วันอังคาร, 26 พฤศจิกายน 2567

หลวงพ่อพริ้ง มณีธาโน วัดโบสถ์โก่งธนู อ.เมือง จ.ลพบุรี

ประวัติและปฏิปทา
หลวงพ่อพริ้ง มณีธาโน

วัดโบสถ์โก่งธนู
อ.เมือง จ.ลพบุรี

พระครูประสาทวรคุณ (หลวงพ่อพริ้ง มณีธาโน) วัดโบสถ์โก่งธนู อ.เมือง จ.ลพบุรี
พระครูประสาทวรคุณ (หลวงพ่อพริ้ง มณีธาโน) วัดโบสถ์โก่งธนู อ.เมือง จ.ลพบุรี

พระครูประสาทวรคุณ (หลวงพ่อพริ้ง มณีธาโน) วัดโบสถ์โก่งธนู พระเกจิอาจารย์ผู้ทรงวิทยาคมเข้มขลัง แห่งเมืองลพบุรี

๏ ชาติภูมิ
หลวงพ่อพริ้ง มณีธาโน นามเดิมชื่อ “พริ้ง เพ็งเพชร์” เกิดเมื่อวันที่ ๒ พฤศจิกายน พ.ศ.๒๔๔๓ ปีชวด ตรงกับ วันศุกร์ขึ้น ๑๑ ค่ำ เดือน ๑๒ ที่ บ้านคุ้งนามอญ ตำบลโก่งธนู อ.เมืองลพบุรี จ.ลพบุรี บิดาชื่อ “นายดึก” และมารดาชื่อ “นางแสง เพ็งเพ็ชร” มีพี่น้องร่วมบิดามารดาเดียวกัน ๖ คนคือ
๑.หลวงพ่อพริ้ง เพ็งเพ็ชร
๒.นางผลบ ไข่หงส์
๓.นายกรู่ เพ็งรอด
๔.นายโหน่ง เพ็งรอด
๕.นายบ่าย เพ็งรอด
๖.นางสาวสาคร เพ็งรอด

ตอนหลังหลวงพ่อพริ้งได้เปลี่ยนนามสกุลเป็น เพ็งรอด ตามน้องชายที่ชื่อนายกรู่ ซึ่งเป็นคนต้นคิดที่เปลี่ยน และได้ใช้ เพ็งรอด มาตลอด

๏ ปฐมวัย
ในวัยเด็ก โยมบิดาได้นำไปฝากเรียนอักษรสมัยในสำนักของ พระอาจารย์จาด วัดไก่เตี้ย อำเภอบ้านแพรก จังหวัดพระนครศรีอยุธยา หลวงพ่อพริ้งได้ศึกษาอักษรสมัยทั้งภาษาไทยและภาษาขอม ในสำนักของพระอาจารย์จนเป็นที่แตกฉานและเรียนได้เร็วกว่าศิษย์รุ่นเดียวกัน เมื่อเยาว์วัยหลวงพ่อมีร่างกายไม่แข็งแรง บอบบางและอ่อนแอ โยมบิดาจึงคิดว่าถ้าให้มาประกอบอาชีพ เช่นการทำนาคงจะไปไม่ไหว จึงให้หลวงพ่อพริ้งบรรพชาเป็นสามเณร เมื่ออายุ ๑๓ ปี ในสำนักของพระอาจารย์จาด เมื่อบรรพชาแล้วก็ศึกษา เล่าเรียนเวทย์มนต์จากพระอาจารย์จาดซึ่งเป็นพระอาจารย์ที่ทรงคุณวุฒิที่สุดในยุคนั้น

๏ อุปสมบท
หลวงพ่อพริ้ง ได้บรรพชาจนอายุครบ ๒๐ ปี ได้อุปสมบทเมื่อวันที่ ๒ เมษายน พ.ศ.๒๔๖๓ ณ พัทธสีมาวัดญาณเสน ตำบลโก่งธนู อำเภอเมืองลพบุรี จังหวัดลพบุรี โดยมี หลวงพ่อหลำ เจ้าอาวาสวัดญาณเสน เป็นอุปัชฌาย์ หลวงพ่อแสน วัดญาณเสน เป็นกรรมวาจารย์ หลวงพ่อฝอย วัดญาณเสน เป็นอนุสาวนาจารย์ ได้รับฉายาว่า “มณีธาโน

ในระหว่างที่จำพรรษาอยู่กับพระอุปัชฌาย์วัดญาณเสนได้ปฏิบัติอุปัฏฐากพระอุปัชฌาย์ อันเป็นหน้าที่ของนะวะกะจนครบ ๕ พรรษาในระหว่างจำพรรษาอยู่กับพระอุปัชฌาย์ ลวงพ่อพริ้ง มีความประสงค์จะเดินธุดงค์และพระภิกษุในสมัยนั้นเมื่อค้างพรรษาก็มักจะออกธุดงค์กันเมื่ออนุโมทนากฐินกันเรียบร้อยแล้วหลวงพ่อพริ้งและพระภิกษุอื่นรวม ๗ รูปและหลวงพ่อได้รับการแต่งตั้งให้เป็นผู้นำการออกปฏิบัติกัมมัฏฐานธุดงค์วัตร หลวงพ่อพริ้งได้ไปกราบอาจารย์หลำ เพื่อเดินธุดงค์หลวงพ่อหลำได้ทดสอบกรรมฐาน และสมาธิจิตของหลวงพ่อพริ้งจนเป็นที่แน่ชัดจึงอนุญาติให้หลวงพ่อพริ้งเดินธุดงค์ได้ตามความปรารถนาหลวงพ่อพริ้งได้เรียนและฝึกสมถะ ภาวนา และวิปัสสนา กรรมฐานจากพระอาจารย์หลำ

ชีวิตตำแหน่งและสมณศักดิ์ เมื่ออุปสมบทแล้ว ๕ พรรษาได้ปกครองวัดและเป็นเจ้าอาวาสวัดโบสถ์ตำบลโก่งธนู ตั้งแต่วันที่ ๑๖ พฤศจิกายน พ.ศ.๒๔๖๘ เป็นต้นมา

๒๙ กันยายน พ.ศ.๒๔๘๐ เป็นเจ้าคณะตำบลโก่งธนู
๓๐ มกราคม พ.ศ.๒๔๘๒ เป็นพระอุปัชฌาย์
๕ ธันวาคม พ.ศ.๒๔๙๖ เป็นพระครูสัญญาบัตรชั้นตรี
๕ ธันวาคม พ.ศ.๒๕๑๖ ได้รับแต่งตั้งให้เป็นพระครูสัญญาบัตรชั้นโท พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ ได้ทรงสถาปนาพระเดชพระคุณเป็นพระครูสัญญาบัตรที่ “พระครูประสาทวรคุณ

พระครูประสาทวรคุณ (หลวงพ่อพริ้ง มณีธาโน) วัดโบสถ์โก่งธนู อ.เมือง จ.ลพบุรี
พระครูประสาทวรคุณ (หลวงพ่อพริ้ง มณีธาโน) วัดโบสถ์โก่งธนู อ.เมือง จ.ลพบุรี

๏ การศึกษาพุทธาคม
ความตั้งใจของ หลวงพ่อพริ้ง ที่มีอยู่แต่เดิม ตั้งแต่ออกบวช สิ่งที่สำคัญยิ่ง ที่ท่านต้องการ คือการแสวงหาความสงบ โดยยึดเอากิจธุดงค์วัตร มาปฏิบัติ ท่านได้เปิดเผยความตั้งใจของท่าน เกี่ยวกับเรื่องดังกล่าว โดยท่านเรียนให้ หลวงพ่อจาด ซึ่งเป็นพระอาจารย์ของท่าน รวมทั้งหลวงพ่อหล่ำ พระอุปัชฌาย์ ความตั้งใจมีมาตั้งแต่เป็นสามเณรได้กราบเรียนต่อพระอาจารย์ของท่านว่าหากมีโอกาส จะขอออกธุดงค์ แต่หลวงพ่อจาดท่านก็ได้ ชี้แนะว่า เป็นเรื่องที่ไม่ง่าย โดยมีเหตุผลต่อศิษย์ของท่านว่า ผู้ที่จะปฏิบัติแห่งธุดงค์นั้น ได้สำเร็จนั่นมิใช่เรื่องง่ายๆ เพราะป่าดงลึก นั้นเต็มไปด้วยอันตราย เพราะจะต้องเจอกับอันตราย เจอสัตว์ป่าที่ดุร้าย นานาชนิด รวมทั้งจิตวิญญาณ ที่ยังไม่พ้นวิบากกรรมจะรบกวนหลอกหลอน อาถรรพ์ของป่าดงนั้นมีมากนัก หนทางที่จะแก้อาถรรพ์ดังกล่าว ได้ หากเรามีภาวะทางจิตแก่กล้า พลังจิตนั้นจะได้มาก็ด้วยการฝึก หมั่นปฏิบัติวิปัสสนากรรมฐาน เพื่อให้จิตของเรามีสมาธิ มีปัญญา มีพลัง ถึงขั้นนั้นแหละ จึงจะใช้เป็นเกราะป้องกันตัว ป้องกันกิเลสในใจทั้งหลายได้ หลังจากที่หลวงพ่อหล่ำ ท่านได้การทดสอบทางอารมณ์ทางด้านกรรมฐาน จากสิทธิ์รักของท่านเป็นที่พอใจแล้ว จึงได้อนุญาตให้ท่านเดินธุดงค์ พร้อมกับมอบให้พระภิกษุอีก ๗ รูป ร่วมธุดงค์ไปกับท่านด้วย โดยมอบหมายให้ หลวงพ่อพริ้ง เป็นหัวหน้าคณะ เริ่มต้นตั้งเป้าหมายสู่ภาคเหนือ เส้นทางในสมัยอดีตนั้น มิได้สะดวกสบายเหมือนกับปัจจุบัน กว่าจะเดินทาง ทะลุไปถึงอีกหัวเมืองจะต้องฝ่าฟันอุปสรรคต่อความลบแชท ของป่าดง ห้วยหนองคลองบึงสัตว์ร้ายนานาชนิด แต่ท่านก็มิได้รีบเร่ง ค่ำถึงไหนก็ปรากฏที่นั่นถือเป็นกิจการเจริญจิตร ภาวนา แผ่เมตตาต่อสรรพสัตว์เป็นหลักเช้าก็เก็บเครื่องอัฐบริขาร ผ่านภูเขาหรือปทำ คันเจอหมู่บ้านก็ถือโอกาสโปรดญาติโยมความราบรื่นนั้นพบได้น้อยมากเจอแต่อุปสรรคนานาประการ รวมทั้งพบจิตวิญญาณตามรบกวน ท่านก็เอาชนะมาด้วยการแผ่เมตตาอุทิศส่วนกุศลไปให้ก็สามารถผ่านพ้นมาได้ทุกครั้ง พบพระอาจารย์ดีเมืองปากน้ำโพ หลังจากที่ได้ผ่านอุปสรรคนานาประการมาได้ ตามเส้นทางยังได้พบกับพระอาจารย์ดีมีวิชาหลายท่านต่างได้แลกเปลี่ยนความรู้ทางด้านการปฏิบัติมนต์พระคาถาซึ่งกันและกันเป็นการต่อยอดวิชาอาคม และพลังจิตที่มีอยู่เดิมให้แข็งแกร่งยิ่งขึ้นไปอีก รวมทั้งการธุดงค์เข้าสู่เขตวัดท่านก็ไม่เคยละที่จะมาขอเข้าร่วมลงอุโบสถ ทำสังฆกรรมกับวัดที่ได้เดินทางไปถึงบางครั้งเดินเข้าสู่หมู่บ้านนานครั้งจะมีญาติโยม ชาวบ้าน จะมีโอกาส ได้พบกับพระ โอกาสที่ได้ทำบุญมีน้อย เมื่อได้เห็นพระ ก็นับว่าเป็นบุญ บางหมู่บ้านยังได้จัดทำเพิงพักให้ พร้อมกับนิมนต์ให้พำนักอยู่หลายๆ วัน ซึ่งท่านก็ตอบสนองความต้องการตามความศรัทธาของชาวบ้านเป็นประจำ ขณะที่หลวงพ่อพริ้งเดินทางธุดงค์เข้าเขตนครสวรรค์เป็นสถานที่ห่างไกลผู้คน อยู่กลางป่า พอได้เวลาช่วงเย็นเห็นสถานที่โคนต้นไม้ไม่ห่างไกลธารน้ำไหล จึงหยุดพักปักกลดส่งน้ำที่ลำธารขณะที่เสร็จจากการส่งน้ำกำลังจะเดินทางกลับที่พำนัก ได้พบกับพระภิกษุท่านหนึ่งเดินสวนทางมา คำแรกที่พระภิกษุท่านนั้นทักทายท่านว่า จะไปไหนหลวงพ่อพริ้งก็ตอบ ไปว่า มาจากลพบุรีเพื่อปฏิบัติกิจธุดงค์ พระภิกษุรูปนั้นยังได้ถามท่านต่อไปอีกว่า กรดปักอยู่ที่ไหน ท่านก็ตอบว่า ปรับอยู่ใต้โคนต้นไม้ใหญ่ พระภิกษุรูปนั้น ยังตอบ ต่ออีกว่าเดินมาไม่เห็นมี หลวงพ่อพริ้งท่านจึงชักชวนพระภิกษุรูปนั้น ไปยังกรดของท่านจากการสังเกตเห็นว่าพระภิกษุรูปนั้นท่านเดินถือกิ่งไม้บางนาท่านตลอดจึงคิดได้ว่าพระภิกษุรูปนั้นนี้ ท่านต้องเป็นพระดีมีวิชาแน่นอน เมื่อคิดได้ดังนั้นท่านได้ก้มลงกราบขอฝากตัวเป็นศิษย์กับพระภิกษุรูปนั้นทันทีหลังจากนั้นจึงได้รับคำบอกจากพระภิกษุรูปนั้นว่าอาตมาคือหลวงพ่อพวงวัดหนองกระโดนนครสวรรค์และท่านได้ชักชวนหลวงพ่อพริ้งให้พำนักที่วัดหนองกระโดนและด้วยความอัธยาศัยที่ตรงกันทำให้หลวงพ่อพวงเมตตาท่านจึงได้ถ่ายทอดวิชาอาคมให้กับหลวงพ่อพริ้งและหลวงพ่อพริ้งท่านก็ตอบสนองในฐานะศิษย์ที่พึงปฏิบัติต่อพระ จานได้อยู่ช่วยเหลืองานของท่าน เป็นเวลาถึง ๒ พรรษา

วิชาสุดยอดที่ได้รับการถ่ายทอดจาก หลวงพ่อพวง วัดหนองกระโดน นครสวรรค์ท่านได้ถ่ายทอดวิชาบังไพร ตัดสายรุ้ง ละลายเมฆและอีกหลายวิชา ที่เป็นประโยชน์ต่อหลวงพ่อพริ้งต่อไปในอนาคตดังนั้น จึงนับได้ว่า หลวงพ่อพริ้งวัดโบสถ์โก่งธนู ลพบุรี ท่านเป็นศิษย์ที่ใกล้ชิดกับ หลวงพ่อพวง วัดหนองกระโดน ซึ่งท่านประสงค์จะมอบวิชาสุดยอดให้กับ หลวงพ่อพริ้ง โดยตรงจึงเกิดเหตุอัศจรรย์ทำให้พบกับท่านในเบื้องต้น ทดสอบมนต์ขลังหลังจากที่ได้อยู่ปรนนิบัติรับใช้พระอาจารย์เป็นเวลาพอสมควรรวมทั้งได้รับการถ่ายทอดวิชาอาคม กับท่านแบบเต็มๆ แล้วหลวงพ่อพริ้งได้แจ้งความประสงค์ต่อพระอาจารย์เพื่อจะธุดงค์ต่อซึ่งหลวงพ่อพวงท่านก็มิได้ขัดศรัทธา แต่ขอให้สิทธิ์ของท่านนั้นได้ทดสอบความขลังของวิชาที่ได้มอบให้เสียก่อน เพื่อผลที่จะใช้เป็นเกราะป้องกันตัวป้องกันอันตรายในระหว่างเดินธุดงค์ซึ่งมีอันตรายรออยู่ข้างหน้า หลวงพ่อพริ้ง ท่านได้ทดสอบการตัดสายรุ้งละลายเมฆให้กับพระอาจารย์ดูปรากฏผลเป็นที่พอใจของหลวงพ่อพวงเป็นอย่างมากเพราะวันที่มีการทดสอบ เป็นวันที่มีฝนโปรยลงมาจากท้องฟ้าฝนหายกลายเป็นละอองทองประกายเป็นสายรุ้งอย่างสวยงามหลวงพ่อพริ้งท่านได้ตั้งจิตภาวนาเสร็จแล้วชี้นิ้วไปที่สายรุ้งและที่เมฆฝนที่ตั้งเขาทะมึนปรากฏว่าก้อนเมฆละลายและสายรุ้งขาดเป็นช่วงช่วง ๓ ท่อน ส่งประกายสดใสหนีห่างออกจากกันอย่างน่าอัศจรรย์ยิ่ง ผลทดสอบเป็นที่พอใจของหลวงพ่อพวงเป็นอย่างยิ่ง ก่อนที่จะลาพระอาจารย์ หลวงพ่อพวง ท่านได้อำนวยพรอนุโมทนาพร้อมบอกต่อท่านอีกว่า หากมีเวลาก็ให้ผ่านมาเยี่ยมเยือนท่านบ้างเหตุการณ์ดังกล่าวระหว่าง หลวงพ่อพวง วัดหนองกระโดน และ หลวงพ่อพริ้ง วัดโบสถ์ เกิดอยู่ในช่วงปี พ.ศ.๒๔๖๕-๒๔๖๖ ขณะที่ หลวงพ่อพริ้ง ท่านเป็นพระภิกษุที่อยู่ในวัยหนุ่ม ต้องการเรียนรู้ศาสตร์ต่างๆ รวมทั้งค้นหาประสบการณ์แห่งชีวิตของท่าน ประสบการณ์ต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับ หลวงพ่อพริ้ง วัดโบสถ์โก่งธนู เป็นความรู้ที่ได้รับการถ่ายทอดจาก พระยวง หนึ่งในจำนวนพระที่ท่องธุดงค์ กับ หลวงพ่อพริ้ง มาโดยตลอดท่านได้ทำการถ่ายทอดให้กับผู้ใกล้ชิดศิษย์สายหลวงพ่อพริ้งได้รับฟังและมีการเล่าขานสืบต่อๆ กันมาจนถึงปัจจุบันประสบการณ์ต่างๆ นั้นบางครั้งเป็นเรื่องที่อัศจรรย์ที่เกิดขึ้นกับพระองค์โดยตรง ประสบการณ์ที่เกิดกับ พระยวง อยู่ในช่วงที่ธุดงค์ถึงกลางป่าเมืองเพชรบูรณ์ ซึ่งอยู่ในช่วงอำเภอหล่มสัก เป็นช่วงที่ยากลำบากต่อการเดินทางเป็นอย่างมากโอกาสที่จะพบกับชาวบ้านชาวป่า บางวันแทบจะไม่มีโอกาสได้พบบ้านเรือนผู้คนเมื่อถึงกลางป่าเมืองหล่มสักใกล้ค่ำหยุดหาทำเล ที่ทำการปักกลด เพื่อประกอบกิจแห่งการเจริญจิตภาวนาหลังจากส่งน้ำที่ลำธาร เสร็จหลวงพ่อพริ้งท่านก็เรียกพระร่วมคณะทั้งหมด มาพูดคุยแลกเปลี่ยนสิ่งที่ได้รับมาในการเดินทางพอได้เวลาต่างก็แยกย้ายกันเข้ากลดที่พัก เพื่อที่จะปฏิบัติกิจและพักผ่อนกันต่อไป พระยวงเดินกลับถึงที่พัก แต่ต้องรีบกลับมาหาหลวงพ่อพริ้งโดยเรียนกับท่านว่า ที่กลดของท่านนั้น ได้มีงูใหญ่ มาขดตัวนอนยึดพื้นที่ ของท่านเสียแล้วหลวงพ่อพริ้งก็ได้บอกพระยวงไปว่า

เขาจะนอนก็ให้เขานอนไปเถอะคุณก็มานอนที่กดผมก็ได้

ทั้งนี้ทั้งนั้นเป็นเพราะหลวงพ่อพริ้งท่านทราบโดยวิถีญาณของท่านว่า พระยวงนั้นปฏิบัติไม่ถูกต้องเป็นไปตามหลักปฏิบัติของพระที่ออกธุดงค์ กล่าวคือพระร่วงนั้นได้นำเงินติดตัวมาด้วย ท่านจึงบอก ให้พระยวงนำเงินที่ติดตัวของท่านทั้งหมดนั้น นำไปฝังดินและตั้งสัตยาธิษฐานว่าตั้งแต่นี้ต่อไปจะไม่ยินดีในเรื่องทรัพย์สินเงินทองเพราะผู้ที่ถือกิจธุดงค์วัตร นั้นไม่ยินดีเรื่องเงินทองจะต้องไม่นำติดตัวรวมทั้งไม่เข้าสู่บ้านเรือนของญาติโยมและเมื่อได้ปักกลด ที่ใดแล้วห้ามถอนกลด โดยเด็ดขาดนอกเสียจากถึงรุ่งสาง ที่จะละจากไปยังถิ่นอื่นๆ หลวงพ่อพริ้ง ท่านได้ทำการชี้แนะต่อพระยวงและพระที่ร่วมคณะของท่าน นับเป็นประสบการณ์ที่เกิดขึ้นกับพระยวงโดยตรง

๏ ผจญโครงช้างที่กลางป่าเมืองหล่มสัก
หลังจากละถิ่น ที่พระยวงได้พบกับงูใหญ่นอนขดอยู่ในกลด แล้ว รุ่งขึ้นอีกวันได้ถอนกลดเดินทางต่อ และมายังเมืองหล่มสักในช่วงนั้น เป็นเส้นทางที่ลำบากต่อการเดินทางเป็นอย่างมาก ไต่เนินเขาสูง ลงลำห้วย เป็นอยู่อย่างนั้นการเดินทางในแต่ละวันได้ระยะทางไม่มากนัก ขณะเดินทางใกล้ถึงลำธารน้ำไหลหลวงพ่อพริ้งท่านชี้ให้พระยวง รวมทั้งพระที่ร่วมคณะของท่าน ให้ดูที่ต้นไม้ที่มีความสูงเหนือศีรษะจึงเห็นรอยแตกแยกของเปลือกไม้ มีแตกเห็นอยู่หลายต้นด้วยกัน และที่พื้นปรากฏร่องรอยของเท้าช้าง บางแห่งมีรอยที่แตกต่างกันออกไปเป็นรอยเท้าที่เล็กลงท่านก็บอกต่อพระยวงไปว่าที่เห็นแปลกๆ ทั่วไปของต้นไม้นั้นเป็นเพราะถูกช้างใช้งาแทง เพื่อที่จะได้กินเปลือกไม้รอยที่เห็นใหญ่โตก็คือรอยเท้าของช้างนั่นไง ส่วนน้อยที่เล็กคงเป็นรอยของ เสือที่ฝากเอาไว้เห็นที่เราจะต้องเจอกับโขลงช้างแน่นอนเราอยู่ในพื้นที่นี้อันตราย สิ่งที่จะช่วยเราได้ต้องเร่งให้การเจริญจิตภาวนาแผ่เมตตา ไปให้พวกเขาตกค่ำ หลวงพ่อพริ้งท่านได้เข้าสู่กรดเจริญจิตภาวนา จนถึงเวลาใกล้สองยามได้ยินเสียงกิ่งไม้หักเสียงของหนักลงกระทบพื้นดิน ด้วยประสบการณ์ของท่านทราบได้ทันทีว่าเป็นสิ่งที่ได้ยินนั้นคือ เสียงที่มาของโคลงช้างใกล้ที่พักของท่านเข้ามาทุกขณะ หลวงพ่อพริ้งท่านจึงตั้งจิตอธิษฐานหากบุญบารมีของท่านหมดลงเพียงเท่านี้ก็ขอให้ฝูงโขลงช้างเหยียบย่ำถึงแก่ชีวิต เราอโหสิไม่ถือเป็นบาปต่อกัน แต่หากบุญบารมีในการรับใช้พระพุทธศาสนายังคงมีอยู่ ขอให้รอดปลอดภัยรอดอันตรายจากโขลงช้างรวมทั้งคมเขี้ยวเล็บของเสือ สิ่งที่ไม่ลืมท่านได้ตั้งจิตรำลึกนึกถึงมนต์พระคาถาของพระอาจารย์นำกิ่งไม้ขึ้นมาเป่าเสกด้วยมนต์วิชาบังไพร เป็นเรื่องอัศจรรย์ของช้างทั้งหมดเมื่อใกล้ถึงกับเดินหลีกหนีไปทางอื่น ทำให้ท่านและคณะสงฆ์ปลอดภัยด้วยสมาธิจิต แห่งการเจริญภาวนาและมนต์วิชาบังไพรตำหรับของหลวงพ่อพวงวัดหนองกระโดน ปรากฏให้รู้เห็นเป็นที่อัศจรรย์

พระครูประสาทวรคุณ (หลวงพ่อพริ้ง มณีธาโน) วัดโบสถ์โก่งธนู อ.เมือง จ.ลพบุรี
พระครูประสาทวรคุณ (หลวงพ่อพริ้ง มณีธาโน) วัดโบสถ์โก่งธนู อ.เมือง จ.ลพบุรี

๏ มรณภาพ
หลวงพ่อพริ้ง วัดโบสถ์โก่งธนู มรณภาพลง เมื่อวันที่ ๒๔ มิถุนายน พ.ศ.๒๕๒๗ เวลา ประมาณ ๑๖.๓๐ น.รวมสิริอายุได้ ๘๔ ปี พรรษาได้ ๖๔

รูปเหมือนบูชา หลวงพ่อพริ้ง วัดโบสถ์โก่งธนู
รูปเหมือนบูชา หลวงพ่อพริ้ง วัดโบสถ์โก่งธนู

๏ ประวัติวัดโบสถ์โก่งธนู
วัดโบสถ์โก่งธนู เป็นวัดเก่าวัดหนึ่งในแถบลุ่มแม่น้ำลพบุรี ตามหลักฐานรวมทั้งที่มีการสืบทอด เล่าต่อๆกันมาวัดโบสถ์นั้นได้สร้างมาตั้งแต่ปี พ.ศ.๒๓๐๐ หลักฐานของเจดีย์ ยังคงมีอยู่ได้รับรู้ว่าวัดนี้สร้างมาแต่สมัยกรุงศรีอยุธยา รวมทั้งแนวเขตพัทธสีมามีศิลาแลงล้อมรอบ วัดโบสถ์โก่งธนู ตั้งอยู่ริมแม่น้ำลพบุรีฝั่งตะวันออก ขึ้นการปกครองกับหมู่ที่ ๔ ตำบลโก่งธนู อำเภอเมือง จังหวัดลพบุรี นับตั้งแต่พระราชทานเขต วิสุงคามสีมา ได้ผ่านเจ้าอาวาสปกครองมาแล้วหลายท่านด้วยกัน เริ่มตั้งแต่หลวงพ่อ สะอาด, หลวงพ่อฉิม, หลวงพ่อหลำ, หลวงพ่ออินทร์, หลวงพ่อฝอย, หลวงพ่อพริ้ง จนถึงยุค พระครูโสภณกิตติวัฒน์ เจ้าอาวาสรูปปัจจุบัน

แต่ก่อนนั้น สภาพของวัดโบสถ์โก่งธนูตกอยู่ในสภาพที่ทรุดโทรม ลุถึงสมัยหลวงพ่อพริ้ง ท่านปกครอง ท่านได้ทำการพัฒนามาตามลำดับ ในสมัยของท่านนั้นมีการเสริมสร้างเสนาสนะใหม่หลายอย่างด้วยกัน สำหรับของเดิม ที่มีอยู่หากทรุดโทรม แต่หากทำการพัฒนาแล้วยังคงสภาพท่านก็เก็บรักษาเอาไว้วัดโบสถ์โก่งธนู จึงสอบเข้าแห่งความรุ่งเรืองเรื่อยมาตั้งแต่หลวงพ่อพริ้ง ท่านปกครองผลงานด้านพัฒนาได้รับการพัฒนาสืบต่อโดย พระครูโสภณกิตติวัฒน์ รับแนวทางของหลวงพ่อพริ้ง มาปฏิบัติต่อภายในอาณาเขต วัดโบสถ์ ได้มีโอกาสผ่านเข้าไปถึงสิ่งที่สะดุดตาต่อสายตาผู้ที่มาเยือนก็คือ มณฑปสวยงามสถานที่ปรากฏสิ่งนั้น เป็นสถานประดิษฐานร่างอันบริสุทธิ์ของ หลวงพ่อพริ้ง พระครูประสาทวรคุณ นอนสงบนิ่งอยู่ในหีบแก้วโปร่งใสรอการกราบไหว้ ขอพรจากสาธุชนคนทั่วไป วัดโบสถ์โก่งธนู ได้รับพระราชทานวิสุงคามสีมาครั้งหลังเมื่อวันที่ ๓๑ มกราคม พ.ศ.๒๕๐๕ เป็นวัดสังกัดมหานิกาย

๏ วัตถุมงคล
หลวงพ่อพริ้ง ท่านไม่นิยมสร้างวัตถุมงคล ลูกศิษย์พยายามรบเร้าให้สร้างแต่ไม่สำเร็จ จนกระทั่งปี พ.ศ.๒๕๐๔ หลวงพ่อพริ้ง ท่านได้รับแต่งตั้งเป็น “พระครูประสาทวรคุณ” ลูกศิษย์ได้ขอให้หลวงพ่อสร้างเหรียญรุ่นแรก ท่านจึงเมตตาให้สร้าง เหรียญรุ่นแรก สี่เหลี่ยมหลังพระพุทธ มี ๒ พิมพ์คือ หน้าเล็กและหน้าใหญ่ มี ๒ เนื้อคือทองแดงกะไหล่ทองและอัลปาก้า สำหรับอัลปาก้าราคาจะสูงกว่าเพราะสร้างน้อย

เหรียญรุ่นแรก หลวงพ่อพริ้ง วัดโบสถ์โก่งธนู ปี ๒๕๐๔ (หน้าใหญ่)0
เหรียญรุ่นแรก หลวงพ่อพริ้ง วัดโบสถ์โก่งธนู ปี ๒๕๐๔ (หน้าใหญ่)
เหรียญรุ่นแรก หลวงพ่อพริ้ง วัดโบสถ์โก่งธนู ปี ๒๕๐๔ (หน้าใหญ่)
เหรียญรุ่นแรก หลวงพ่อพริ้ง วัดโบสถ์โก่งธนู ปี ๒๕๐๔ (หน้าใหญ่)
รูปเหมือนปั๊ม พิมพ์เตารีด หลวงพ่อพริ้ง วัดโบสถ์โก่งธนู ปี๒๕๐๕
รูปเหมือนปั๊ม พิมพ์เตารีด หลวงพ่อพริ้ง วัดโบสถ์โก่งธนู ปี๒๕๐๕

นอกจากนี้รูปหล่อโบราณ รุ่นแรก สร้างประมาณปี พ.ศ.๒๕๐๕ จะอุดกริ่ง ด้านหลัง ด้านหน้าจะเขียนชื่อเพี้ยนว่า “หลงพ่อพริ้ง” ไม่ใช่ “หลวงพ่อพริ้ง” เป็นรูปหล่อที่มีประสบการณ์สูงมากๆ พวกทหารลพบุรีนิยมกันมากโดยเฉพาะเรื่องแคล้วคลาด เมตตา คงกระพัน

รูปเหมือนปั๊ม รุ่นแรก หลวงพ่อพริ้ง วัดโบสถ์โก่งธนู
รูปเหมือนปั๊ม รุ่นแรก หลวงพ่อพริ้ง วัดโบสถ์โก่งธนู
รูปเหมือนปั๊ม หลวงพ่อพริ้ง วัดโบสถ์โก่งธนู ปี ๒๕๐๗
รูปเหมือนปั๊ม หลวงพ่อพริ้ง วัดโบสถ์โก่งธนู ปี ๒๕๐๗
รูปเหมือน เข่ากว้าง หลวงพ่อพริ้ง วัดโบสถ์โก่งธนู
รูปเหมือน เข่ากว้าง หลวงพ่อพริ้ง วัดโบสถ์โก่งธนู