ประวัติและปฏิปทา
หลวงตาสาน กันตสีโล
วัดป่านาคูณ
อ.บ้านผือ จ.อุดรธานี
หลวงตาสาน เดิมชื่อ นายสาน นามสกุล ศรไชย เกิดเมื่อวันที่ ๑๒ เดือน พฤษภาคม พ.ศ.๒๔๗๓ ที่บ้านหนองหิน ตำบลหนองหิน อำเภอยโสธร จังหวัดอุบลราชธานี (ปัจจุบัน อำเภอเมือง จังหวัดยโสธร) บิดาชื่อ นายอ่อง ศรไชย มารดาชื่อ นางทองมี ศรไชย อาชีพทำนา มีพี่น้องร่วมท้องมารดาเดียวกัน จำนวน ๗ คน ได้แก่
๑. แม่ป้อง ศรไชย ถึงแก่กรรม
๒. แม่ปอง ศรไชย ถึงแก่กรรม
๓. แม่ครอง พรานป่า ยังมีชีวิต อายุ ๙๘ ปี
๔. คุณพ่อเพ็ง ศรไชย ถึงแก่กรรม
๕. คุณพ่อสุข ศรไชย ถึงแก่กรรม
๖. คุณพ่อศักดิ์ ศรไชย ถึงแก่กรรม
๗. หลวงตาสาน กันตสีโล
ชีวิตในวัยเด็ก อายุได้ ๓ ขวบ มารดาเสียชีวิต โยมบิดาก็ได้แต่งงานกับภรรยาใหม่ ทำให้ท่านได้อยู่ในความดูแลของพี่สาว (คุณแม่ครอง) ท่านเล่าว่า ชีวิตท่านต้องตกระกำลำบากมาตั้งแต่ยังเด็กพี่สาวได้อุปการะเลี้ยงดูจนท่านได้ศึกษาเล่าเรียนจนจบชั้นประถมศึกษาปีที่ ๔ ที่โรงเรียนบ้านหนองหิน
ในช่วงระหว่างปี พ.ศ.๒๔๘๙ – ๒๔๙๗ อายุ ๑๖ ปี ได้บรรพชาเป็นสามเณร ที่วัดสร่างโศก (ปัจจุบันวัดศรีธรรมาราม) อ.เมือง จ.ยโสธร เมื่อวันเสาร์ที่ ๑๙ ตุลาคม ๒๔๘๙ ร่วมกับหลวงปู่บุญมี ปริปุณโณ ซึ่งคราวนั้นอุปสมบทเป็นพระภิกษุ แล้วได้ไปจำพรรษาที่วัดป่าบ้านหนองแสง จ.ยโสธร บวชเป็นเณรได้ ๔ พรรษา แล้วได้ญัตติเป็นพระภิกษุอีก ๔ พรรษา ในระหว่างนี้ท่านได้ศึกษาและอุปัฏฐากหลวงปู่กู่ ธัมมทินโน ณ วัดกลางโนนภู่และวัดถ้ำเจ้าผู้ข้า จนหลวงปู่ละสังขารที่วัดถ้ำเจ้าผู้ข้า หลังจากนั้นได้ไม่นาน ท่านก็ได้ลาสิกขา ออกมาใช้ชีวิตทางฆราวาส
ต่อจากนั้นท่านได้เดินทางไปหางานทำที่กรุงเทพฯ ในช่วงที่ทำงานที่กรุงเทพฯ นั้นท่านได้แต่งงานกับคุณแม่ประไพศรี มหิตกุล และอยู่ด้วยกันตั้งแต่ พ.ศ.๒๕๐๖ – ๒๕๒๖ เป็นระยะเวลา ๒๐ ปี ไม่มีบุตรธิดาด้วยกัน
ซึ่งต่อมาท่านได้เกิดความเบื่อหน่ายในชีวิตการครองฆราวาส ได้ออกบวชอีกครั้งในปี พ.ศ.๒๕๒๖ เมื่ออายุได้ ๕๓ ปี โดยอุปสมบท ณ วัดป่าอุดมสมพร มีพระครูศรีภุมมานุรักษ์ เป็นพระอุปัชฌาย์ และพระครูอุดมธรรมสุนทร (หลวงตาแปลง สุนทโร) เป็นพระกรรมวาจาจารย์ ส่วนภรรยาของท่านก็ได้ออกบวชเป็นชีภายหลังจากท่านบวชได้ระยะหนึ่งอยู่ที่วัดป่าอุดมสมพร
ประวัติการอยู่จำพรรษาการบวชครั้งที่สอง
พรรษาที่ ๑-๕ (พ.ศ.๒๕๒๖-๒๕๓๐) จำพรรษาที่วัดป่าอุดมสมพร อ.พรรณานิคม จ.สกลนคร
พรรษาที่ ๖-๗ (พ.ศ.๒๕๓๐ – ๒๕๓๓) จำพรรษาที่วัดถ้ำสหาย กับหลวงปู่จันทร์เรียน คุณวโร และหลวงปู่สมศรี อัตตสิริ
พรรษาที่ ๘ (พ.ศ.๒๕๓๓) จำพรรษาที่วัดสวนกล้วย กับหลวงปู่สมัย ธัมมโฆสโก
พรรษาที่ ๙ (พ.ศ.๒๕๓๔) ออกธุดงค์และจำพรรษาที่วัดถ้ำศรีแก้ว กับพระอาจารย์ณรงค์ อาจาโร
พรรษาที่ ๑๐-๒๓ (พ.ศ.๒๕๓๕ – ๒๕๔๘) จำพรรษาที่วัดป่านาคูณกับหลวงปู่บุญมี ปริปุณโณ
พรรษาที่ ๒๔ (พ.ศ.๒๕๔๙) จำพรรษาที่วัดภูผาแดงกับหลวงปู่ลี กุสลธโร
พรรษาที่ ๒๕ – ๓๖ (พ.ศ.๒๕๕๐ – มาจนถึงปัจจุบัน) จำพรรษาที่วัดป่านาคูณ รวมระยะเวลาที่อยู่นาคูณ ๒๕ ปีพรรษา
หลวงตาสาน เป็นพระปฏิบัติดีปฏิบัติชอบ เคร่งครัดในพระธรรมวินัย เป็นภิกษุผู้เฒ่าที่ใส่ใจในเรื่องการศึกษา พระธรรม วินัย การสวดมนต์ อักขระฐานกรณ์และได้รับความไว้วางใจจากหลวงปู่บุญมี ปริปุณโณ ให้เป็นผู้สอนนาคที่จะมาบวชและสอนปาฏิโมกข์ให้พระภิกษุ ในด้านสุขภาพ หลวงตาสานท่านเป็นผู้ที่ดูแลสุขภาพเป็นอย่างดี เช่น เรื่องการเข้มงวด เรื่องอาหาร การออกกำลังกาย ทำให้ท่านมีสุขภาพแข็งแรงมาได้ แม้ล่วงสู่วัยชรา จนเมื่ออายุย่างเข้า ๘๐ ปี ท่านเริ่มมีอาการเจ็บป่วยตามประสาผู้เฒ่า จนมาเป็นเบาหวาน กระดูกพรุน และสุขภาพฟันที่ไม่ค่อยปกติ ทำให้เข้าโรงพยาบาลอยู่เรื่อยๆ ในระยะหลังๆ จนกระทั่งมาตรวจพบเจอมะเร็งในตับอ่อนระยะสุดท้าย ทำให้ท่านมีชีวิตอยู่ได้อีกไม่นาน
ในวันพระขึ้น ๑๕ ค่ำ เดือน ๔ ปีจอ ตรงกับวันพุธที่ ๒๐ มีนาคม พ.ศ.๒๕๖๒ หลังจากหมู่คณะภิกษุฉันเช้าเสร็จจึงพากันไปกราบขอขมาพร้อมคณะลูกศิษย์ทั้งหลายที่กุฏิของหลวงตาสาน และกราบเรียนให้ท่านบอกปริสุทธิเพราะเป็นวันอุโบสถ หลังจากนั้นเวลาประมาณ ๕ โมงเช้า ความดันและชีพจรเริ่มตกลงมากและค่อยๆหมดไป จนถึงเวลา ๑๒.๑๐ น.ท่านก็จากไปด้วยอาการสงบ สิริอายุได้ ๘๘ ปี ๑๐ เดือน ๘ วัน พรรษา ๓๖ พรรษา