ประวัติและปฏิปทา
หลวงปู่ลี อรุโณ
วัดปทุมธรรมาราม (บ้านชะโงม) อ.เมือง จ.นครพนม

พระครูมงคลธรรมาภิราม (หลวงปู่ลี อรุโณ) วัดปทุมธรรมาราม บ้านชะโงม หมู่ ๕ ต.ขามเฒ่า อ.เมือง จ.นครพนม พระนักพัฒนา มีลูกศิษย์ลูกหามากมายที่เคารพศรัทธาทั้งในพื้นที่ตำบลใกล้เคียงและในต่างจังหวัด
◎ ชาติภูมิ
หลวงปู่ลี อรุโณ นามเดิมชื่อ “ลี สุนา” เมื่อวันที่ ๑ มิถุนายน พ.ศ.๒๔๖๓ ปีระกา เป็นชาวบ้านชะโงม หมู่ ๕ บิดาชื่อ “นายโฮม” และมารดาชื่อ “นางบัวพา สุนา” เกิดในตระกูลชาวนา เป็นบุตรคนที่ ๒ ในจำนวนพี่น้องร่วมอุทร ๖ คน
ช่วงวัยเยาว์ขณะมีอายุ ๑๒ ปี เข้าพิธีบรรพชา บวชเรียนที่วัดสวัสดี บ้านชะโงม หลังบวชนาน ๑๐ ปี จึงลาสิกขา มีครอบครัวใช้ชีวิตฆราวาส แต่หลังภรรยาเสียชีวิต จึงตั้งใจเข้าสู่ร่มกาสาวพัสตร์จวบจนสิ้นอายุ
◎ อุปสมบท
ในปี พ.ศ.๒๕๓๖ ขณะมีอายุ ๗๓ ปี เข้าพิธีอุปสมบท ที่พัทธสีมาวัดจอมศรี ต.บ้านกลาง อ.เมือง จ.นครพนม โดยมีพระครูสิริปุญโญ เป็นพระอุปัชฌาย์, พระสิริปริยัติคุณ เป็นพระกรรมวาจาจารย์ และ เจ้าอธิการฉลาด เป็นพระอนุสาวนาจารย์
ย้ายมาที่ป่าช้ารกร้างหนองอีเฒ่า ซึ่งเป็นที่ตั้งวัดในปัจจุบัน แต่สมัยก่อนพื้นที่แห่งนี้ เป็นป่ารกร้าง ยังไม่มีศาลาการเปรียญ มีเพียงผ้าเต็นท์เก่าคลุมโยงผูกกับต้นไม้ เป็นศาลาชั่วคราว มีเพียงแคร่ไม้เก่า ตั้งพระพุทธรูป หลังมาอยู่ได้ ๑ ปี จึงเริ่มลงมือถากถางป่า
ต่อมา ยายทุมมี ทุมมา ได้บริจาคที่ดินเนื้อที่ ๑๓ ไร่ให้สร้างวัด จึงเริ่มถากถางป่าและควักเงินส่วนตัว ๔-๕ หมื่นบาท ซื้อที่ดินเนื้อที่ ๓ ไร่ เพิ่มเป็น ๑๕ ไร่ มีเจ้าภาพที่ศรัทธาก่อสร้างอุโบสถ สิ้นงบไปกว่า ๒ ล้านบาท แล้วเสร็จเมื่อปี พ.ศ.๒๕๓๖ หลังดำรงตำแหน่งเป็น เจ้าอาวาส
เมื่อปี พ.ศ.๒๕๓๗ จึงได้สร้างกุฏิ ๖ หลัง ศาลาการเปรียญ ศาลาอเนกประสงค์ ตามลำดับจนวัดเจริญรุ่งเรืองสืบมา
กระทั่งปี พ.ศ.๒๕๕๒ ลูกหลานที่ไปทำงานต่างจังหวัดและต่างแดน เล็งเห็นว่าเพื่อให้วัดมีปูชนียสถานไว้เป็นที่ยึดเหนี่ยวศูนย์รวมจิตใจ หลวงปู่จึงควักเงินส่วนตัวลงเสาเอก ก่อสร้างเจดีย์ด้านหลังอุโบสถ เป็นเจดีย์ความสูง ๓๐ เมตร สูง ๕ ชั้น
เจดีย์ชั้นบนสุดเป็นรูปทรงแปดเหลี่ยมพุ่มข้าวบิณฑ์ ฐานกว้างด้านละ ๑๐ เมตร การก่อสร้างคืบหน้าไปกว่าร้อยละ ๖๐ แต่ยังไม่แล้วเสร็จสมบูรณ์และยังไม่ได้ตั้งชื่อเจดีย์
การก่อสร้างเจดีย์ใช้เงินกฐินและผ้าป่า ที่ลูกหลานในต่างจังหวัดและต่างแดนเดินทางมาทอดถวายปีละ ๕-๖ แสนบาท นอกจากนี้ ยังได้สร้างหอระฆัง ซึ่งอยู่ระหว่างก่อสร้าง คาดว่าจะแล้วเสร็จใน ๑-๒ เดือน
เมื่อวันที่ ๕ ธันวาคม พ.ศ.๒๕๕๐ ได้รับพระราชทานเลื่อนสมณศักดิ์เป็นพระครูสัญญาบัตรชั้นโท ในราชทินนามที่ พระครูมงคลธรรมาภิราม
เมื่อวันที่ ๑ มีนาคม พ.ศ.๒๕๖๒ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว โปรดเกล้าฯพระราชทาน ผ้าไตรและเครื่องอัฐบริขาร
หลวงปู่ลี อรุโณ ท่านเป็นพระที่เคร่งครัดในพระธรรมวินัย อันเป็นที่เคารพบูชาของชาวพุทธศาสนิกชนอีกรูปหนึ่งของเมืองนครพนม เป็นพระที่ผู้ใดได้เข้ากราบไหว้จะพบว่าท่านเป็นพระ ที่เรียบง่าย ใจดี พูดจาไพเราะ ใจเย็น ยิ้มแย้มแจ่มใสกับทุกคน เปี่ยมไปด้วยเมตตา ต้อนรับทุกคนด้วยความเสมอภาค พูดคุยกับญาติโยมอย่างเป็นกันเอง
หลวงปู่ลี อรุโณ ท่านมีเจตนารมณ์สืบทอดและเผยแผ่ธรรมะ ผู้ใดที่เข้ามากราบพบหลวงปู่ ทั้งที่มีปัญหาและไม่มีปัญหา จะได้รับคำแนะนำให้มุ่งมั่นทำแต่ความดี
◎ มรณภาพ
หลวงปู่ลี อรุโณ ท่านได้มรณภาพอย่างสงบภายในกุฏิ ด้วยโรคชรา เมื่อเวลา ๒๓.๓๐ น. วันที่ ๑๗ พฤษภาคม พ.ศ.๒๕๖๒
คณะลูกศิษย์และญาติโยม จึงนำร่างมาประกอบพิธีสรงน้ำ เพื่อขอขมาต่อสรีระสังขารในวันนี้ ซึ่งตรงกับวันขึ้น ๑๕ ค่ำ เดือน ๖ และตรงกับวันวิสาขบูชา โดยก่อนที่หลวงปู่ลี ท่านจะมรณภาพท่านอาพาธด้วยโรคชราภาพและโรคเกาท์มานานกว่า ๒ ปี สิริอายุรวมได้ ๙๙ ปี พรรษา ๒๖