หลวงปู่คำคะนิง จุลมณี เป็นพระเถราจารย์สายกรรมฐานที่มีชื่อเสียงในภาคอีสาน ท่านกำเนิดในช่วงระหว่างปลายสมัยรัชกาลที่ 5 – ต้นรัชกาลที่ 6 (ราวปลาย พ.ศ. 2400 – ต้น พ.ศ. 2450) มีพื้นเพดั้งเดิมอยู่บริเวณลุ่มแม่น้ำโขงแถบประเทศลาว ต่อมาได้ธุดงค์ข้ามมาฝั่งไทย ซึ่งเป็นช่วงที่พระกรรมฐานกำลังแพร่หลาย ท่านได้รับการกล่าวขานว่าเคร่งในวัตรปฏิบัติ มุ่งมั่นศึกษาธรรมและวิปัสสนา
หลวงปู่คำคะนิง มีวัตรปฏิบัติที่เรียบง่าย มักออกธุดงค์วิเวกในป่าเขาลึก บางคราวก็จำพรรษาตามถ้ำต่าง ๆ โดยเฉพาะในเขตจังหวัดอุบลราชธานี และจังหวัดใกล้เคียง ท่านเป็นพระที่มีเมตตาสูง ใกล้ชิดกับญาติโยมและลูกศิษย์ทั้งหลาย เมื่อเจ็บไข้ได้ป่วยก็มักมีผู้มาให้ท่านช่วยรักษาด้วยอำนาจจิตอันแก่กล้า
ปาฏิหาริย์และเกร็ดเรื่องเล่าที่สำคัญ
- ธุดงค์ในป่าลึก: มีเรื่องเล่าว่าท่านธุดงค์ไปในเขตที่ผู้คนน้อยมาก ท่านพบเจอสัตว์ป่าดุร้ายแต่ก็อยู่ร่วมได้อย่างสงบ บางครั้งมีการเล่าขานว่าท่านสามารถป้องกันตนเองและคณะศิษย์ให้รอดพ้นอันตรายได้ด้วยพลังเมตตาบารมี
- ของวิเศษหรือ “แก้ว”: บางตำนานกล่าวว่าหลวงปู่ได้ “แก้ว” มาจากการบำเพ็ญเพียรหรือการเดินทางข้ามมิติ จึงได้รับการเชื่อว่ามีคุณวิเศษป้องกันภัย ปัดเป่าเคราะห์ ผู้ศรัทธาหลายคนจึงพยายามมาขอพึ่งบารมี
- ย่นระยะทาง: มีผู้บันทึกเล่าถึงเหตุการณ์ที่หลวงปู่ปรากฏตัวพร้อมกันในสองสถานที่ หรือการเดินทางไกลที่น่าจะใช้เวลานาน แต่กลับทำได้อย่างรวดเร็วเกินสามัญ ทำให้ผู้คนเชื่อว่าท่านมีอภิญญาเบื้องต้นบางประการ
- รักษาโรคด้วยพลังจิต: ศิษย์จำนวนมากเคยมาให้หลวงปู่ช่วยอธิษฐานจิตรักษาโรคภัยไข้เจ็บ บางรายดีขึ้นอย่างน่าอัศจรรย์ จึงเป็นที่เลื่อมใสศรัทธาของชาวบ้าน
- ละสังขาร: ว่ากันว่าหลวงปู่มีอายุยืนยาวเกินร้อยปี (บางตำนานว่า 120 ปี) เมื่อท่านละสังขารในช่วงประมาณ พ.ศ. 2546–2547 ก็ได้สร้างความอาลัยแก่ศิษยานุศิษย์เป็นอย่างยิ่ง
หลวงปู่คำคะนิง จุลมณี เป็นพระเถราจารย์ผู้เคร่งครัดในวัตรปฏิบัติ และได้รับการเคารพศรัทธาในฐานะพระกรรมฐานที่มีเมตตาบารมีสูง ตำนานปาฏิหาริย์และเรื่องเล่าอภินิหารต่าง ๆ ของท่านกลายเป็นเครื่องยืนยันถึงความศักดิ์สิทธิ์และบารมีที่ศิษยานุศิษย์รวมถึงชาวบ้านทั้งหลายกล่าวขาน แม้ว่าจะยากพิสูจน์ตามหลักวิทยาศาสตร์ แต่ก็เป็นสิ่งยึดเหนี่ยวศรัทธาและกำลังใจแก่ผู้มีจิตเลื่อมใสในพระพุทธศาสนาและการปฏิบัติกรรมฐานมาจนถึงปัจจุบัน.