ประวัติและปฏิปทา
หลวงปู่นาค ปัญญาวโร
วัดอรัญญวาสี
อ.ท่าบ่อ จ.หนองคาย
หลวงปู่นาค ปัญญาวโร ท่านเป็นคนชาวจังหวัดหนองคาย โดยกําเนิด ท่านมีความศรัทธา ในพระบวรพุทธศาสนามาตั้งแต่สมัยเป็นฆราวาส
ท่านเกิดที่อําเภอท่าบ่อ บิดาของท่านเป็นคนชาวจังหวัดนครราชสีมา ส่วนมารดาเป็นคนชาว จังหวัดจันทบุรี
บิดามารดาได้มาตั้งหลักปักฐานที่จังหวัดหนองคาย จนได้ มีโอกาสบวชเป็นพระภิกษุสงฆ์ และประพฤติปฏิบัติศีล สมาธิ ปัญญา อันเป็นแนวทางพ้นทุกข์ คือ มรรค ผล นิพพาน โดยแท้
หลวงปู่นาค ปัญญาวโร ท่านได้เล่าให้ฟังว่า “หลวงปู่เข้ามาบวชในพระพุทธศาสนาก็เมื่อตอนแก่ อายุ ๕๓ ปี ฉะนั้นจึงมีธรรมะน้อย แต่พอพูดแนะนํากับญาติโยมได้บ้างเล็กน้อยเท่านั้น”
หลวงปู่นาค แห่งวัดป่าอรัญญวาสี จ.หนองคาย นี้ ท่านเป็นพระภิกษุสงฆ์ที่มีความเมตตาสูง ภายนอกของหลวงปู่ มีความผ่องใสร่าเริง ยิ้มง่าย
หลวงปู่วางตัวเป็นผู้นําที่ดี กล่าวคือ ท่านพูดน้อย มีความสงบราบเรียบ สันโดษมักน้อย ตามมีตามได้ แววดวงตาแจ่มใส ด้วยอํานาจบุญกุศลธรรม
การที่ได้สอบถามท่านผู้ใกล้ชิดกับหลวงปู่นาค ในเรื่อง ประวัติของท่านนั้น ได้รับการบอกเล่ามาเป็นแนวทาง พอสมควรดังนี้ ในสมัย หลวงปู่นาค ปัญญาวโร ท่านเป็นฆราวาสอยู่นั้น ท่านเป็นบุคคลที่มั่นอยู่ในทาน ศีล ภาวนา และมีความเลื่อมใสครูบาอาจารย์ โดยเฉพาะ หลวงปู่เทสก์ แห่งวัดหินหมากเป้ง จ.หนองคาย หลวงปู่นาค มีความเคารพศรัทธาเป็นอย่างยิ่ง
ท่านมักจะเดินทางไป วัดหินหมากเป้ง เพื่อฟังธรรมจากท่าน และยังได้รับการฝึกอบรมสมาธิภาวนาอยู่ด้วยเสมอ ๆ
การปฏิบัติทางจิตนี้เอง เป็นเหตุจูงใจท่านให้ได้พบทางแห่งความสุขในชีวิตได้อย่างน่าอัศจรรย์
หลวงปู่นาค จึงกล้าตัดสินใจ อุทิศตนให้แก่พระพุทธศาสนา เมื่ออายุของท่านได้ ๕๓ ปี แม้ว่าท่านจะแก่อายุไปบ้างก็ตาม แต่ธรรมะที่เกิดขึ้นภายในจิตใจนั้น บังเกิดให้รู้ผลสมัยแรกๆ ที่เป็น ฆราวาสมาก่อนแล้ว
พระภิกษุสงฆ์ที่เป็นศิษย์ของ ท่านเล่าว่า “หลวงปู่เคยเล่าให้ฟังว่า สมัยแรกที่ไปปฏิบัติธรรมอยู่กับหลวงปู่วัดหินหมากเป้ง (หลวงปู่ เทสก์) ท่านก็ไปปฏิบัติตามหมู่ พวก นั่งสมาธิไปอย่างแกนๆ ไม่ค่อยเชื่ออะไรมากนัก
ท่านอาจทําใจเฉย ๆ เป็นปกตินี้เอง ทําให้เกิดสมาธิขึ้นมานั่นแหละหลวงปู่นาคท่านว่า โอ..เป็น อย่างนี้เองสมาธินี่ เป็นสุขจริง ๆ เลยลงมือปฏิบัติด้วยความศรัทธา ในคุณของพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ เรื่อยมา ท่านมามีโอกาส ได้บวชก็ตอนอายุท่านมากแล้ว ท่านจึงเร่งทําความเพียรอย่างเสมอต้นเสมอปลาย
หลวงปู่นาค ได้เข้าอุปสมบท ณ พัทธสีมาวัดศรีเมือง อ.เมือง จ.หนองคาย โดยมี ท่านเจ้าคุณพระธรรมไตรโลกาจารย์ เป็นพระอุปัชฌาย์ ได้รับฉายาว่า “ปัญญาวโร”
เมื่อบวชเป็นพระภิกษุสงฆ์แล้ว ท่านได้รับความเมตตาจาก หลวงปู่เทสก์ เทสรังสี เป็นพระอาจารย์ผู้แนะแนวทางแห่งการ เจริญภาวนา
หลวงปู่นาค ปัญญาวโร ท่านอบรมสั่งสอนบรรดาศิษย์ทั้งหลายให้มีความมั่นคงต่อพระรัตนตรัย และรู้จัก คุณของครูบาอาจารย์ ให้มีความกตัญญูกตเวทิตคุณมากๆ เกิดมาเป็นคนในชาติหนึ่ง อย่างน้อยก็ต้องเร่งรีบกระทําคุณงามความดีไว้ เพราะความตายมันไม่บอกวันและเวลา อย่าประมาทเป็นอันขาด จงพยายามพิจารณาให้มากใน เรื่องนี้ เพราะเหตุของธรรมะต้องอาศัยหลักธรรมเหล่านี้
หลวงปู่นาค ปัญญาวโร ได้อบรมสั่งสอน โดยยกเอา ครูบาอาจารย์ คือ หลวงปู่เทสก์ เทสรังสี เป็นต้น ท่านว่า
“อันครูบาอาจารย์พระผู้เป็น อุปัชฌาย์ทั้งหลายนี้ ท่านมีคุณอนันต์แก่พวกเรามาก ด้วยเพราะท่านอันเป็นครูบาอาจารย์ ท่านจึงนําเรากระทําให้เกิดความดีงาม และความเจริญ
ธรรม ๗ ประการ
๑. ปิโย ในฐานจิตของท่านเมตตาอยู่เสมอ เราสบายใจชวน ให้อยากเข้าไปศึกษาหาความรู้เอง
๒. ครุ ทําให้เกิดความรู้สึกอบอุ่นใจ เพราะท่านเป็นที่พึ่งแก่เราได้อย่างปลอดภัย
๓. ภาวนีโย ปฏิปทาของท่าน น่ายกย่องควรเอาเยี่ยงอย่าง ท่านทรงคุณมีความรู้ มีภูมิปัญญา แท้จริง
๔. วัตตา ท่านรู้จักชี้แจง แก้ไข คอยตักเตือนแนะนําเรา
๕. วจนักขโม ท่านต้องพากเพียรอดทน พร้อมที่จะรับฟังเมตตา โดยไม่เบื่อ
๖. คัมภีรัญจะ กถังกัตตา ท่านชี้แจงเรื่องต่างๆ ได้อย่างลึกซึ้ง
๗. โน จัฏฐาเน นิโยชเย ท่านไม่แนะนําในเรื่องที่ไม่เป็นมูลแห่ง ความจริง ไม่นําเราไปในทางเสื่อม นอกทางธรรม
หลวงปู่นาค ปัญญาวโร ท่านได้กล่าวเน้นแก่ท่านผู้ปฏิบัติดังนี้ ว่า..
“หลวงปู่พูดไม่ค่อยเป็นนะ แต่พวกเราเมื่อได้ครูบาอาจารย์ วิเศษแล้ว ก็ควรปฏิบัติตามใน ธรรม ๗ ประการ เช่นเดียวกัน คือ โพชฌงค์ ๗ นั่นแหละ ได้แก่
๑. สติ ให้มีสติสํานึกพร้อม อยู่…
๒ ธัมมวิจยะ สอดส่องค้นคว้าพิจารณาธรรม
๓. วิริยะ ให้มีความพากเพียร ๔. ปีติ มีความอิ่มใจในธรรม
๔. ปัสสัทธิ เราต้องระลึก สงบกายสงบใจ
5. สมาธิ ความมีใจตั้งมั่น ดํารงสติให้มั่นคง
๗. อุเบกขา ต้องมีการวางใจ เป็นกลาง เห็นตามความเป็นจริงนั้น ๆ มา
นี่แหละหน้าที่ของพวกเรา พวกปฏิบัติต้องพิจารณาให้ดี มีสติมีปัญญาก็เท่านั้นแหละเอาเป็น กําลังของพวกเรา”
หลวงปู่นาค ปัญญาวโร วัดป่าอรัญญวาสี อ.ท่าบ่อ จ.หนองคาย