ประวัติ พระครูสุจิตตานุรักษ์ (จวน สุจิตโต) วัดหนองสุ่ม จ.สิงห์บุรี
หลวงพ่อจวน วัดหนองสุ่ม เป็นเกจิอาจารยทมเมตตาธรรมสูง และมีเอตทัคคะเป็นเยี่ยม พุทธคุณที่เด่นที่สุด ทางเมตตามหานิยม และ แคล้วคลาด หลวงพ่อเป็นผู้มีวาจาสิทธิ์ เป็นที่ ประจักษ์แก่บุคคลทั่วไป
ชาติกำเนิด
ท่านพระครูสุจิตตานุรักษ์ (หลวงพ่อจวน) ได้ ถือกําเนิดมาจากครอบครัวชนบท กลางท้องทุ่ง ณ ท้องที่ตําบลห้วยชัน อําเภออินทร์บุรี จังหวัดสิงห์ บุรี หลวงพ่อเกิดเมื่อวันศุกร์ เดือน ๙ ปีเถาะ ตรง กับ พ.ศ. ๒๔๕๘ จากต้นตระกูล “ทิพย์กรรณ” โยม มารดาชื่อ อิน โยมบิดาชื่อ เคลือบ มีพี่น้องร่วมท้อง เดียวกัน ๖ คน เป็นชาย ๓ คน หญิง ๓ คน หลวงพ่อเป็นคนสุดท้อง โยมมารดาหลวงพ่อเสียชีวิตตั้ง แต่หลวงพ่อยังเล็ก
การศึกษาเบื้องต้น
หลวงพ่อได้ศึกษาเล่าเรียนครั้งแรกที่โรงเรียน ประชาบาล วัดหนองสุ่ม จนจบชั้นประถมปีที่ ๓ หลวงพ่อก็ต้องออกจากโรงเรียนไปช่วยโยมบิดาและ พี่ ๆ ประกอบอาชีพ ในสมัยที่หลวงพ่อยังอยู่วัยหนุ่ม หลวงพ่อเป็นคนสงบเสงี่ยม เรียบร้อย เป็นที่รัก ของเพื่อน ๆ และผู้หลักผู้ใหญ่ โดยทั่วไป กล่าวกันว่าหลวงพ่อไม่เคยมีเรื่องมีราวกับใครเลย มีแต่เป็นพวกเป็นหมู่ เข้าไหนเข้าได้ ประกอบกับเป็น ผู้ที่มีรูปร่างสง่างาม และมีอุปนิสัยสุขุม เยือกเย็น มีอัชฌาสัยอันดี จึงเป็นที่รักและนับถือของประชาชน ทั่วไป นับว่าหลวงพ่อเป็นผู้ที่โชคดีมากคนหนึ่ง แทบจะหาคนเกลียดหลวงพ่อไม่ได้เลย
สมณศักดิ์ที่ได้รับ
หลวงพ่อจวน สีลวัณโต ได้รับสมณศักดิ์เป็น พระครูชั้นประทวน ที่พระครูจวน เมื่อ ๕ ธันวาคม ปีกึ่งพุทธกาลพอดี และต่อมาได้รับตําแหน่งพระครูสัญญาบัตร ที่ พระครูสุจิตตานุรักษ์ เมื่อ ๕ ธันวาคม ๒๕๑๒ สําหรับตําแหน่งพระครูสัญญาบัตรของ หลวงพ่อนี้ แปลได้ความว่า ผู้รักษาจิตอันบริสุทธิ์ ซึ่งตรงกับลักษณะนิสัย และจริยาวัตรของหลวงพ่อเป็นอย่างยิ่ง หลวงพ่อเป็นผู้มีเอตทัคคะอันแน่วแน่ และมั่นคง มีจิตใจสะอาดบริสุทธิ์ มีเมตตาธรรมอั สูง หลวงพ่อเป็นที่พึ่งทางจิตใจของประชาชนโดยทั่วไป ไม่เป็นผู้มีความชื่นชมยินดีในตําแหน่งหน้าที่ ลาภยศใด ๆ มีแต่ความสันโดษ มักน้อย สมถะ และถ่อมตัวอยู่เป็นนิจ
ผลงานการก่อสร้างในอดีต
หลวงพ่อได้ก่อสร้างถาวรวัตถุต่างๆ ภายในวัดขึ้นอย่างมากมาย จากวัดหนองสุ่มที่ไม่มีอะไรเลย จนเป็นวัดที่มีหน้ามีตาพอควรแก่ท้องถิ่นในที่นี้จะขอกล่าวรวม ๆ จะไม่แยกรายละเอียด เช่น การก่อสร้างพระอุโบสถที่งดงามพอควร สร้างศาลา การเปรียญ สร้างหอฉัน หอประชุม กุฏิ โรงปะรําพิธี การประปา ไฟฟ้า โรงเรียนประชาบาล สิ่งต่างๆ ที่กล่าวมานี้ ได้สําเร็จลุล่วงด้วยดี คิดเป็นเงินค่า ก่อสร้างประมาณไม่ต่ํากว่าร้อยสามสี่สิบหมื่น หากหลวงพ่อไม่เป็นที่เคารพนับถือและเลื่อมใสของประ ชาชนทั่วไปแล้ว เงินจํานวนเป็นร้อยหมื่นเช่นนี้ หลวงพ่อจะหามาได้ง่ายๆ จนได้รับคําชมจากพระผู้ ใหญ่ว่า วัดสุ่มเงินลุ่มทอง
การศึกษาวิทยาคม
หลวงพ่อได้ศึกษาวิทยาคมกับพระอาจารย์ชื่อ ดังหลายท่าน เช่น หลวงพ่อแป้น พระอาจารย์ชื่อดังแห่งวัดบ้านไร่ ที่ประชาชนชาวจังหวัดสิงห์บุรี และจังหวัดใกล้เคียงรู้จักและเลื่อมใสในพุทธคุณของหลวงพ่อแป็นเป็นอย่างดี และหลวงพ่อกอง พระภิกษุชื่อดังทางตะกรุดโทน แห่งจังหวัดสุโขทัย คุณครูโฉม แห่งบ้านบางระจัน เมืองแห่งประวัติศาสตร์ในอดีต และพระอาจารย์ทางปักษ์ใต้อีกหลายท่าน
หลวงพ่อได้ศึกษาอยู่กับพระอาจารย์ต่างๆ จนมีความ เชี่ยวชาญสามารถทําวิชาวิทยาคมได้สมใจของแต่ละอาจารย์เป็นอย่างดี หลวงพ่อได้ศึกษาด้วยตนเอง ฝึกฝนปฏิบัติฝึกอํานาจจิต ให้มีจิตมั่นคงอยู่เป็นนิจ จนเป็นที่ยอมรับนับถือ แก่เกจิอาจารย์ด้วยกัน และเป็นที่เคารพนับถือของประชาชนทั่วไป
จริยาวัตรของหลวงพ่อ
หลวงพ่อจวน เป็นพระที่มีจิตสะอาดบริสุทธิ์จริงๆ มีเมตตาธรรมอันสูง ปฏิบัติตามพระธรรม วินัยโดยเคร่งครัด หลวงพ่อเป็นพระที่มีจริยาวัตรอันงดงามยิ่ง รักสันโดษ ถ่อมตัว มีปฏิปทากับประชาชนโดยสม่ําเสมอเท่าเทียมกันทุกคน
วันหนึ่งๆ จะมีประชาชนไปหาหลวงพ่อมิได้ขาด อย่างน้อยที่สุดก็เป็นสิบๆ ราย เริ่มตั้งแต่เช้า จนเย็นเลยทีเดียว จะได้พักผ่อนบ้างก็ตอนฉันเพลเท่านั้น หลวงพ่อจะต้องนั่งรับเยี่ยมญาติโยมที่มาหาเป็นวันๆ เช่นนี้ เป็นกิจวัตร ประชาชนที่ไปหาหลวงพ่อนั้นมีสารพัดทุกข์ เช่น ให้หลวงพ่อเจิมรถ วัวหาย ควายพลัด หมู ไก่ เจ็บป่วย ก็ไปให้หลวงพ่อรักษา ท้องแก่ใกล้กําหนด ก็ไปให้หลวงพ่อประพรมน้ําพระพุทธมนต์ แต่ละรายหลวงพ่อก็ช่วย เหลือตามควรแก่ทุกท่านด้วยดี และก็ประสบผลสม ความตั้งใจ แต่ละวันจะมีแขกไปหามิได้ขาด การจะนิมนต์หลวงพ่อไปในงานมงคลต่าง ๆ นั้น ท่านจะต้องนิมนต์หลวงพ่อล่วงหน้าหลายๆ เดือนทีเดียว เพราะจะหาวันว่างในระยะใกล้ ๆ ยากเย็นเหลือเกิน ตามปกติหลวงพ่อก็ไม่ค่อยมีเวลาอยู่วัดนัก บางวัน ฉันเช้าที่ ชัยนาท ฉันเพลที่ ลพบุรี สวดมนต์เย็น ที่กรุงเทพฯ การที่ท่านจะนิมนต์ชนิดแบบมารับตัวไปเลยนั้น หากท่านไม่โชคดีจริงๆ แล้ว ยากเหลือเกิน ประชาชนที่ไปหาหลวงพ่อแต่ละรายไม่มีใครอยากกลับเร็ว เมื่อได้คุยกับหลวงพ่อแล้ว จะบังเกิด แต่ความปลื้มปีติ ชุ่มชื่นใจ เมื่อกลับไปแล้ว ก็อยากจะมาหาหลวงพ่ออีก
หลวงพ่อมีวาจาสิทธิ์
หลวงพ่อจวน เป็นพระที่สมถะ รักสงบ ใจดีมาก มีแต่ให้ศีลให้พรแก่ประชาชนทั่วไปตามควร แก่โอกาส มีอยู่ครั้งหนึ่งในงานประจําปีของวัดหนองสุ่ม มีประชาชนไปเที่ยวงานอย่างคับคั่ง ในงานนี้ คุณสุนทรและคุณประมวลก็ไปในงานนี้ด้วย เพราะเป็นผู้สร้างหอระฆังให้แก่วัดหนองสุ่ม และเป็นเจ้าภาพเลี้ยงน้ําชาอาหารแก่พระภิกษุ สามเณร อีกด้วย เหตุการณ์ที่ไม่น่าจะเกิดก็เกิดขึ้น คือ ผู้หมู่นายหนึ่ง เป็นตํารวจอยู่ที่สถานีตํารวจภูธร อําเภออินทร์บุรี เกิดคะนองมือตั้งใจไปจับของสงวน(ที่อก) ของคุณประมวลเข้า คุณประมวลโกรธมาก เพราะการกระทําของผู้หมู่ครั้งนี้เป็นการดูหมิ่นเหยียดหยามเกียรติของลูกผู้หญิง ต่อหน้าธารกํานัล และสามีของ นางอีกด้วย นับเป็นเรื่องที่น่าละอายเป็นที่สุด คุณประมวลตั้งใจจะไปเรียนให้นายอําเภอ และผู้บังคับกองๆ ซึ่งเป็นผู้บังคับบัญชาของผู้หมู่ก็อยู่ในงานนี้ด้วย แต่คุณสุนทรห้ามปราบไว้ คุณประมวลจึงไปกราบเรียนให้หลวงพ่อทราบ หลวงพ่อนั่งนิ่ง ประชาชนก็มุ่งดูว่า หลวงพ่อจะทําอย่างไร ในที่สุด หลวงพ่อจึงพูดว่า ไอ้นี่มันบ้า อย่าไปถือสาเลย ขอเสียทีนะ คุณประมวลก็ ไม่ติดใจ ด้วยเห็นแก่หลวงพ่อ จะเป็นด้วยอํานาจกรรมเก่า หรือด้วยเหตุใดก็เหลือเดา ผู้หมู่รายนี้ก็เป็นอันถึงซึ่งความวิบัติ ถูกออกจากทางราชการ และเป็นบ้าวิกลจริตไปในที่สุด
อีกรายหนึ่ง เป็นครูประชาบาลในละแวกนั้น ได้ไปยิงนกของหลวงพ่อ ยิงทางด้านหลัง กระสุนทะลุที่หน้าอกเป็นแผลใหญ่ นกพิราบตัวนั้นเมื่อโดนยิงเข้าก็บินหนีไปตกที่หน้าตักของหลวงพ่อพอดี และขาดใจตายต่อหน้าหลวงพ่อ หลวงพ่อนํานกตัว นั้นขึ้นมาพิจารณา แล้วพูดว่าถึงคราวก็ต้องตายนะ แม้จะไม่มีความผิดอะไร เมื่อถึงคราวก็ต้องตาย กรรมใดใครก่อ ย่อมเกิดแก่ผู้นั้น เขาทําเราฉันใด กรรมย่อมเกิดแก่เขาผู้นั้น ในที่สุด ครูประชาบาล ผู้นั้นก็ป่วยเจ็บปวดที่บริเวณหน้าอก และถึงแก่ความ ตายด้วยบาดแผลที่บริเวณอก ทําให้ประชาชนเชื่อมั่นว่า หลวงพ่อเป็นผู้มีวาจาสิทธิ์ โดยแท้
พุทธคุณที่เด่นที่สุดทางเมตตามหานิยมและ แคล้วคลาด
วัตถุมงคลของหลวงพ่อจวน ที่หลวงพ่อออกไปแล้วมีหลายอย่าง เช่น ตะกรุดโทน ผ้าแดง ตะกรุด ๑๐๘ และ ฯลฯ ผู้ที่ได้รับไปแล้ว ประสบพุทธคุณมากมาย ในที่นี้ จะขอกล่าวสัก ๓ ราย คือ รายนางฝน สุขมาก ราษฎรหมู่ที่ ๖ ตําบลโพนางดําออก อําเภอสรรพยา จังหวัดชัยนาท ได้นําวัว ๒ ตัวไป ในไร่ นําวัวขึ้นรถยนต์ไประหว่างทางที่ จะถึงด่านตรวจที่โคกสําโรง นางฝนก็นั่งภาวนาถึงหลวงพ่อ พร้อมกับนําเหรียญหลวงพ่อออกมา ขอให้หลวงพ่อช่วย อย่าให้ตํารวจต้องตรวจและกักขัง (วัว) เลยเพราะเสียเวลาและสงสารสัตว์มาก โดยเฉพาะด่านนี้บรรดาชาวไร่กลัวนักกลัวหนา พอๆกับรถบรรทุกกลัวตํารวจเลยทีเดียว โดยปกติด่านนี้ จะผ่านไปได้ยากเย็นพอสมควร ต้องถูกกักเพื่อทําการตรวจด่านเสมอ แต่รายนางฝนนี้ตํารวจไม่แล เลยปล่อยให้ผ่านไปอย่างไม่น่าเชื่อ ยังความปลื้มใจ แก่นางฝนเป็นอย่างยิ่ง
อีกรายหนึ่ง นายทองสุข พุ่มสมุทร เจ้าของร้านอาหาร สุขประสาทโอชา หน้าวัดประสาท อําเภออินทร์บุรี ได้ขี่รถจักยานยนต์ไปธุรกิจส่วน ตัวด้วยความเร็วสูง เกิดอุบัติเหตุประสานงากับรถ บรรทุกน้ําแข็งเต็มแรง ตัวคุณทองสุขกระเด็นไป ข้างถนนประมาณ ๓ วา รถน้ําแข็งทับรถคุณทองสุข เสียหายยับตัวคุณทองสุขเพียงแต่ หนังถลอก เลือดออกซิบๆ เท่านั้น ตามตัวก็เจ็บระบมไปหมดเหมือน กันแต่ก็ไม่เป็นอะไร ในตัวคุณทองสุขมีเพียงผ้าขาว ของหลวงพ่อจวน ติดตัวไปผืนเดียวเท่านั้น อุบัติเหตุครั้งนี้ คุณทองสุขเล่าพร้อมกับทําท่าทางประกอบ ผมคิดว่าผมตายแน่นอน แม้ไม่ถึงตาย ก็คงเลี้ยงไม่โตที่เดียว ดีว่าผมมีของดีของหลวงพ่อไปเท่านั้น
อีกรายหนึ่ง รายนี้นับว่าบารมีหลวงพ่อจวน ได้คุ้มครองไว้โดยแท้ เพราะไม่มีเหตุผลที่จะเป็นอย่างอื่นไปได้เลย เหตุการณ์อันระทึกใจนี้เกิดขึ้น เมื่อเดือนมีนาคม ๒๕๑๓ คุณสุนทร แสงมณีแห่ง บ้านเลขที่ ๙๖/๑ ตลาดอําเภออินทร์บุรี มีอาชีพทางการค้าขายขึ้นล่องระหว่างอําเภอวิเชียรบุรี จังหวัดเพชรบูรณ์ โดยนํารถบรรทุก ๑๐ ล้อ ไปบรรทุกถ่านมาขาย การค้าเจริญก้าวหน้าตามลําดับ เพราะเป็นรถของตนเองเสียค่าโสหุ้ยน้อย คุณสุนทร ถือ สุภาษิต ปลูกไมตรีอย่ารู้ร้าง สร้างกุศลอย่ารู้โรย ประกอบกับคุณสุนทรมีลักษณะเป็นลูกผู้ชายเต็มตัว ใจจริง ยิ้มง่าย ร่าเริง เป็นกันเองกับบุคคลทั่วไป แต่การค้า เมื่อผลประโยชน์ขัดกันก็บรรลัยตายเสียได้ข้างหนึ่งจึงจะดี คุณสุนทรก็ถูกปล้นในป่าเปลี่ยว ใต้ท้องที่อําเภอวิเชียรเล็กน้อย โดยมีค่าหัว ถึง ๑๕,๐๐๐ บาท วันนั้น คุณสุนทรถูกหัวหน้าโจร ชื่อดังจับตัวไปเวลาประมาณ ๙ ถึง ๑๐ โมงเช้า นําตัวคุณสุนทรไปในป่าเปลี่ยวที่ไม่เคยไปมาก่อนเลย ระหว่างทางบรรดาโจรก็ยิงปืนไปตลอดทาง คุณสุนทรทราบชะตากรรมได้ดีว่า ถึงอย่างไรเสีย ก็ต้องถูกนําไปเพื่อฆ่าทิ้งแน่นอน เพียงแต่พาเข้าไปลึกๆ หน่อยเป็นการปกปิดหลักฐานเท่านั้น คุณสุนทร จึงพูดขอร้องหัวหน้าว่า อย่าได้นําตัวผมไปไกลเลย ทรัพย์สมบัติในตัวก็ไม่มีอะไรเหลือแล้ว อาวุธสักชิ้นก็ไม่มี ฆ่าผมเสียตรงนี้เถิด ผมตายตรงนี้ ทางบ้านก็ไม่มีปัญญาจะติดตามมาพบศพผมได้ เพราะระยะทางไกลจากบ้านไม่รู้เท่าไรแล้ว ผมขอร้องอย่าได้ฆ่าลูกน้องที่ติดตามมาก็แล้วกัน เพราะคนหนึ่งเมียเพิ่งตาย ลูกเล็กๆ อีก ๔-๕ คน จะไม่มีใครเลี้ยงดู อีกคนหนึ่งก็ยากจนมากขอร้องเขาให้มาช่วยเท่านั้น ขอให้ฆ่าผมคนเดียวก็แล้วกัน แต่จิตสํานึกของคุณสุนทรก็ระลึกถึงแต่หลวงพ่อจวนเสมอ และระลึกถึงคุณงามความดีที่เคยได้สร้างสมไว้ คุณสุนทรเล่าว่า ผมไม่เคยกลัวตายเลย เมื่อถึงคราวก็ต้องตาย เรากําหนดเองไม่ได้และคิดว่า ถ้าตายก็คงไปสบาย เพราะได้สร้างบุญสร้างกุศล ไว้พอควร แก่ฐานะของตนเองแล้ว หัวหน้าโจรก็ไม่ปริปาก พูดใดๆ คงเดินทางต่อไป จนพบพรานป่าคนหนึ่ง หัวหน้าโจรบอกกับพรานว่า ช่วยพาออกจากป่าให้ด้วย หลงทางมา และได้บอกกับคุณสุนทรว่า ให้นําเงินมาไถ่ค่ารถ ๔๐,๐๐๐ บาท ณ ที่นัดหมาย คุณสุนทรกลับบ้านด้วยความดีใจที่รอดชีวิตกลับมาได้ และรีบไปหาหลวงพ่อทันที เล่าความจริงทั้งหมดให้ฟัง เป็นที่ประหลาดมาก วันเกิดเหตุวันนั้นทั้งวัน หลวงพ่อมีอาการง่วงนอนตลอด คล้ายจะรับรู้ทางกระแสจิตจากคุณสุนทรให้ช่วยเหลือ คุณสุนทร ถามหลวงพ่อว่า เงินที่นําไปไถ่รถคืนนี้จะสูญไหม เพราะกลัวว่าจะแถมทั้งรถแถมทั้งเงิน หลวงพ่อบอก ว่าไม่สูญ มีคนคอยช่วยเหลือ คนผิวเนื้อค่อนข้างดํา เงินที่เสียไปนี้ ไม่ต้องเสียใจจะหาได้มากกว่านี้อีก คุณสุนทรจึงให้หลวงพ่อช่วย หลวงพ่อจึงนั่ง บริกรรมอยู่นาน แล้วเรียกตัวเข้าไปพร้อมกับเป่ากระหม่อมและมอบวัตถุมงคลให้ไป คุณสุนทรจึงไปยังที่นัดหมาย ณ ท้องที่จังหวัดลพบุรี ไปพบชายคนหนึ่งไม่รู้จักกัน แต่มีลักษณะท่าทางเหมือนกับหลวงพ่อสั่ง จึงเข้าไปหาพอได้ความจึงเล่าความจริงให้ทราบ ชายผู้นั้นก็เกิดความสงสารรับจะติดต่อให้ ปรากฏภายหลังว่าชายผู้นั้นในอดีตเป็นขุนโจรชื่อดัง แต่ปัจจุบันถอดเขี้ยวเล็บหมดแล้ว ในที่สุด คุณสุนทรก็ไถ่รถคืนได้ในราคาที่ต่ํากว่ากําหนด ต่อมาภายหลัง หัวหน้าโจรได้พบกันจึงถามคุณสุนทรว่า มีอะไรดี ขอใช้บ้าง เพราะตัวเขาเองรู้แก่ใจดีว่า เขาเพียงแต่ยิงคุณสุนทรโป้งเดียว เขาจะได้เงินใช้ฟรีๆถึง ๑๕,๐๐๐ บาท แต่เขาก็ไม่ทําและไม่อยากได้เงิน จํานวนนั้น คุณสุนทรจึงพูดความจริงว่า เขาเป็นลูกศิษย์หลวงพ่อจวน ในวันนั้น ทั้งเนื้อทั้งตัวเขามี ผ้าแดง ตะกรุดโทน และแหวนของหลวงพ่อเท่านั้น ของทั้ง ๓ อย่างนี้ไม่มีใครแตะต้องเลย ส่วนของอื่น ๆ ถูกเก็บไปเกลี้ยง นับว่าพุทธคุณของหลวงพ่อมีไม่น้อย หากวัตถุมงคลของหลวงพ่อไม่มีพุทธคุณ ดีเยี่ยมทางเมตตามหานิยมและแคล้วคลาดแล้วไหน เลยคุณสุนทรจะรอดชีวิตกลับมาได้
การสร้างวัตถุมงคล วัตถุมงคลของหลวงพ่อ เฉพาะที่เป็นเหรียญ ออกครั้งแรกเป็นเหรียญรูปใบโพธิ์ เนื้อเงิน ออกจํานวนน้อยมาก มีรูปร่างลักษณะงดงาม แต่ประชาชนก็หวงแหนเหลือเกิน
หลวงพ่อจวน ได้รับพระราชทานสมณศักดิ์ ชั้นสูงสุดเป็นพระครูสัญญาบัตรชั้นโท ที่ “พระครูสุจิตตานุรักษ์” และได้รับการแต่งตั้งเป็นรองเจ้าคณะอำเภออินทร์บุรี เมื่อปี ๒๕๒๗
ท่านได้มรณภาพอย่างสงบ เมื่อวันอาทิตย์ที่ ๑๑ กรกฎาคม ๒๕๓๖ สิริอายุรวม ๗๙ ปี พรรษา ๓๕