วันจันทร์, 25 พฤศจิกายน 2567

หลวงปู่บัว สิริปุณฺโณ วัดป่าหนองแซง พระอริยเจ้าผู้บรรลุโสดาบันน์ตั้งแต่ยังเป็นคฤหัสถ์

ประวัติและปฏิปทา หลวงปู่บัว สิริปุณฺโณ วัดป่าหนองแซง อ.หนองวัวซอ จ.อุดรธานี

หลวงปู่บัว สิริปุณฺโณ วัดป่าหนองแซง

“พระอริยเจ้าผู้บรรลุโสดาบันน์ตั้งแต่ยังเป็นคฤหัสถ์”

พระเดชพระคุณหลวงปู่บัว สิริปุณโณ ศิษย์กรรมฐานสายท่านพระอาจารย์มั่น ภูริทตฺโต ที่สําคัญรูปหนึ่ง ซึ่งได้เข้าสู่ร่มกาสาวพัสตร์ในวัยชรา

หลวงปู่บัว สิริปุญโณ วัดป่าหนองแซง

ท่านได้บวชเป็นตาปะขาวถือศีล ๘ อย่างเคร่งครัด และติดตามหลวงปู่อ่อน ญาณสิริ ออกธุดงค์ จนได้บรรลุเป็นพระอริยบุคคลชั้นโสดาบันตั้งแต่ยังเป็นคฤหัสถ์ ท่านมีวิถีจิตมุ่งสู่ความหลุดพ้น ท่านพระอาจารย์มั่นได้กล่าวทํานายไว้ว่า

“ในกาลข้างหน้า ถึงเวลาบารมีสุกงอมเต็มที่ จะมีคนมาโปรด”

…ต่อมาท่านได้รับอุบายธรรมขั้นสูงจากหลวงตามหาบัว ญาณสัมปันโน ที่วัดป่าแก้วชุมพล อําเภอสว่างแดนดิน จังหวัดสกลนคร ตามคําทํานายของท่านพระอาจารย์มั่น

หลวงปู่บัว สิริปุณฺโณ

หลวงตามหาบัวฯ ท่านแนะวิธีปฏิบัติให้ในตอนเย็น พอรุ่งเช้า ท่านก็จบกิจพรหมจรรย์ เป็นพระอรหันต์องค์หนึ่งในพระพุทธศาสนา

ท่านเล่าว่า “อวิชชาขาดมันรุนแรงถึงขั้นกายไหว ประหนึ่งว่าคานกุฏิที่อยู่ได้ขาดไปด้วย อัศจรรย์พระพุทธเจ้า พระธรรม พระสงฆ์ และอัศจรรย์อุบายธรรมที่หลวงตาแนะนําพร่ําสอน คืนนั้นทั้งคืนจิตตื่นอยู่ไม่หลับไม่นอน เสวยวิมุตติสุข หาสุขอื่น ยิ่งกว่าไม่มี”

…หลวงปู่บัวเป็นผู้แก้จิตและแนะนําธรรมขั้นสุดท้ายให้แก่ หลวงปู่ศรี มหาวีโร พระอริยเจ้าแห่งวัดป่ากุง จังหวัดร้อยเอ็ด หลวงปู่ศรีจึงเคารพรักท่านเป็นอย่างมาก

ท่านสามารถระลึกชาติย้อนหลังได้หลายชาติ ท่านเล่าว่า เคยเกิดอยู่ที่บริเวณวัดป่าหนองแซงนี้ เป็นเวลานานถึง ๔ ชาติ และชาตินี้เป็นชาติที่ ๕ อันเป็นชาติสุดท้ายในการวนเวียนในสังสารวัฏ

ท่านเคยเกิดเป็นหมูป่า และชาติต่อมาเป็นควายป่า ถูกนายพรานผู้มีใจบาปยิงตาย ก่อนจะตายได้รับทุกข์ทรมานเป็นที่ยิ่ง นายพรานผู้มีใจบาปนี้เที่ยวล่าและฆ่าสัตว์เป็นจํานวนมาก ไม่เคยก่อสร้างบุญกุศล เมื่อเขาตายไปได้เป็นเปรต เสวยผล กรรมอันเผ็ดร้อน อยู่บริเวณวัดป่าหนองแซงแห่งนี้

ท่านไม่ได้ร่ําเรียนเขียนอ่าน แต่ธรรมภายในของท่านลึกซึ้ง ท่านภาวนาพุทโธตั้งแต่ยังเป็นฆราวาส บวชเป็นผ้าขาวถือศีล ๘ อย่างเคร่งครัด เป็นเวลา ๓ ปี ติดตามหลวงปู่อ่อน ญาณสิริ ไปธุดงค์ตามป่าตามเขา ผจญกับสัตว์ป่าและอันตรายต่าง ๆ อย่างเอาเป็นเอาตาย

ในระหว่างเป็นผ้าขาวได้ฟังธรรมจากครูบาอาจารย์กรรมฐาน หลายรูป เช่น พระอาจารย์สุวรรณ สุจิณโณ, หลวงปู่สิงห์ ขันตยาคโม, หลวงปู่ขาว อนาลโย, หลวงปู่จันทร์ เขมปัตโต,

หลวงปู่อ่อนสา สุขกาโร, หลวงปู่คําดี ปภาโส, หลวงตาพระมหาบัว ญาณสัมปันโน

ท่านเป็นพระกรรมฐานที่ปฏิบัติดีปฏิบัติชอบปฏิบัติตรง ไม่ยอมท้อถอยให้แก่กิเลสมารแต่ประการใด ท่านสละชีวิตเพื่อธรรมอย่างแท้จริง ถึงแม้อยู่ในวัยชราแต่ความเพียรพยายามเหมือนพระหนุ่ม ๆ ท่านมีความพึงพอใจต่อการรักษาสัจจะ และ นับเป็นยอดปรารถนาของท่านเลยทีเดียว หากศิษย์คนใดมีจิตใจแน่วแน่ที่จะรักษาสัจวาจาแล้วจะเป็นที่นิยมและชอบใจของท่านเป็นยิ่งนัก

ท่านเกิดเมื่อปีพุทธศักราช ๒๔๓๑ ที่บ้านเขื่องใหญ่ ตําบลหมูม่น อําเภอธวัชบุรี (โป่งลิง) จังหวัดร้อยเอ็ด เป็นบุตรของ นายลาด และ นางดา น้อยก้อม มีพี่น้องร่วมบิดามารดา ๙ คน

ชีวิตฆราวาสท่านมีอาชีพเป็นช่างประจําหมู่บ้าน และเก่งในวิชาอาคมไสยศาสตร์ประกอบอาชีพเป็นหมอผี ปราบผีสางนางไพร เป็นที่นับถือของคนถิ่นแถวนั้น ท่านยึดมั่นในคุณธรรม ๒ ประการ คือ การมีสัจจะ และการรักษาศีลอย่างเคร่งครัด

ท่านอุปสมบทในปีพุทธศักราช ๒๔๘๒ อายุ ๕๓ ปี ณ วัดบึงพระลานชัย อําเภอเมือง จังหวัดร้อยเอ็ด เวลา ๑๕.๑๘ น. โดยมี ท่านพระครูคุณสารพินิจ เป็นพระอุปัชฌาย์ พระอาจารย์ปลัดแก้ว เป็นพระกรรมวาจาจารย์

หลังจากพิธีบวชแล้ว ท่านได้มาจําพรรษาอยู่กับพระอาจารย์เพ็ง พุทธธัมโม ซึ่งเป็นพระลูกชาย ที่วัดป่าศรีไพรวัน จังหวัดร้อยเอ็ด

ในกลางพรรษาแรกนั้นเอง ท่านมีอาการเจ็บในรูหูเป็นอย่างมาก ได้นั่งสมาธิพิจารณาทุกขเวทนา ใต้ต้นลําดวนในบริเวณวัด ติดต่อกัน ๓ วัน ๓ คืน จึงรู้แจ้งในอริยสัจจ์ จึงเอาชนะความเจ็บปวดได้

จากนั้นได้เข้าถวายตัว เป็นศิษย์ท่านพระอาจารย์มั่น ภูริทตฺโต ที่วัดบ้านหนองผือ อําเภอพรรณนานิคม จังหวัดสกลนคร เมื่อไปถึงท่านพระอาจารย์มั่นทักถามทันทีว่า

“นั่งอยู่ใต้ต้นลําดวนอยู่ ๓ วัน ๓ คืน นั้นท่านได้ พิจารณาอะไรบ้าง”

ท่านถึงกับตกใจที่ท่านพระอาจารย์มั่นสามารถรู้ได้เช่นนั้น จึงกราบเรียนท่านว่า

“กําหนดดูปฏิสนธิตั้งแต่เริ่มแรก พิจารณาการเกิดตั้งแต่เข้าไปอยู่ในครรภ์มารดาต่อเนื่องมาจนปัจจุบัน”

กองทัพธรรมศิษย์สายท่านพระอาจารย์มั่น ภูริทัตตมหาเถระ
จากภาพแถวหน้าสุดซ้ายมือ คือ หลวงปู่บัว สิริปุณฺโณ

จากนั้นท่านได้เดินธุดงค์ไปทางจังหวัดมหาสารคาม ได้ถวายตัวเป็นศิษย์เพื่อปฏิบัติพระกรรมฐานกับพระอาจารย์คูณ ธัมมุตตโม ที่วัดป่าพูนไพบูลย์ อําเภอเมือง จังหวัดมหาสารคาม

ในปีพุทธศักราช ๒๔๙๕ หลวงปู่บัว สิริปุณโณ กับพระอาจารย์ศรี มหาวีโร รับนิมนต์จาก ท่านเจ้าคุณพระธรรมเจดีย์ (จูม พนฺธุโล) วัดโพธิสมภรณ์ จังหวัดอุดรธานี เพื่อสร้างวัดกรรมฐานที่บ้านหนองแซง จังหวัดอุดรธานี

อันว่าวัดป่าหนองแซงนี้ เดิมท่านเจ้าคุณธรรมเจดีย์ มาจับจองไว้เพื่อสร้างเป็นวัดกรรมฐาน เดิมมีเนื้อที่ประมาณ ๕๐๐ ไร่ ห่างไกลจากบ้านผู้คน

ป่าแห่งนี้ เป็นป่าโคก (ที่ดอน) มีต้นไม้เก้า ไม้ติ้ว ตูมกา เต็ง เป็นจํานวนมาก สัตว์ป่ายังชุกชุมมากโดยเฉพาะ เก้ง กวาง ลิง ค่าง บ่าง ชะนี เช้าสายบ่ายเย็นมีเสียงสัตว์ร้องสนั่นไพร

 วัดราษฎรสงเคราะห์ (วัดป่าหนองแซง) จ.อุดรธานี

สถานที่แห่งนี้เป็นที่เที่ยวผ่านไปมาของพระอาจารย์กรรมฐานเสมอ เช่น พระอาจารย์ชอบ ฐานสโม , พระอาจารย์หลุย จันทสาโร , พระอาจารย์คําดี ปภาโส ฯลฯ

ท่านได้ละสังขารเข้าสู่อนุปาทิเสสนิพพานที่วัดป่าหนองแซง ในปีพุทธศักราช ๒๕๑๘ สิริอายุ ๘๗ ปี พรรษา ๓๖

เจดีย์พิพิธภัณฑ์อัฐบริขารหลวงปู่บัว สิริปุณฺโณ
ณ วัดราษฎรสงเคราะห์ (วัดป่าหนองแซง) จ.อุดรธานี
รูปหล่อเหมือนหลวงปู่บัว สิริปุณฺโณ
ประดิษฐาน ณ เจดีย์พิพิธภัณฑ์อัฐบริขารหลวงปู่บัว สิริปุณฺโณ
วัดราษฎรสงเคราะห์ (วัดป่าหนองแซง) จ.อุดรธานี
อัฐิธาตุของท่านพระอาจารย์บัว สิริปุณโณ

โอวาทคำสอนของ หลวงปู่บัว สิริปุณโณ ” สติกับจิตเป็นของคู่กันทุกสมัย “

เรื่องที่เกี่ยวข้อง