ประวัติและปฏิปทา
หลวงพ่อผิว สิลวิสุทโธ
วัดสง่างาม
อ.เมือง จ.ปราจีนบุรี
พระครูสีลวิสุทธาจารย์ (หลวงพ่อผิว สิลวิสุทโธ) วัดสง่างาม พระเกจิอาจารย์ผู้เชี่ยวชาญทางด้านแพทย์แผนโบราณ มีเมตตาธรรมสูงแห่งเมืองปราจีนบุรี
◉ ชาติภูมิ
พระครูสีลวิสุทธาจารย์ (หลวงพ่อผิว สิลวิสุทโธ) วัดสง่างาม เกิดเมื่อ วันพฤหัสบดี ที่ ๑๙ เดือนพฤษภาคม ปีมะโรง พ.ศ.๒๔๓๕ ที่บ้านท่างาม อ.เมือง จ.ปราจีนบุรี ในวัยเยาว์ท่านช่วยบิดามารดาทำนา อาศัยศึกษาเรียนรู้อยู่กับพระที่วัดเลียบ ซึ่งอยู่ใกล้บ้านท่าน จนอ่านออกเขียนได้ทั้งหนังสือไทยและขอม
◉ อุปสมบท
เมื่อท่านอายุครบ ๒๑ ปี ก็เข้าอุปสมบทที่ วัดเลียบ เมื่อเดือนมิถุนายน พ.ศ.๒๔๕๖ โดยมี “พระครูปราจีนมุนี” (หลวงพ่อทอง) เจ้าคณะจังหวัดปราจีนบุรี วัดหลวงปรีชากุล เป็นพระอุปัชฌาย์ (หลวงพ่อหร่ำ) วัดเลียบ เป็นพระอนุสาวนาจารย์ ได้รับฉายา “สีลวิสุทฺโธ”
เมื่อบวชแล้ว ท่านก็ได้อยู่จำพรรษาและเล่าเรียนพระธรรมวินัยอยู่วัดเลียบ เป็นเวลา๑๐ พรรษา แล้วจึงย้ายมาอยู่ (วัดสง่างาม) ซึ่งอยู่ห่างออกมาทางทิศตะวันออกของวัดเลียบคนละฝั่งแม่น้ำ โดยท่านก็ได้ดำรงตำแหน่งเป็นเจ้าอาวาส วัดสง่างาม ตั้งแต่ปี พ.ศ.๒๔๖๖
หลวงพ่อผิว ท่านเป็นพระที่ไม่ชอบอยู่นิ่ง ตั้งแต่เริ่มปกครองวัดก็ได้บูรณปฏิสังขรณ์ และพัฒนาสิ่งที่เป็นประโยชน์ต่อพระศาสนาและพุทธศาสนิกชนอย่างไม่หยุดยั้ง โดยเฉพาะด้านการศึกษาท่านได้ก่อตั้งโรงเรียนพระปริยัติธรรมขึ้นเป็นครั้งแรก ของวัด และปรากฏว่าในสมัยนั้นมีพระหลายรูปที่สอบได้นักธรรม ตรี โท และเอก ซึ่งลูกศิษย์ของท่านที่เข้ามาเรียนในกรุงเทพฯ ได้เป็นเปรียญหลายรูป
สำหรับ ผลงานที่โดดเด่นที่สุดก็คือ โบสถ์หลังปัจจุบันของ วัดสง่างาม ซึ่งท่านได้ใช้ความสามารถก่อสร้างเสร็จในระยะเวลา ๕ ปี สิ้นงบประมาณไปเกือบ สองล้าน บาท
คุณวิเศษอย่างหนึ่งของหลวงพ่อผิว ที่เล่าขานกันนั่นก็คือ ท่านมีความเป็นพระผู้มีเมตตาธรรมสูง โดยได้ใช้วิชาความรู้ด้านการแพทย์โบราณช่วยเหลือสงเคราะห์ อนุเคราะห์แก่ผู้เจ็บป่วย เช่น แขนหัก ขาหัก กระดูกหัก จนหายได้อย่างน่าอัศจรรย์ แม้แต่นายแพทย์สมัยใหม่ยังต้องมาให้ท่านช่วยต่อกระดูกก็มี รวมไปถึงสัตว์ต่างๆ อาทิ ช้าง ม้า วัว ควาย ที่ขาหักท่านก็ช่วยรักษามา นับไม่ถ้วน
◉ ลำดับสมณศักดิ์
ในปี พ.ศ.๒๔๖๖ เป็นพระกรรมวาจาจารย์
ในปี พ.ศ.๒๔๗๕ เป็นเจ้าคณะหมวด (เจ้าคณะตำบล) บางบริบูรณ์
ในปี พ.ศ.๒๔๘๒ เป็นพระอุปัชฌาย์
ในปี พ.ศ.๒๔๙๓ ได้รับพระราชทานสมณศักดิ์เป็น พระครูสัญญาบัตรชั้นตรี มีราชทินนามว่า “พระครูสีลวิสุทธาจารย์”
ในปี พ.ศ.๒๕๐๖ เลื่อนเป็น เจ้าคณะตำบลชั้นโท ในนามเดิม
ในปี พ.ศ.๒๕๑๓ เลื่อนเป็นเทียบผู้ช่วยเจ้าอาวาสพระอารามหลวงชั้นเอก
นอกจากนี้ ท่านยังเป็นหนึ่งในบรรดาพระเกจิอาจารย์ดังที่มักได้รับอาราธนา ไปในพิธีพุทธาภิเษกพระเครื่องหลายต่อหลายรุ่น ซึ่ง ครั้งที่เป็นเกียรติประวัติก็คือ ได้รับฎีกาเข้าไปร่วมพิธีพุทธาภิเษกเหรียญพระแก้วมรกต ภปร.ในพระบรมมหาราชวัง ในงานฉลอง วัดพระศรีรัตนศาสดาราม เมื่อปี พ.ศ.๒๕๒๕
หลวงพ่อผิว วัดสง่างาม นับเป็นพระเถระที่สูงด้วยอายุและพรรษากาล และเป็นเกจิอาจารย์ที่มีชื่อเสียงโด่งดังองค์หนึ่งทางภาคตะวันออก มีผู้เคารพนับถือทุกระดับชั้น ทั้งข้าราชการ พ่อค้า ประชาชน ในจังหวัด และในถิ่นที่ห่างไกลออกไป ภาพลักษณ์ของท่าน คือพระนักพัฒนา ที่เก่งทั้งพัฒนาวัตถุนำความเจริญรุ่งเรืองมาสู่อาราม และเก่งในการพัฒนาบุคคลจนได้ดีมีชื่อเสียงจำนวนมาก
◉ มรณภาพ
บั้นปลายชีวิต หลวงพ่อผิว วัดสง่างาม ท่านอาพาธด้วยโรคเบาหวาน และโรคแทรกอีกหลายโรค โดยเข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลเปาโลฯ กรุงเทพฯ และโรงพยาบาลเจ้าพระยาอภัยภูเบศร เป็นครั้งคราว จนกระทั่งวาระสุดท้าย หลวงพ่อผิว ท่านถึงแก่มรณะภาพลง เมื่อวันที่ ๑๖ กุมภาพัน พ.ศ.๒๕๒๘ เวลา ๐๘.๔๕ น. สิริอายุได้ ๙๓ ปี ๗๒ พรรษา
◉ ด้านวัตถุมงคล
พระเครื่องและวัตถุมงคลที่ท่านสร้างปรากฏความขลังในด้าน พุทธคุณ มีประสบการณ์ดีทั้งด้านเมตตามหานิยม อยู่ยงคงกระพัน แคล้วคลาดปลอดภัย เหรียญรุ่นแรก สร้างปี พ.ศ.๒๕๐๒ เนื้อทองแดง กะไหล่ทอง
พระเครื่องของท่าน มีประสบการณ์ดีทุกด้าน ส่วนใหญ่จะเป็นเหรียญซึ่งมีอยู่หลายรุ่นด้วยกัน อาทิ เหรียญรูปไข่รุ่นแรกสร้างปี พ.ศ.๒๕๐๒, รุ่น ๒ สร้างปี พ.ศ.๒๕๑๒, รุ่น ๓ สร้างปี พ.ศ.๒๕๑๕ ที่ระลึกอายุครบ ๘๐ ปี, รุ่น ๔ สร้างปี พ.ศ.๒๕๑๗ เป็นเหรียญรูปอาร์ม, รุ่น ๕ สร้างปี พ.ศ.๒๕๑๙ เป็นเหรียญรูปหยดน้ำ นอกนั้นก็มีพระสมเด็จเนื้อว่านรุ่นแรก สร้างปี พ.ศ.๒๕๐๒ หลังปั๊มรูปเหรียญรุ่นแรก, พระสมเด็จ ๙ ชั้น, รูปหล่อปั๊มรุ่นแรก สร้างปี พ.ศ.๒๕๑๕, แหนบลงยา, ล็อกเกตภาพสี ฯลฯ เป็นต้น