วันอังคาร, 26 พฤศจิกายน 2567

หลวงปู่ธีร์ เขมจารี วัดมิ่งเมืองพัฒนาราม อ.ภูเวียง จ.ขอนแก่น

ประวัติและปฏิปทา
หลวงปู่ธีร์ เขมจารี
วัดมิ่งเมืองพัฒนาราม อ.ภูเวียง จ.ขอนแก่น

หลวงปู่ธีร์ เขมจารี วัดมิ่งเมืองพัฒนาราม อ.ภูเวียง จ.ขอนแก่น
หลวงปู่ธีร์ เขมจารี วัดมิ่งเมืองพัฒนาราม อ.ภูเวียง จ.ขอนแก่น

พระมงคลวราจารย์ (หลวงปู่ธีร์ เขมจารี) วัดมิ่งเมืองพัฒนาราม พระเกจิอาจารย์ชื่อดังทางด้านเครื่องรางของขลังและวัตถุมงคลศักดิ์สิทธิ์แห่งเมืองขอนแก่น

๏ ชาติภูมิ
พระมงคลวราจารย์ (หลวงปู่ธีร์ เขมจารี) นามเดิมชื่อ “ธีร์ คำใสขาว” เกิดเมื่อวันที่ ๒๐ มิถุนายน พุทธศักราช ๒๔๕๓ ตรงกับวันจันทร์ ขึ้น ๑๓ ค่ำ เดือน ๗ ปีจอ ณ บ้านกระจาย ต.น้ำคำ (ต.หนองหมื่นถ่าน ในปัจจุบัน) อ.สุวรรณภูมิ จ.ร้อยเอ็ด บิดาชื่อ “นายจันทา” และมารดาชื่อ “นางบับ คำใสขาว”

๏ การศึกษาเบื้องต้น
ในช่วงวัยเยาว์ได้เข้าศึกษาเล่าเรียนหนังสือไทย ก.ข. ที่โรงเรียนบ้านกอก ต่อมาย้ายกลับมาเรียนที่โรงเรียนบ้านกระจาย อ.สุวรรณภูมิ จ.ร้อยเอ็ด จนจบชั้นประถมศึกษาปีที่ ๓

๏ การบรรพชา
บรรพชาเมื่ออายุครบ ๑๖ ปี นายธีร์ได้เข้าพิธีบรรพชาเป็นสามเณร เมื่อวันจันทร์ที่ ๑๐ มกราคม พ.ศ.๒๔๖๙ ณ วัดโพธิ์ศรี บ้านกระจาย อ.สุวรรณภูมิ จ.ร้อยเอ็ด โดยมีพระใบฎีกาหล้า เจ้าคณะอำเภอสุวรรณภูมิ เป็นพระอุปัชฌาย์

ด้วยจิตใจที่ฝักใฝ่ในการศึกษาพระปริยัติธรรม จึงย้ายไปอยู่จำพรรษาที่ วัดราศีไศล บ้านฟ้าเลื่อม ต.หน่อม อ.อาจสามารถ จ.ร้อยเอ็ด โดยมี หลวงปู่ญาครูเฒ่าโส ธมฺมปาโล เป็นพระอาจารย์ใหญ่ และพระอาจารย์เมืองกับพระอาจารย์สอน เป็นพระอาจารย์ถ่ายทอดวิชาความรู้ สวดมนต์น้อย มนต์กลาง มนต์หลวง และมูลกัจจายน์

๏ อุปสมบท
กระทั่งอายุครบ ๒๑ ปีบริบูรณ์ จึงได้เข้าพิธี อุปสมบทเป็นพระภิกษุ เมื่อวันที่ ๑๘ ตุลาคม พ.ศ.๒๔๗๒ ณ พัทธสีมาวัดราศรีไสล บ้านฟ้าเลื่อม ต.หน่อม อ.อาจสามารถ จ.ร้อยเอ็ด โดยมี ครูบาเฒ่า หรือ หลวงปู่ญาครูโส ธมฺมปาโล เป็นพระอุปัชฌาย์ พระครูขันตี เป็นพระกรรมวาจาจารย์ และ พระครูจำปา เป็นพระอนุสาวาจารย์ ได้รับฉายาว่า “เขมจารี

๏ การศึกษาพระปริยัติธรรม
ภายหลังอุปสมบทแล้ว ท่านได้ขอย้ายไปอยู่จำพรรษาที่วัดบ้านพันขาง ต.บ้านเขวา อ.เสลภูมิ จ.ร้อยเอ็ด เพื่อศึกษามูลกัจจายน์

  • พ.ศ.๒๔๗๕ ศึกษาบาลีไวยากรณ์ ที่วัดบ้านเค็งใหญ่ อ.อำนาจเจริญ จ.อุบลราชธานี
  • พ.ศ.๒๔๗๗ ย้ายไปเรียนนักธรรมบาลี ที่วัดบางกะจะ ต.สำเภาล่ม จ.พระนครศรีอยุธยา
  • พ.ศ.๒๔๗๘ ย้ายไปอยู่ที่วัดหงส์รัตนาราม ต.วัดอรุณ อ.บางกอกใหญ่ จ.ธนบุรี
  • พ.ศ.๒๔๘๑ สามารถสอบได้นักธรรมชั้นเอก ที่สำนักเรียนวัดศรีนวล อ.เมือง จ.ขอนแก่น
    เมือปี พ.ศ.๒๔๗๙ การศึกษาปริยัติธรรมขั้นสูงไม่สำเร็จ

อย่างไรก็ตาม เมื่อการศึกษาพระปริยัติธรรมชั้นสูง ไม่สำเร็จตามความตั้งใจไว้แต่เดิม ประจวบกับกลับมาเยี่ยม และรักษาพยาบาลโยมบิดา-โยมมารดาบังเกิดเกล้า

ท่านจึงได้มุ่งมั่นความเพียรในการปฏิบัติธรรม และศึกษาพระเวทวิทยาคม กับ หลวงปู่ญาครูเฒ่าโส ธมฺมปาโล อย่างจริงจัง ตลอดจนได้นำเอาวิชาความรู้แขนงต่างๆ ที่เคยร่ำเรียนออกมาใช้ในทางปฏิบัติ ทั้งการสอน การปกครอง การสาธารณูปการ การเผยแผ่พระพุทธศาสนา ทั้งหมดล้วนแต่เป็นงานที่จำเป็นต้องทำและรับผิดชอบมากขึ้น

ช่วงที่หลวงปู่กลับมาเยี่ยมบ้าน และอยู่ปรนนิบัติโยมพ่อโยมแม่ท่านในยามป่วยนี้ ความตั้งใจเดิมท่าน ก็หลังจากโยมทั้ง สอง อาการดีขึ้นแล้ว หลวงปู่ท่านจะกลับไปเรียนปริยัติธรรมต่อที่กรุงเทพฯ

หลังจากโยมทั้งสองของท่านอาการดีขึ้นแล้ว หลวงปู่ท่านเดินทางไปกราบเยี่ยมพระอุปัชฌาย์หลวงปู่ญาครูเฒ่าโส ที่บ้านฟ้าเลื่อม แล้วได้กราบเรียนท่านว่าจะกลับไปเรียนพระปริยัติธรรมต่อที่กรุงเทพฯ องค์พระอุปัชฌาย์ใดฟังก็นิ่งไปพักหนึ่งแล้วตอบกลับเชิงสั่ง หลวงปู่กลับว่า ไม่ต้องไปแล้วกรุงเทพฯให้อยู่กับท่านที่นี้ ปริยัติธรรมถ้าอยากเรียนท่านจะสอนให้เอง หลวงปู่จึงต้องอยู่กลับหลวงปู่ญาครูเฒ่า ในช่วงแรกๆนี้หลวงปู่ท่านก็นึกแคลงใจในองค์พระอุปัชฌาย์ท่านว่า ท่านไม่ได้เป็นมหาเปรียญ จะมีความรู้ด้านบาลีสอนท่านได้อย่างไร

รุ่งเช้าของวันรุ่งขึ้น หลวงปู่ท่านได้ลงไปฉันจังหันที่ศาลารวมกับหลวงปู่ญาครูเฒ่า และพระเณรในวัด วันนี้นั้นหลวงปู่ญาครูเฒ่าฉันเสร็จ ท่านมองมาที่หลวงปู่ธีร์ แล้วชี้นิ้วมาที่บาตรของท่าน เชิงสั่งหลวงปู่ให้รับบาตรของท่านไปดูแลจัดการต่อไป แล้วองค์พระอุปัชฌาย์ท่านก็ลุกจากที่ฉันไป

ระหว่างท่านเดินลงจากศาลาที่ฉันไปนั้นหลวงปู่ท่านมองตามไปอยู่นั้นก็เห็นร่างของพระอุปัชฌาย์กรายเป็นเสือโคร่งรายพาดกร ตัวใหญ่เดินลงศาลาไป หลวงปู่ท่านจึงรีบนำบาตรท่านไปล้างและตามท่านไปที่กุฏิ เพื่อกราบขอขมาที่คิดประมาทในองค์ท่าน และหลวงปู่ญาครูเฒ่าโส ได้ไห้โอวาทแก่หลวงปู่ว่า “พระสงฆ์ที่ไปเรียนปริยัติธรรม บาลี เป็นมหานั่นก็ด้วยมุ่งหวังเป็นเจ้าเป็นนายคน ซึ่งวาสนาทางนี้ท่านก็พอมีอยู่ ไม่ต้องไปเรียนก็ได้เป็น แต่วิชาที่จะรักษาความเป็นพระ คือ พระกรรมฐานและการสงเคราะห์ญาติโยมเพื่อดำรงความเป็นพระไว้เพื่อสร้างบารมีต่อไปนี้สำคัญว่า ซึ่งองค์ท่านจะสอนให้”

หลังจากนั้นหลวงปู่ธีร์ ท่านก็อยู่ศึกษากับองค์หลวงปู่ญาครูเฒ่าโส เรื่อยมา

๏ ลำดับงานปกครองคณะสงฆ์
พ.ศ.๒๔๘๒-๒๔๙๑ เป็นเจ้าอาวาสวัดโพธิ์ศรี อ.เมืองขอนแก่น
พ.ศ.๒๔๙๑-๒๔๙๓ เป็นเจ้าอาวาสวัดโพธิ์ทอง บ้านกงกลาง อ.หนองเรือ
พ.ศ.๒๔๙๒ เป็นเจ้าคณะตำบลโนนทันเขต ๒
พ.ศ.๒๔๙๔ เป็นพระอุปัชฌาย์ และเจ้าคณะอำเภอภูเวียง
พ.ศ.๒๕๐๐ เป็นเจ้าอาวาสวัดมิ่งเมืองพัฒนาราม
พ.ศ.๒๕๔๐ เป็นที่ปรึกษาเจ้าคณะอำเภอภูเวียง

๏ ลำดับสมณศักดิ์
พ.ศ.๒๔๘๕ ได้รับแต่งตั้งพระฐานานุกรมของพระราชสารมุนี อดีตเจ้าคณะจังหวัดขอนแก่น
พ.ศ.๒๕๑๒ เป็นพระครูสัญญาบัตรชั้นพิเศษ
พ.ศ.๒๕๔๔ เป็นพระราชาคณะชั้นสามัญที่ “พระมงคลวราจารย์

หลวงปู่ธีร์ เขมจารี ท่านได้ปฏิบัติตนเป็นแบบอย่างที่ดีแก่บรรดาคณะศิษยานุศิษย์ ดังเช่น การตื่นเวลาตี ๔ ทำวัตรภาวนาสาธยายพุทธมนต์ แผ่เมตตาเป็นเวลา ๑ ชั่วโมง ตี ๕ ตีสัญญาณระฆัง ทำวัตรร่วมกับพระภิกษุ-สามเณร ก่อนออกรับบิณฑบาต ดังนี้แล

หลวงปู่ธีร์ เขมจารี วัดมิ่งเมืองพัฒนาราม อ.ภูเวียง จ.ขอนแก่น
หลวงปู่ธีร์ เขมจารี วัดมิ่งเมืองพัฒนาราม อ.ภูเวียง จ.ขอนแก่น

๏ มรณภาพ
หลวงปู่ธีร์ เขมจารี ได้ละสังขารด้วยอาการสงบ เมื่อเวลา ๒๔.๐๐ น. ของวันที่ ๑๔ ธันวาคม พ.ศ.๒๕๔๙ ณ โรงพยาบาลศูนย์ขอนแก่น หลังเข้ารับการรักษาอาการโรคปอดติดเชื้อ มาตั้งแต่ช่วงกลางปี พ.ศ.๒๕๔๙

วงการสงฆ์ต้องสูญเสียพระเถระรูปสำคัญผู้บำเพ็ญคุณูปการต่อชาวเมืองขอนแก่นมาอย่างยาวนาน ด้วยความอุตสาหวิริยะ เหลือทิ้งไว้แต่ผลงานอันทรงคุณค่าที่อุทิศให้แด่พระพุทธศาสนา เป็นอนุสรณ์แห่งความทรงจำไว้เบื้องหลัง

ทั้งนี้ ทางวัดและคณะศิษยานุศิษย์ได้จัดงานบำเพ็ญกุศล ณ ศาลาการเปรียญวัดมิ่งเมืองพัฒนา อ.ภูเวียง จ.ขอนแก่น และตั้งศพให้ญาติโยมทั่วไปได้กราบไหว้ พร้อมทั้งสวดพระอภิธรรมศพ จนครบ ๑๐๐ วัน ก่อนทำพิธีพระราชทานเพลิงศพต่อไป

ทุกวันนี้แม้สังขารหลวงปู่ธีร์จะดับสูญ แต่คุณงามความดียังคงปรากฏไพศาล

● ด้านวัตถุมงคล
พระเครื่องวัตถุมงคลของหลวงปู่ธีร์ที่โด่งดัง ท่านได้สร้างตะกรุด นั่งแผ่เมตตาโดยการเขียนลงยันต์ ตะกรุด ในแผ่นทอง ผ้า แผ่นหินหรือกระเบื้อง รวมทั้งการฟั่นปลุกเสกด้ายสายสิญจน์เพื่อผูกแขนและคอ เด็กผู้ใหญ่ทั้งหญิงและชายทุกวัย หรือนำไปติดเสาติดฝาเรือนชาน ร้านค้า รถยนต์พาหนะ หรือฝังไว้ตามสถานที่ต่างๆ เพื่อป้องกันอาถรรพ์ภูตผีปีศาจ

เหรียญรุ่นแรก หนึ่งเล็ก หลวงปู่ธีร์ เขมจารี วัดมิ่งเมืองพัฒนาราม จ.ขอนแก่น ปี ๒๕๑๒
เหรียญรุ่นแรก หนึ่งเล็ก หลวงปู่ธีร์ เขมจารี วัดมิ่งเมืองพัฒนาราม จ.ขอนแก่น ปี ๒๕๑๒
เหรียญรุ่นแรก หนึ่งใหญ่ หลวงปู่ธีร์ เขมจารี วัดมิ่งเมืองพัฒนาราม จ.ขอนแก่น ปี ๒๕๑๒
เหรียญรุ่นแรก หนึ่งใหญ่ หลวงปู่ธีร์ เขมจารี วัดมิ่งเมืองพัฒนาราม จ.ขอนแก่น ปี ๒๕๑๒
เหรียญรุ่นสาม หลวงปู่ธีร์ เขมจารี วัดมิ่งเมืองพัฒนาราม จ.ขอนแก่น ปี ๒๕๑๗ อัลปาก้า
เหรียญรุ่นสาม หลวงปู่ธีร์ เขมจารี วัดมิ่งเมืองพัฒนาราม จ.ขอนแก่น ปี ๒๕๑๗ อัลปาก้า
เหรียญรุ่นสี่ ทูลเกล้า หลวงปู่ธีร์ เขมจารี วัดมิ่งเมืองพัฒนาราม จ.ขอนแก่น ปี ๒๕๑๙
เหรียญรุ่นสี่ ทูลเกล้า หลวงปู่ธีร์ เขมจารี วัดมิ่งเมืองพัฒนาราม จ.ขอนแก่น ปี ๒๕๑๙

ขณะเดียวกัน หลวงปู่ยังเสกน้ำพระพุทธมนต์มอบให้ผู้เจ็บป่วยเป็นไข้ที่มาพึ่ง บารมีธรรมได้นำไปดื่มกินหรืออาบ เพื่อรักษาโรคภัยไข้เจ็บ

ในยามว่างของหลวงปู่ธีร์ ท่านมักจะทุ่มเทชีวิตจิตใจทั้งชีวิตในการสะสมพระเครื่อง ทั้งพระรุ่นเก่า พระใหม่ พระบูชา พระพุทธรูปปางต่างๆ โดยจะนั่งพินิจพิเคราะห์และเก็บสะสมไว้จนนับไม่ถ้วน รวมไปถึงของเก่าของโบราณวัตถุต่างๆ มากมาย ที่เป็นมรดกอารยธรรมภูเวียง อาทิ ระฆัง ฆ้อง หม้อ จาน ถ้วย โถ โอ ชาม ขันหมาก ถาด ไหดิน หิน เงินทอง สำริด จนต้องมีการสร้างเก็บไว้เป็นพิพิธภัณฑ์ในที่สุด