ
หลวงปู่ทองปาน ทันตจิตโต เกิดเมื่อวันที่ ๗ กรกฎาคม พ.ศ. ๒๔๘๘ ณ บ้านเลขที่ ๓๓ หมู่ ๒ บ้านทุ่ม อ.เมือง จ.ขอนแก่น

◎ อุปสมบท
ช่วงวัยหนุ่ม อายุครบบวช เข้าพิธีอุปสมบท รวม ๑ พรรษา จึงลาสิกขาออกมาใช้ชีวิตฆราวาส จนถึงปี พ.ศ.๒๕๓๓ เกิดความเบื่อหน่ายชีวิตทางโลก จึงได้ตัดสินใจเข้าสู่ร่มกาสาวพัสตร์ ที่อุโบสถวัดป่าอภัยวัน บ้านทุ่ม อ.เมือง จ.ขอนแก่น เมื่อวันที่ ๙ มิถุนายน พ.ศ. ๒๕๓๓ โดยมี พระราชวรานุวัตร เป็นพระอุปัชฌาย์

หลังจากการอุปสมบท ได้ศึกษาพระธรรมวินัยอยู่ที่ วัดป่าอภัยวัน พร้อมกับฝากตัวเป็นศิษย์ศึกษาวิทยาคมกับ หลวงปู่ทองพูล ปุญญกาโม พระเกจิอาจารย์ชื่อดังใน จ.ขอนแก่น ยุคนั้น

หลวงพ่อทองพูน ปุญญกาโม วัดป่าอภัยวัน
หลวงพ่อทองพูน ปุญญกาโม วัดป่าอภัยวัน
หลวงปู่ทองปาน ทันตจิตโต วัดป่าภูผาชัน

ต่อมา หลวงปู่ทองพูล ปุญญกาโม มอบหมายให้มาดูแลวัดป่าภูผาชันบ้านหนองปล้อง ต.ตะขบ อ.ปักธงชัย จ.นครราชสีมา เนื่องจาก เป็นวัดร้างตั้งอยู่บนเขาห่างไกลชุมชน แต่ความสำคัญของสถานที่แห่งนี้ คืออดีตเคยมีพระนักปฏิบัติที่มีชื่อเสียงเคยมาปฏิบัติธรรมที่นี่ อาทิ หลวงปู่เทสก์ เทสรังสี วัดหินหมากเป้ง จ.หนองคาย, หลวงปู่แหวน สุจิณโณ วัดดอยแม่ปั๋ง จ.เชียงใหม่ เป็นต้น

หลวงปู่ทองปาน ทันตจิตโต วัดป่าภูผาชัน
หลวงปู่ทองปาน ทันตจิตโต วัดป่าภูผาชัน

ปัจจุบัน หลวงปู่ทองปาน ทนฺตจิตฺโต ท่านจำพรรษาอยู่ที่วัดป่าภูผาชัน บ้านหนองปล้อง ต.ตะขบ อ.ปักธงชัย จ.นครราชสีมา
สิริอายุ ๗๕ ปี พรรษา ๓๑ (พ.ศ. ๒๕๖๔)

◎ โอวาทธรรม หลวงปู่ทองปาน ทนฺตจิตฺโต

”..โกรธแล้วหายโกรธเอง
กับโกรธแล้วหายโกรธเพราะให้อภัย
ไม่เหมือนกันโกรธแล้วหายโกรธเอง
เป็นเรื่องธรรมดา…”

”..ทุกสิ่งเมื่อเกิดแล้วต้องดับ
ไม่เป็นการบริหารจิตแต่อย่างใด
แต่โกรธแล้วหายโกรธเพราะคิดให้อภัย
เป็นการบริหารจิตโดยตรง
จะเป็นการยกระดับของจิตให้สูงขึ้น
ดีขึ้นมีค่าขึ้น..”

”..เมื่อใดมนุษย์ไม่ถือมั่น
ความทุกข์ก็ไม่มี มีแต่ประโยชน์
ที่สำคัญธรรมชาติ ยังมีกฏของ
ไตรลักษณ์ ลักษณะสำคัญ
”อนิจจัง ทุกขัง อนัตตา”
จงใช้สติไม่ไปถือมั่นกับสิ่งเหล่านี้
เพราะมันเป็นสิ่งที่เกิดขึ้น ตั้งอยู่ ดับไป..”

”..ทุกข์ใดจะไม่เกิดเมื่อ ไม่เอาใจเข้าไปเกี่ยวข้องและยึดถือ
อะไรมากไปไม่ดี
รู้จักตนเอง ใจดี มีสุข
สิ่งไหนเป็นเหตุทุกข์ ก็หยุดเสีย อย่าไปทำมัน..”

”..ทุกข์ก็ดับ สุขก็ดับ ไม่สนใน ของสมมุติ ให้ยืนเส้นเดียว หนักแน่น สู่นิพพาน
ผู้คนเดินทางผิด ย่อมไม่ถึงที่หมาย คือ…”พระนิพพาน”พระที่มาอยู่ปฏิบัติในป่าแบบนี้เขาโสเป็นโสตายแล้ว ฉันจะตายก็ให้มันตายลงตรงนี้ ฉันไม่เอาอะไร ฉันไม่ยึดติด ฉันทิ้งหมด…ไม่ห่วงอะไรแล้ว..”

”..ความดีของทาน บ่ได้อยู่ที่วัตถุ แต่มันอยู่ที่จิตของเจ้าของ บ่ต้องทำหลาย แต่ตั้งจิตให้หลาย ทำแล้วมีความสุข นั่นล่ะตัวบุญ..”

◎ ด้านวัตถุมงคล
สำหรับสภาพภูมิศาสตร์ของวัดป่าภูผาชัน ตั้งอยู่บนเขาจึงมีปัญหาการขาดแคลนน้ำอุปโภคบริโภค รวมทั้งแสงสว่างเพราะไม่มีไฟฟ้า กรณีดังกล่าว คณะศิษยานุศิษย์รวมทั้งผู้ที่มีจิตศรัทธาอันเป็นกุศล นำโดย “แท็กสกล พระใหม่” ขออนุญาตจัดสร้างวัตถุมงคล “เหรียญรูปเหมือนหลวง ปู่ทองปาน รุ่นแรก” เพื่อหารายได้สมทบทุนจัดหาที่เก็บน้ำฝน ๓๐,๐๐๐ ลิตร และระบบไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ให้กับวัด

เหรียญรุ่นแรก หลวงปู่ทองปาน ทันตจิตโต วัดป่าภูผาชัน อ.ปักธงชัย จ.นครราชสีมา

เหรียญรุ่นแรก หลวงปู่ทองปาน ทันตจิตโต วัดป่าภูผาชัน
เหรียญรุ่นแรก หลวงปู่ทองปาน ทันตจิตโต วัดป่าภูผาชัน

ลักษณะเป็นเหรียญรูปไข่ มีหูไม่เจาะรู ด้านหน้าเป็นรูปเหมือนหลวงปู่ครึ่งองค์ห่มจีวรเฉียง ด้านล่างสุดเขียนคำว่า ทองปาน

ด้านหลังจากด้านขวาของเหรียญขึ้นไปด้านบนวนลงไปด้านซ้ายมีตัวอักษร เขียนว่า หลวงปู่ทองปาน ทนฺตจิตฺโต วัดป่าภูผาชัน ต.ตะขบ อ.ปักธงชัย จ.นครราชสีมา ที่บริเวณกลางเหรียญ เป็นอักขระยันต์ พุทธคุณเด่นในทุกด้าน ใต้อักขระยันต์เขียนว่า รุ่นแรก และล่างสุดเขียนว่า ศิษย์สร้างถวาย

รุ่นนี้จัดสร้างรวมหลายเนื้อ อาทิ เนื้อทองคำ ๓ เหรียญ เนื้อเงินลงยาแดง ๒๙ เหรียญ เนื้อเงิน ๖๙ เหรียญ เนื้อนวโลหะ ๙๙ เหรียญ เนื้ออัลปาก้า ๑๙๙ เหรียญ เป็นต้น

พิธีพุทธาภิเษกจัดขึ้นครั้งแรก หลวงปู่ทองปาน อธิษฐานจิตเดี่ยวรวม 3 คืนภายในกุฏิของท่าน และครั้งที่สอง จัดพิธีพุทธาภิเษก ภายในศาลาการเปรียญวัดป่าภูผาชัน พระเกจิร่วมพิธี อาทิ หลวงปู่ทองปาน ทนฺตจิตฺโต , หลวงปู่คูณ โชติโก เป็นต้น

ที่มา : ขอบอบคุณข้อมูลจากเว็บ https://www.khaosod.co.th/