ประวัติ อาจารย์เปล่ง บุญยืน
ฆราวาสจอมขมังเวทย์แห่งเมืองสุรินทร์
อาจารย์เปล่ง บุญยืน ฆราวาสจอมขมังเวทย์มหาเสน่ห์แห่งแดนอีสานใต้ ผู้สร้างตำนานขุนแผนอันโด่งดัง อ.ท่าตูม จ.สุรินทร์
อาจารย์เปล่ง บุญยืน ท่านเกิดเมื่อวันศุกร์ที่ ๗ มิถุนายน พ.ศ.๒๔๖๐ ที่บ้านท่าตูม จ.สุรินทร์ อาจารย์เปล่งท่านแต่งงานกับนางยอน บุญยืน มีบุตรธิดาร่วมกัน ๗ คน
๑. ด.ต.ผดุง บุญยืน(เสียชีวิตแล้ว)
๒. นายเสน่ห์ บุญยืน
๓. นางเสนาะ บุญยืน
๔. นายวรวุฒิ บุญยืน
๕. ด.ต.ทองอยู่ บุญยืน
๖. นายวรศักดิ์ บุญยืน
๗. นางเพ็ญศรี บุญยืน
อาจารย์เปล่ง บุญยืน ท่านเคยเล่าว่า สมัยที่ท่านเป็นนักศึกษา ได้หลบหนีเข้าป่า เนื่องจากขณะนั้นมีเหตุการณ์วุ่นวายทางการเมือง รัฐบาลได้กวาดล้างคนที่มีความคิดเห็นต่างและท่านถูกกล่าวหาว่า เป็นพวกคอมมิวนิสต์ ท่านจึงหลบหนีเข้าป่าไปเจอ ท่านอาจารย์ภา มีเชื้อสายเขมรและเป็นพระที่มีวิชาอาคมแก่กล้าและขลังมาก อาจารย์ภาได้ชักชวน อาจารย์เปล่ง ให้บวชด้วยกัน ท่านจึงตัดสินใจบวชออกเดินธุดงค์ไปทั่วป่าลึก ทั้งในเขตสุรินทร์ ศรีสะเกษ กระทั่งฝั่งเขมรและลาว ท่านฝึกจิตเจริญวิปัสสนากรรมฐานอยู่กลางป่าเป็นเวลากว่า ๑๐ ปี ท่านต้องกินเผือกกินมันแทนข้าว นอนในถ้ำที่มีงูเห่าชุกชุม และนั่งสมาธิเป็นประจำ ท่านเล่าว่างูเยอะมากแต่ไม่สามารถทำอะไรท่านได้ เพราะท่านก็มีวิชาอาคมไว้ป้องกันตนเหมือนกัน อาจารย์ภาเคยขอร้องท่านให้บวชตลอดชีวิตด้วยกัน แต่ท่านไม่สามารถทำได้เพราะท่านมีครอบครัวแล้ว และเมื่อถึงเวลาอันสมควรท่านจึงขอลาสิกขากลับมาสู่เพศฆราวาสอีกครั้งในปี พ.ศ. ๒๔๙๒
หลังจากนั้นอีก ๖ เดือนต่อมาท่านก็สอบบรรจุเป็นครูเริ่มชีวิตข้าราชการแต่นั้นมาจนเกษียณอายุราชการในตำแหน่งผู้บริหารโรงเรียนมัธยม ด้วยความสามารถทางจิตของท่าน ทำให้ท่านเสกอะไรก็ขลังมีพลังไปหมดทำแบบรู้แจ้งเห็นจริงเชื่อถือได้พิสูจน์ได้ คนในเขตอีสานใต้ต่างรู้ซึ้งถึงกิตติศัพท์ของท่านดี มีครั้งหนึ่งชาวบ้านได้เชิญท่านเป็นเจ้าพิธีในงานเปิดสะพานแม่น้ำมูล ท่านได้นั่งบริกรรมอยู่บนเรือ ขณะที่นั่งท่านบริกรรมอยู่นั้นได้มีปลาจำนวนมากกระโดดขึ้นเต็มลำเรือเลย ทำให้ชาวบ้านจำนวนมากที่มาร่วมพิธีต่างตะลึงไปตามๆ กัน จนเป็นที่เลืองลือระบือไกล เป็นที่รักใคร่และศรัทธาของชาวบ้านมาจวบจนทุกวันนี้
เครื่องรางหรือวัตถุมงคลที่ท่านสร้างนั้นมวลสารหลักๆ คือผงพราย ท่านบอกว่า ถ้าใครโดนคุณไสยมา พรายจะถอนออกให้ และกันคุณไสยมนต์ดำได้ด้วย อีกทั้งเป็นมหาเสน่ห์อย่างแรง ท่านบอกว่าใช้พระท่านนั้นคุ้มครองตัวได้แน่นอน ย้อนไปในระหว่างที่ท่านบวชได้ธุดงค์ติดตามพระอาจารย์ภาอยู่นั้นท่านได้ศึกษาวิชาอาคมจาก “พระอาจารย์ภา” จนหมดสิ้นทั้งคงกระพันและเมตตา ว่านยาต่างๆ วิชาที่สำคัญอีกอย่างคือ วิชาทางพราย ซึ่งน้อยคนนักที่จะเรียนสำเร็จ วิชาทางพรายของท่านอาจารย์เปล่งนั้นท่านทำเพื่อสงเคราะห์เพื่อนมนุษย์และเป็นการสร้างกุศลแก่พรายเอง (พรายที่นำมาทำผงพรายเป็นพรายที่พลีด้วยความสมัครใจไม่ได้บังคับแต่ประการใด)
ท่านอาจารย์เปล่ง เป็นผู้เชี่ยวชาญทางไสยเวทย์ ท่านได้สยบวิญญาณก่อนและให้วิญญาณนั้นๆ รับศีลรับพรทำให้เขาได้อยู่ดีมีสุข แล้วจึงนำกระดูกมาบดเสกกำกับด้วยคาถาให้มีผลทางด้านเมตตา มหานิยม ท่านอาจารย์เปล่งท่าน สร้างด้วยเมตตาธรรม จึงปลอดภัย ไม่เข้าตัว บางเรื่องทางคุณพระท่านสงเคราะห์ไม่ได้ติดพระด้วยพระธรรมวินัยบังคับ บางอย่างฆราวาสจึงเสกได้ขลังกว่าพระอย่างเช่นมหาเสน่ห์ดลจิตดลใจคนประมาณนั้น ท่านอาจารย์เปล่งได้ใช้วิชาอาคมต่างๆ ที่ร่ำเรียนมาสงเคราะห์ผู้ที่ตกทุกข์ได้ยากมากมายอาทิ สมัยที่ท่านยังรับราชการอยู่มีเด็กนักเรียนคนหนึ่งถูกงูกัด จะไปโรงพยาบาลแต่ก็ไม่ทัน พ่อแม่จึงพามาหาท่านให้ช่วยรักษา ท่านก็เมตตาเสกเป่าพ่นให้เป็นที่อัศจรรย์เด็กหายจากพิษร้ายรอดตาย
หลังจากนั้นมากิติศัพท์ของท่านก็แพร่ออกไปชนิดที่เรียกว่าไม่ว่างูชนิดไหนจะมีพิษมากน้อยเท่าไรถ้าสามารถมาถึงมือของท่านได้รับรองว่ารอดทุกราย ส่วนทางด้านเมตตาก็มีปรากฏอยู่เนืองๆ ครั้งหนึ่งมีเพื่อนครู (ขอสงวนนาม) ไปหลงรักสาวแต่สาวเจ้ากับไม่เล่นด้วยเสียใจจนคิดฆ่าตัวตาย อาจารย์เปล่งเมือทราบเรื่องโดยตลอดแล้วจึงขอคำมั่นสัญญาจากเพื่อนครูและรับปากที่จะช่วยเหลือ จากนั้นท่านก็เสกสิ่งของให้ไป เพื่อนครูของท่านก็สมหวังในระยะเวลาต่อมา ความรู้ความสามารถของท่านไม่แสดงออกมากนักติดที่เพื่อนเป็นครู กลัวจะเป็นที่ครหานินทาว่า งมงายไร้สาระจนกระทั่งท่านเกษียณอายุ
ท่านอาจารย์เปล่ง จึงสร้างพระเครื่องและเครื่องรางของขลังอย่างจริงจังจนเป็นที่นิยมอย่างกว้างขวางทั้งในและต่างประเทศ คนสิงคโปร์, ฟิลิปปินส์, มาเลเซีย, จีน รวมถึงฮ่องกงก็ศรัทธาท่านบูชาวัตถุมงคลและเครื่องรางของท่านแล้วต่างมีประสบการณ์มากมาย พระเครื่องที่ท่านอาจารย์เปล่งสร้างครั้งแรก เป็นพิมพ์พระขุนแผน ผู้ที่ได้รับแจกไปจากท่านต่างยืนยันเป็นเสียงเดียวกันหมดว่าเป็นสุดยอดทางเมตตาจริงๆ กรรมวิธีการสร้างและเสก ท่านอาจารย์เปล่งได้ชี้แจงรายละเอียดให้ทราบโดยไม่ปิดบังดังนี้ว่า มวลสารที่ท่านใช้ส่วนใหญ่จะเป็นว่านทั้ง ๑๐๘ ชนิดและยังมีพวกพญาว่านที่สำคัญ ๆ อีก มาก อาทิ พญากาหลง พญางิ้วดำ พญาเครือหลง พญาสาลิกา พญาตะเคียนหิน พญาแกแล ผงพรายกุมารีแฝด ผงจินดามณี กาฝาก ๑๐๘ สีผึ้งมหาเสน่ห์พระอาจารย์ภา มวลสารต่างๆ
ที่กล่าวมาได้รับการปลุกเสกจากพระอาจารย์ภาผู้เป็นปรมาจารย์ของท่านก่อนแล้วจึงกำหนดฤกษ์ยามในการกดพิมพ์หมดฤกษ์ก็หยุด ในครั้งแรกนั้นท่านสร้างไว้ในจำนวนไม่มากนักแต่ไม่เกิน ๑๐๐ องค์เมื่อการสร้างเสร็จสิ้นก็เข้าสู่ขั้นตอนการปลุกเสก ท่านใช้เวลาการปลุกเสกนานกว่า ๓ เดือน จนกระทั่งพระขุนแผนทุกองค์เคลื่อนไหวพลิกไปพลิกมา
จึงไม่น่าแปลกใจเลยที่พระขุนแผนรุ่นแรกถูกขนานนามว่า “พระขุนแผนมหาเสน่ห์” เพราะพุทธคุณด้านเมตตามหาเสน่ห์ มหานิยม มหาละรวยแรงมากเป็นพิเศษ จนเป็นที่แสวงหาของศิษย์ และเมื่อพระขุนแผนรุ่นแรกหมดไปลูกศิษย์หลายคนหลายคณะที่ไม่มีโอกาสได้เป็นเจ้าของจึงขอร้องให้ท่านสร้างขึ้นอีก ซึ่งท่านเมตตาก็สร้างให้ตามประสงค์จนถึงปัจจุบันมีมากถึง ๗ รุ่น แล้วเรียงตามลำดับดังนี้
๑.พระขุนแผนมหาเสน่ห์ ป.๑
๒.พระขุนแผนชมตลาด ป.๒
๓.พระขุนแผนสยบมาร
๔.พระขุนแผนสะกดทัพ
๕.พระขุนแผนพราย ๕๙ ตน
๖.ขุนแผนหลังพระอินทร์ทรงช้าง และสมเด็จจอมสุรินทร์
๗.ขุนแผนพิมพ์สยบมารรุ่นบูชาครู ๘๔ ปี
พระขุนแผนของท่าน อ.เปล่ง บุญยืน ทุกรุ่นนับว่าไม่เคยสร้างความผิดหวังให้ใครเลย ผู้ที่เคยใช้แล้วต่างยอมรับทุกราย รุ่นที่ศิษย์ขอร้องให้ท่านสร้างให้โดยเฉพาะในปี พ.ศ.๒๕๔๓ ท่านได้สร้างพระสมเด็จจอมสุรินทร์ขึ้นตามคำเรียกร้องของคณะศิษย์ที่อยากได้พระเครื่องที่มีพุทธคุณทางด้านค้าขายและโชคลาภโดยเฉพาะ ส่วนเครื่องรางของขลัง ท่านสร้างไว้มากมายหลายชนิด อาทิ อิ้นคู่มหาเสน่ห์ ที่มีอานุภาพทางเมตตามหาเสน่ห์อย่างสูงสุด ใครเห็นใครรัก หญิง ชายหลง ผู้ใหญ่เมตตา นับเป็นวัตถุมงคลที่สร้างชื่อเสียงให้ท่านเป็นอย่างมาก รัก–ยม ท่านอาจารย์เมตตาปลุกเสกจนมีฤทธิ์ช่วยผู้บูชาทำมาหากิน ทำมาค้าขาย เรียกลูกค้าเรียกคนเข้าร้าน เรียกงาน เรียกเงินเรียกทอง เฝ้าบ้านและตาม จะเรียกใช้ สีผึ้ง จะเน้นทางเมตตาค้าขายผสมผงกุมาร ลูกอมเพชรกลับ คุณพิเศษด้านกลับร้ายกลายเป็นดี ตะกรุดโทน มีพุทธคุณครบทุกด้าน ไม่ว่าจะเป็นมหาเสน่ห์ มหาโชค มหาลาภ มหาอุด ตะกรุดพญางูเหลือม ดีทางเรียกเงินเรียกทอง ทำมาหากินสะดวกสบาย โชคลาภเงินทองเข้ามาหาเอง เหมือนพญางูเหลือมที่สัตว์เล็กใหญ่พากันมาให้กินโดยไม่ต่อสู้ขัดขืน ปลัดขิก เมตตา ค้าขาย กันเขี้ยวงา นอกจากนี้ก็ยังมีอีกหลายชนิดเช่น ผ้ายันต์ต่างๆ ซึ่งระยะหลังๆท่านได้เลิกทำแล้วเพราะอายุมาก เครื่องรางทุกชนิด พระเครื่องทุกรุ่นทุกพิมพ์ ท่านสร้างด้วยความพิถีพิถันทุกขั้นตอน
อาจารย์เปล่ง กล่าวว่า เวลาท่านทำวัตถุมงคลหรือเครื่องรางให้คนเอาไปใช้ ท่านต้องทำให้เต็มที่ ไม่ให้เสียชื่อ ท่านเรียนรู้จริง ทำได้จริงจึงกล้ารับประกัน วัตถุมงคลหรือเครื่องรางผงพรายที่ท่านทำนั้นท่านปลุกเสกผงพรายเพื่อช่วยเหลือเพื่อนมนุษย์และเป็นกุศลแก่พรายด้วย ไม่ใด้ใช้พรายไปทำร้ายใคร กุศโลบายของท่านเพื่อให้คนและพรายร่วมกันสร้างบุญใช้วัตถุมงคลหรือเครื่องรางของท่านแล้วหมั่นทำบุญถวายสังฆทานท่านจะพบแต่ความสุขความเจริญ
อ.เปล่ง บุญยืน ถึงแก่กรรมที่โรงพยาบาลสุรินทร์ด้วยโรคปอดบวมรุนแรงเมื่อวันที่ ๑๖ กุมภาพันธ์ พ.ศ.๒๕๕๒ สิริอายุ ๘๗ ปี
◉ ด้านวัตถุมงคล
การสร้างเครื่องรางทุกชนิด พระเครื่องทุกรุ่นทุกพิมพ์ อ.เปล่ง สร้างด้วยความพิถีพิถันทุกขั้นตอน ท่านเคยกล่าวไว้ว่า เวลาทำวัตถุมงคลหรือเครื่องรางให้คนเอาไปใช้ ต้องทำให้เต็มที่ ไม่ให้เสียชื่อ และมีวัตถุประสงค์ในการสร้างคือ วัตถุมงคลหรือเครื่องรางผงพรายที่ปลุกเสกผงพรายเพื่อช่วยเหลือเพื่อนมนุษย์และเป็นกุศลแก่พรายด้วย ไม่ได้ใช้พรายไปทำร้ายใคร
ด้วยเหตุผลนี้ อ.เปล่ง จึงได้นำคุณพรายเหล่านั้นมาสถิตอยู่ในวัตถุมงคลและเครื่องรางของท่าน จุดมุ่งหมาย คือ ให้พรายเหล่านั้นได้มาช่วยผู้ที่ครอบครอง เพื่อให้พรายได้เกิดบุญและกุศลไปด้วย พรายไม่สามารถทำบุญเองได้ต้องอาศัยคนช่วยเหลือหรือทำบุญให้ การใช้พรายส่วนใหญ่จะเน้นหนักไปทางเรื่อง “มหาเสน่ห์” และช่วยเหลือผู้ครอบครองให้สมความมุ่งมาดปรารถนา ในสิ่งที่ไม่เกินกรรมของบุคคลเหล่านั้น
การเล่นสายพรายให้เฮี้ยนและขลังจำเป็นต้องท่องคาถาปลุกเสกพรายให้มีพลังด้วย “จิเจรุนิ นะมะพะทะ” หรือ “จิเจรุนิจิตตัง เจตตะสิกัง รูปัง นิมิตตัง กุมาโรวา เจ้ารัก เจ้ายม กุมารทอง พรายทอง อาคัจฉาหิ เอหิ เอหิ นะมะพะทะ” และหมั่นทำบุญถวายสังฆทานอุทิศส่วนบุญกุศลให้พราย จะได้มีพลังช่วยเหลือเราอย่างเต็มที่ ผู้ให้ก็จะกลายเป็นผู้รับสิ่งดีงามในไม่ช้าก็เร็ว
อ.เปล่ง ไม่ได้กำหนดว่าต้องเซ่นไหว้หรือเลี้ยงด้วยอะไร แต่มีความเชื่อว่า การเลี้ยงพรายในวันโกนได้ผลมากกว่าวันอื่นๆ แต่ปัจจุบันเลี้ยงพรายและกุมารทุกวันเนื่องจากเขาให้คุณเราทุกวันเลยให้เขาทุกวันเช่นกันเป็นสิ่งตอบแทน
สำหรับคุณวิเศษแห่งของขลัง อ.เปล่ง ท่านได้สร้างพระเครื่องและเครื่องรางของขลังอย่างจริงจังหลังจากเกษียณอายุราชการ ซึ่งเป็นที่นิยมอย่างกว้างขวางทั้งในและต่างประเทศ คนสิงคโปร์, ฟิลิปปินส์, มาเลเซีย, จีน รวมถึงฮ่องกงก็ศรัทธาท่านบูชาวัตถุมงคลและเครื่องรางของท่านแล้วต่างมีประสบการณ์มากมาย
พระเครื่องที่ อ.เปล่งสร้างครั้งแรก เป็นพิมพ์พระขุนแผน ผู้ที่ได้รับแจกไปจากท่านต่างยืนยันเป็นเสียงเดียวกันหมดว่าเป็นสุดยอดทางเมตตาจริงๆ เพราะพุทธคุณด้านเมตตามหาเสน่ห์ มหานิยม มหาละลวยแรงมากเป็นพิเศษ จนเป็นที่แสวงหาของศิษย์ จึงเรียกว่า “พระขุนแผนมหาเสน่ห์”
เมื่อ พระขุนแผนรุ่นแรก อ.เปล่ง บุญยืน หมดไปลูกศิษย์หลายคนหลายคณะที่ไม่มีโอกาสได้เป็นเจ้าของจึงขอร้องให้ท่านสร้างขึ้นอีก ซึ่งท่านเมตตาก็สร้างให้ตามประสงค์จนถึงปัจจุบันมีมากถึง ๗ รุ่น ดังที่กล่าวมาแล้ว
ส่วนเครื่องรางของขลัง ท่านสร้างไว้มากมายหลายชนิด อาทิ อิ้นคู่มหาเสน่ห์ ที่มีอานุภาพทางเมตตามหาเสน่ห์อย่างสูงสุด ใครเห็นใครรัก หญิง ชายหลง ผู้ใหญ่เมตตา นับเป็นวัตถุมงคลที่สร้างชื่อเสียงให้ท่านเป็นอย่างมาก รัก-ยม ท่านอาจารย์เมตตาปลุกเสกจนมีฤทธิ์ช่วยผู้บูชาทำมาหากิน ทำมาค้าขาย เรียกลูกค้าเรียกคนเข้าร้าน เรียกงาน เรียกเงินเรียกทอง เฝ้าบ้านและตามจะเรียกใช้ สีผึ้ง จะเน้นทางเมตตาค้าขาย ลูกอมเพชรกลับ คุณพิเศษด้านกลับร้ายกลายเป็นดี ตะกรุดโทน มีพุทธคุณครบทุกด้านไม่ว่าจะเป็นมหาเสน่ห์ มหาโชค มหาลาภ มหาอุด ตะกรุดพญางูเหลือม ดีทางเรียกเงินเรียกทอง ทำมาหากินสะดวกสบาย โชคลาภเงินทองเข้ามาหาเอง เหมือนพญางูเหลือมที่สัตว์เล็กใหญ่พากันมาให้กินโดยไม่ต่อสู้ขัดขืน ปลัดขิก เมตตา ค้าขาย กันเขี้ยวงา นอกจากนี้ก็ยังมีอีกหลายชนิดเช่น ผ้ายันต์ต่างๆ
◉ คาถาขุนแผนสะกดทัพ อ.เปล่ง บุญยืน (ตั้งนะโม ๓ จบ)
“โอมสิทธิ ศรี ศรี สวาหะ ตัวกูคือพญาหงส์ทองทั้งคู่ ตัวหนึ่งยังอยู่ตัวหนึ่งบินไป สุนะโมโล
นะโมพุทธายะ จงเป็นของกูนะ นะมะพะทะ นะมะพะทะ นะมะพะทะ”
◉ คุณวิเศษ ของการบูชาขุนแผน อ.เปล่ง บุญยืน
๑. ดับทุกข์ภัยอันตรายต่างๆ ระงับเรื่องร้าย ค้ำดวงชะตาไม่ให้ตกต่ำ
๒. สะกดคน ทั้งหลาย ให้เมตตา รักใคร่เอ็นดู
๓. เตือนภัย เมื่อจะเกิดเหตุเภทภัย อันตรายต่างๆ
๔. เมื่อห้อย ขุนแผนนี้ไปที่ใด เราจะสะกดได้หมด สุดท้ายเราจะเป็นผู้ชนะ เช่น มีคดีความก็จะว่าความชนะได้เปรียบเขา ,ไม่เป็นรองใคร หากเล่นพนันก็จะมีดวงเหนือกว่า , การค้าการขายมีเมตตา ค้าขายดี , ติดต่อการงาน เจรจาสิ่งใดก็สำเร็จ แม้แต่คุยกับเจ้านาย ผู้มีอำนาจก็ สามารถ สะกด ให้เขายอมเราทั้งหมด ไม่กล้าแม้แต่จะอ้าปากตำหนิเรา
ขอบคุณภาพและข้อมูลจาก: นพอนันต์ ศิษย์หลวงปู่ศรี มีพรายดีอาจารย์เปล่ง