ประวัติและปฏิปทา
หลวงปู่ทองฤทธิ์ อุตตโม
วัดป่าฉันทนิมิตร
อ.สหัสขันธ์ จ.กาฬสินธุ์
หลวงปู่ทองฤทธิ์ อุตตโม เป็นพี่น้องร่วมบิดามารดาเดียวกับ หลวงปู่มุม วัดปราสาทเยอ เกจิอาจารย์ผู้เรืองฤทธิ์และมีชื่อเสียงของภาคอีสาน
สมัยเมื่อหลวงปู่ทองฤทธิ์ยังเป็นเด็กชาย อายุประมาณ ๑๐ ขวบ ได้พบและอุปัฏฐากรับใช้ หลวงปู่มั่น ภูริทัตโต ที่วัดป่าบ้านพอกใหญ่ อำเภอพรรณานิคม จังหวัดสกลนคร พระอาจารย์มั่น ภูริทัตโต ได้เขียนพระคาถา “อ้อป่อง” สอดลอดช่องพื้นกระดานให้ หลวงปู่มั่นบอกให้ท่องจําไว้จะได้ปัญญาดี (จนเป็นที่มาของตะกรุดอ้อป่องอันโด่งดัง) เกิดความศรัทธาในตัวหลวงปู่มั่น ที่เห็นท่านฉันอาหารในบาตรใหญ่ มีผู้คนมาฟังเทศน์ฟังธรรมกันมากมาย จึงมีความคิดที่จะบวช
จนอายุได้ ๑๘ ปีจึงได้บวชเป็นสามเณรที่วัดศรีธรรมราช บ้านพอกใหญ่ ตําบลพอกใหญ่ อําเภอพรรณานิคม จังหวัดสกลนคร และในขณะที่ ท่านบวชเป็นสามเณรอยู่นั้น หลวงปู่มุมได้บวชเป็นพระภิกษุแล้ว
ท่านเป็นสามเณรจนอายุครบบวช จึงอุปสมบทเป็นพระภิกษุ ที่วัดธรรมราช บ้านพอกใหญ่
ต่อมาเมื่อปี พ.ศ.๒๔๘๓ ท่านได้ไปอบรมสมถกรรมฐานกับหลวงพ่อสด วัดปากน้ำ ภาษีเจริญ กรุงเทพมหานคร จนสําเร็จวิชชาธรรมกายขั้นอุกฤต เรียกว่า “อัคนี ธาตุกรด”
เมื่อ พศ.๒๔๔๘๓ ท่านได้กลับมาจําพรรษาอยู่ที่วัดเดิมอันเป็นบ้านเกิดของท่าน ปีต่อมาท่านได้ไปอบรมเป็นพระอุปัชฌาชย์ ต่อมาก็ได้รับแต่งตั้งเป็นพระอุปัชฌาชย์ที่สามารถบวชกุลบุตรได้
หลวงปู่ทองฤทธิ์ได้บวชอยู่มหานิกาย ถึง ๒๒ พรรษา หลวงปู่ทองฤทธิ์ท่านทําของขึ้น ผู้คนจึงนับถือท่านมาก ได้ สมณศักดิ์เป็นพระครูอุดมสิทธิกิจ
จนเมื่อปี พ.ศ.๒๔๙๖ ท่านเบื่อในงานด้านบริหาร ปกครองพระ จึงขอลาออกจากสมณศักดิ์ เพื่อมุ่งหน้าป่าเพ็ญกิจของสงฆ์ หาทาง ปล่อยปละละวาง เดินตามแนวทางปฏิบัติของพระอาจารย์มั่น ภูริทัตโต และได้ไปขอเรียนวิปัสสนากับ หลวงปู่ขาว อนาลโย วัดถ้ากลองเพล จนพบว่าที่ปฏิบัติ ผ่านมานั้นยังไม่ถูกต้อง จึงสึกออกนุ่งขาวห่มขาว ออกเดินดงอยู่ ๒ ปี แล้วบวชใหม่กับ หลวงปู่ขาว อนาลโย ในธรรมยุตนิกาย และได้มาบําเพ็ญความเพียร จําพรรษาที่วัดพุทธนิมิต ภูคาว อําเภอสหัสขันธ์ จังหวัดกาฬสินธุ์ และในปี พ.ศ.๒๕๐๐ ได้มาจําพรรษาอยู่ที่วัดป่าฉันทนิมิตร
ลุถึงปี พ.ศ.๒๕๐๗ จึงย้ายไปอยู่ภูถ้ำจันทร์ ที่ภูเก้า ๕ พรรษา ต่อมาได้ไปจําพรรษาอยู่ที่วัดป่าด่านศรีสําราญ ดงศรีชมพู อำเภอบึงกาฬ จัดหวัดหนองคาย จากนั้นไปจําวัดอยู่ในพื้นที่สีแดง สั่งสอนอบรมชาวบ้านซึ่งขัด แย้งกับลัทธิคอมมูนิสต์อย่างมาก จนหัวหน้าใหญ่คอมมูนิสต์คิดฆ่าท่านโดยคิดจับท่านสวนทวาร ศิษย์ของท่านเลยพาท่านหนีมาอยู่ ณ วัดป่าฉันทนิมิตร ราวปี พ.ศ.๒๕๒๒ จวบจนละสังขาร
หลวงปู่ทองฤทธิ์ อุตตโม ท่านได้ละสังขารลง เมื่อวันที่ ๑๑ มิถุนายน พ.ศ.๒๕๓๘