วันพฤหัสบดี, 24 ตุลาคม 2567

พ่อท่านคลิ้ง จันทสิริ วัดถลุงทอง อ.ร่อนพิบูลย์ จ.นครศรีธรรมราช

ประวัติและปฏิปทา
พ่อท่านคลิ้ง จันทสิริ

วัดถลุงทอง
อ.ร่อนพิบูลย์ จ.นครศรีธรรมราช

พ่อท่านคลิ้ง จันทสิริ (พระครูภาวนาภิรมย์) วัดถลุงทอง

พ่อท่านคลิ้ง จันทสิริ เป็นพระเถระผู้มีอายุ คือวัยวุฒิและคุณวุฒิมากมาย เป็นที่เคารพบูชา ของชาวไทยทั่วประเทศ

พ่อท่านคลิ้ง ท่านเป็นที่พึ่งทางใจของประชาชนทั้งชายหญิง ในภาคหนึ่งของประเทศไทย

ภาคใต้ มีภูมิประเทศป่าเขามีทรัพยากรของชาติมากมาย มีเหมืองแร่ มียางพารา มีการประมง และเกษตรกร

ทางด้านพระศาสนา บุตรตถาคตเจ้าผู้ดําเนินจิตเจริญรอยตามเบื้องยุคลบาท แห่งองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า นับเนื่องจากอดีตอันยาวนานคือ

หลวงปู่ทวด เหยียบน้ําทะเลจืด” ท่านคือพระโพธิสัตว์ แห่งชาวใต้และชาวไทยทั้งชาติ

นอกจากนี้ ยังมีผู้เจริญรอยตามสืบต่อๆ กันมาหลายพระ คณาจารย์ เช่น

๑. พ่อท่านคล้าย วาจาสิทธิ์

๒. หลวงปู่สงฆ์ น้ําปลารักษาโรค

๓. หลวงพ่อแดง ผู้ยิ่งยงคงกระพัน

๔. หลวงปู่เปลื้อง ผู้ถือเนสัชชิกตลอดกาล

๕. หลวงพ่อปาน (วัดโคก) จอมขมังเวท

พ่อท่านคลิ้ง จันทสิริ แห่งวัดถลุงทอง ท่านยังเป็นอัศวินผู้ปราดเปรื่องเลื่องลืออีกองค์หนึ่ง ๆ ในจํานวนทั้งหมด

ชาวภาคใต้โดยเฉพาะชาว จังหวัดนครศรีธรรมราช นับเป็นจังหวัดสําคัญจังหวัดหนึ่งในภาคใต้ ที่ได้เป็นแหล่งกําเนิดพระภิกษุสงฆ์ ผู้เจริญด้วยวัตรปฏิบัติตามทํานองคลองธรรมอย่างเคร่งครัด และปรากฏชื่อเสียงโด่งดังใน ปัจจุบันอยู่หลายองค์

ครูบาอาจารย์ที่เกิดในจังหวัด นี้และมีประวัติพิสดาร ก็ได้แก่

๑. พ่อท่านราม แห่งเขาชุมทอง แต่ไม่มีหลักแหล่งอันถาวร รูปนี้ท่านหายไปเฉยๆ เมื่อหลายสิบปีที่ผ่านมา พบท่านครั้งสุดท้าย ตามคําบอกเล่าว่าท่านมาสั่งลา แล้วอาศัยต้นไม้เพียงต้นเดียว เร้นหายไปหลังต้นไม้ตั้งแต่บัดนั้น

๒. พ่อท่านคล้าย วัดจันดี ผู้เจริญสมถกรรมฐานและวิปัสสนากรรมฐาน มีวาจาอันเลิศประเสริฐ ด้วยความจริง

๓. พ่อท่านคลิ้ง วัดถลุงทอง ท่านเป็นพระกรรมฐาน ที่มีจิตแก่กล้าเปี่ยมล้นไปด้วยคุณธรรม

ท่านพ่อคลิ้ง จันทสิริ มีนาม เดิมว่า คลิ้ง ฉิมแป้น เกิดเมื่อวัน จันทร์ เดือนสิงหาคม พ.ศ.๒๔๒๙ ปีจอ ณ บ้านหินตก ต.หินตก อ.ร่อนพิบูลย์ จ.นครศรีธรรมราช

บิดาชื่อแก้ว มารดาชื่อทุ่ม เป็นชาวนา

เมื่ออายุได้ ๑๙ ปี พ.ศ.๒๔๔๘ ปีมะเส็ง อันเป็นปีแห่งการเลิกทาสโดยสิ้นเชิง ท่านได้บรรพชาเป็น สามเณร ๑ ปี ณ วัดเชิงแตระ ต.ท้ายสําเภา อ.เมือง จ.นครศรีธรรมราช โดยมี ท่านพระครูกาแก้ว เป็นพระอุปัชฌาย์

หลังจากบวชเณรแล้ว ก็ได้อยู่ปรนนิบัติครูบาอาจารย์ตามประเพณีของภาคใต้ ซึ่งก็ไม่มีกิจ อันใดต้องทํามาก นอกจากศึกษาเล่าเรียนวิชา

อายุครบบวช พ.ศ.๒๔๔๙ ปีมะเมีย พ่อท่านคลิ้ง ได้ทําการอุปสมบท ณ พัทสีมา วัดป่าต่อ ต.ท้ายสําเภา อ.เมือง จ.นครศรีธรรมราช

โดย พ่อท่านขํา วัดถลุงทอง เป็นพระอุปัชฌาย์

ท่านอธิการเอียด วัดท้ายสําเภา เป็นพระกรรมวาจาจารย์

ได้รับฉายาว่า “จันทสิริ

หลังจากบวชเป็นพระภิกษุ สงฆ์แล้ว พ่อท่านคลิ้งผู้มีวิชา มีจิตใจหนักแน่นมั่นคง พิจารณาดูตนเองแล้วก็ให้รําพึงว่า

“เมื่อบวชเข้ามา ก็ต้องเอาดีให้ได้ แล้วไม่คิดสึก ถ้าบวชแล้ว คิดสึก ก็ไม่ควรจะบวชให้เปลืองผ้าเหลือง”

การเอาดีของคนโบราณสมัยนั้นก็คือการปฏิบัติออกเดินธุดงค์ แม้ถ้าได้พบครูบาอาจารย์ ที่มีวิชาแก่กล้า ก็จะเข้าถวายตัวเป็นศิษย์ แล้วอยู่ศึกษาวิชาเอาความรู้นั้นมาใส่ตัว

การเรียนรู้วิชาต่าง ๆ ในยุคโบราณ เป็นการศึกษาที่ต้องอาศัยความมานะ ความอดทน และความจดจําด้วยปัญญาของตนเอง

มีอยู่บ้างที่พระผู้ใหญ่บางองค์ ท่านแนะนําว่า

“การศึกษาก่อนนั้น มันไม่มีตําราและเครื่องมือ บางทีก็ต้องจดจําเอา มีตาดู มีหูฟัง แล้วนํามาฝึก

หรือบางรายอาศัยอยู่นาน ๕ ปีบ้าง ๑๐ ปีบ้าง ความรู้เห็นอยู่นาน ทําให้เข้าใจวิชานั้น ๆ ก็มี…”

 (พระครูภาวนาภิรมย์) พ่อท่านคลิ้ง จันทสิริ วัดถลุงทอง อำเภอร่อนพิบูลย์ จังหวัดนครศรีธรรมราช
พ่อท่านคลิ้ง จันทสิริ วัดถลุงทอง อำเภอร่อนพิบูลย์ จังหวัดนครศรีธรรมราช

พ่อท่านคลิ้ง จันทสิริ ท่านเป็นพระเถระผู้ใหญ่ ที่มีคณะลูกศิษย์ลูกหาเต็มบ้านเต็มเมือง ต่างก็มีความเคาพบูชาในคุณธรรม ของท่าน จิตใจของ พ่อท่านคลิ้ง เปี่ยมล้นด้วยเมตตา จะยิ้มรับญาติโยม ที่เดินทางไปกราบนมัสการ ถามทุกข์สุขด้วยเมตตาเสมอๆ