วันพฤหัสบดี, 24 ตุลาคม 2567

หลวงปู่ภูมี ฐิตธัมโม วัดป่าโนนนิเวศน์ อ.เมือง จ.อุดรธานี

ประวัติและปฏิปทา
พระครูวินัยธรภูมี (หลวงปู่ภูมี ฐิตธัมโม)

วัดป่าโนนนิเวศน์
อ.เมือง จ.อุดรธานี

พระครูวินัยธรภูมี (หลวงปู่ภูมี ฐิตธัมโม) วัดป่าโนนนิเวศน์

หลวงปู่ภูมี ฐิตธัมโม ท่านเป็นพระอริยเจ้าผู้มีศีลมีธรรมเป็นที่ตั้ง เป็นผู้มีจริยาวัตรอัดงดงาม เป็นผู้มีเมตตาต่อสรรพสัตว์ทั้งหลาย เป็นผู้มีความสุขุมและเยือกเย็น ปฏิบัติตามหลักธรรมคำสอนของสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าและพระธรรมวินัยอย่างไม่ตกหล่น พร้อมด้วยศีล สมาธิ และปัญญา สมควรแก่การเคารพยกย่อง

พระครูวินัยธรภูมี หรือ หลวงปู่ภูมี ฐิตธัมโม อดีตเจ้าอาวาสวัดป่าโนนนิเวศน์องค์แรก มีตำแหน่งเป็นพระครูฐานานุกรมของพระธรรมเจดีย์(จูม พันธุโล) อดีตเจ้าอาวาสวัดโพธิสมภรณ์ พระอารามหลวงชั้นตรี อดีตเจ้าคณะมณฑลอุดรธานี ธรรมยุต อดีตผู้ช่วยเจ้าคณะภาค ๓,๔,๕

หลวงปู่ภูมี เดิมท่านเกิดอยู่ในครอบครัวที่บิดามารดาทำอาชีพเกษตรกรรม วันเดือนปีเกิดไม่ปรากฏชัดเจน ภูมิลำเนาเดิมเป็นคนจังหวัดอุดรธานี เป็นญาติพี่น้องกับพระครูทัศนปรีชาญาณ หลวงปู่ชม โฆษโก อดีตเจ้าอาวาสวัดวัวฆ้องหรือวัดป่าสามัคคีธรรมในปัจจุบัน หลวงปู่ภูมีท่านมีอุปนิสัยมีความใจเย็น มีสมาธิ มีความตั้งใจ ช่วยเหลือคนในครอบครัวอย่างไม่บกพร่อง มีกตัญญูต่อบิดามารดา พอหลวงปู่ภูมี ท่านได้อายุครบบวชท่านจึงได้ขอบรรพชาอุปสมบทแทนคุณบิดา มารดา นับแต่นั้นมา หลวงปู่ท่านมีความพากเพียร พยายามใฝ่ศึกษาธรรมจึงได้ออกเดินทางแสวงหาธรรมกับพ่อแม่ครูบาจารย์ที่โด่งดังในสายกรรมฐาน

หลวงปู่ภูมี ท่านได้ฝากตัวเป็นศิษย์กับ ท่านพระครูวิเวกพุทธกิจ หรือ ท่านพระอาจารย์หลวงปู่เสาร์ กันตสีโล และ ท่านพระครูวินัยธรมั่น หรือ ท่านพระอาจารย์หลวงปู่มั่น ภูริทัตโต อีกทั้งท่านยังฝากตัวเป็นศิษย์กับ พระเทพวิสุทธาจารย์ หรือ หลวงปู่บุ (หลวงปู่ดีเนาะ ปุญญสิริ) อีกด้วย หลวงปู่ภูมี ท่านยังเป็นสหธรรมมิกกับ หลวงปู่อ่อนตา เขมังกโร และหลวงปู่สุวรรณ สุจินโณ อีกเช่นกัน หลวงปู่ภูมี ท่านมีความเพียรมีความตั้งใจปฏิบัติตามคำสอนพ่อแม่ครูบาอาจารย์อย่างไม่บกพร่อง มีแนวแน่ปฏิบัติอย่างหาผู้เปรียบมิได้เลย หลวงปู่ภูมีท่านหมั่นปฏิบัติภาวนาเป็นประจำ

ข้อวัตรปฏิบัติไม่เคยบกพร่อง หลวงปู่ภูมีท่านมักจะภาวนามรณสติทุกขณะลมหายใจเข้าหายใจออก โดยส่วนมากท่านจะปฏิบัติอยู่ในป่าช้าอันเงียบโดยไม่มีใครมารบกวนท่าน เพื่อฝึกจิตขอตนให้มีจิตเป็นอันใดอันหนึ่งเป็นอันเดียวกัน จนท่านได้บรรลุธรรมผลสำเร็จดั่งที่หลวงปู่ท่านตั้งใจไว้แล้ว ท่านพระอาจารย์หลวงปู่มั่น ภูริทัตโต ท่านได้เห็นถึงความตั้งของหลวงปู่ภูมี จึงขอหลวงปู่ภูมีให้ท่านร่วมเผยแพร่ธรรมตามสถานที่ต่างๆ จึงถือได้ว่าหลวงปู่ภูมีท่านเป็นหนึ่งในกำลังสำคัญกองทัพธรรมสายกรรมฐานยุคต้นๆของหลวงปู่มั่นเลยก็ว่าได้

ในปีพุทธศักราช ๒๔๙๖ ในช่วงนั้นหลวงปู่ภูมี ท่านได้ไปเผยแพร่ที่อำเภอจักราช จังหวัดนครราชสีมา ได้คำบัญชาจากพระธรรมเจดีย์ (หลวงปู่จูม พันธุโล) อดีตเจ้าอาวาสวัดโพธิสมภรณ์ พระอารามชั้นตรี อดีตเจ้าคณะมณฑลอุดรธานี อดีตผู้ช่วยเจ้าคณะภาค ๓,๔,๕ ให้มาอยู่จำพรรษาที่จังหวัดอุดรธานี ดังนั้นหลวงปู่ภูมีท่านจึงได้เดินทางกลับถิ่นฐานเดิม

และในการเดินทางกลับในครั้งนี้คณาจารย์ผู้ร่วมเดินทางมาด้วยคือ หลวงปู่อ่อน ญาณสิริ อดีตเจ้าอาวาสวัดป่านิโครธาราม และพระธรรมวิสุทธิมงคล (หลวงตามหาบัว ญาณสัมปันโน) อดีตเจ้าอาวาสวัดป่าบ้านตาด เมื่อท่านมาถึงจังหวัดอุดรธานีแล้ว ท่านต่างได้แยกทางกันไปเผยแพร่ปฏิบัติธรรม พำนักปักกลดตามสถานที่ต่างๆแต่ละองค์ก็ได้มีติดตามไปอยู่หลายองค์ แต่ละพระอาจารย์ต่างก็มีบทบาทที่น่าเคารพกราบไหว้ทั้งสิ้น หลวงปู่ภูมีท่านจึงได้นำคณะที่ติดตามมาด้วยมาสร้างวัดป่าโนนนิเวศน์ขึ้นมา

ก่อนที่จะมาสร้างวัดนั้นแต่ก่อนเป็นป่าช้าเอาไว้ฝังศพคนตายหรือประกอบพิธีศพอยู่นั้นเลย ก่อนที่หลวงปู่ภูมี จะมานั้น ช่วงก่อนหน้านั้น ท่านหลวงปู่มั่น ภูริทัตโต ได้เคยมาจำพรรษาอยู่นี้โดยท่านพระธรรมเจดีย์ หลวงปู่จูม พันธุโล เป็นผู้นิมนต์ท่านพระอาจารย์หลวงปู่มั่น ภูริทัตโต ในตอนนั้นท่านยังอยู่บำเพ็ญสมณธรรมทางภาคเหนือถึง ๑๑ ปี

ท่านพระธรรมเจดีย์หรือหลวงปู่จูม พันธุโล จึงได้ขอให้ท่านพระอาจารย์หลวงปู่มั่น ภูริทัตโต มาจำพรรษาอยู่วัดป่าโนนนิเวศน์ เนื่องจากมีความเงียบสงบเหมาะแก่การเจริญภาวนามรณสติเป็นดี ท่านพระอาจารย์หลวงปู่มั่น ภูริทัตโต จึงได้จำพรรษาที่นี้อยู่ประมาณ ๒ พรรษา พอมาช่วงที่หลวงปู่ภูมีมาจำพรรษาอยู่วัดป่าโนนนิวศน์นั้น ท่านก็ตั้งใจปฏบัติดั่งเคยทำมาแต่เดิมที่พ่อแม่ครูบาอาจารย์เคยสอนอย่างไม่ตกหล่นเลย และได้มีศิษย์องค์สำคัญของอำเภอไชยวาน จังหวัดอุดรธานี คือ หลวงปู่บุญจันทร์ กมโล อดีตเจ้าอาวาสวัดป่าสันติกาวาส จังหวัดอุดรธานี และได้มีศิษย์องค์สำคัญอีกท่านหนึ่ง คือ หลวงปู่ประไพร สุภโร อดีตเจ้าอาวาสวัดป่าไพรรัตนวณาราม อำเภอเมืองอุดรธานี จังหวัดอุดรธานี ต่อมาได้รับแต่งตั้งให้เป็นพระครูฐานานุกรมของ พระธรรมเจดีย์ (หลวงปู่จูม พันธุโล) อดีตเจ้าอาวาสวัดโพธิสมภรณ์ พระอารามหลวงชั้นตรี อดีตเจ้าคณะมณฑลอุดรธานี ธรรมยุต อดีตผู้ช่วยเจ้าคณะภาค ๓,๔,๕ ที่ “พระครูวินัยธรภูมี (ภูมี ฐิตธัมโม)” เป็นผู้มีศีลมีธรรมเป็นที่ตั้ง เป็นผู้มีจริยาวัตรอัดงดงาม เป็นผู้มีเมตตาต่อสรรพสัตว์ทั้งหลาย เป็นผู้มีความสุขุมและเยือกเย็น ปฏิบัติตามหลักธรรมคำสอนของสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าและพระธรรมวินัยอย่างไม่ตกหล่น พร้อมด้วยศีล สมาธิ และปัญญา สมควรแก่การเคารพยกย่องสืบไป

พระอาจารย์ภูมี ฐิตธมฺโม

ในปีพุทธศักราช ๒๕๐๖ ท่านพระครูวินัยธรภูมี หรือหลวงปู่ภูมี ฐิตธัมโม อดีตเจ้าอาวาสวัดป่าโนนนิเวศน์ อำเภอเมืองอุดรธานี จังหวัดอุดรธานี อดีตพระครูฐานานุกรมของพระธรรมเจดีย์ (จูม พันธุโล) หลวงปู่ภูมีได้ละสังขารอย่างสงบ ดำรงแหน่งเป็นเจ้าอาวาสองค์แรกวัดป่าโนนนิเวศน์ อำเภอเมืองอุดรธานี จังหวัดอุดรธานี เป็นเวลาอยู่ ๗ ปี

ที่มา : ขอขอบคุณข้อมูลจาก คุณธนาวัฒน์ ศรีสวัสดิ์

เรื่องที่เกี่ยวข้อง