พระอาจารย์วัน อุตตโม พระอริยเจ้าผู้สามารถเดินฝ่าลูกกระสุนปืนได้
ประวัติ และปฏิปทา พระอุดมสังวรวิสุทธิเถร (พระอาจารย์วัน อุตตโม) วัดถ้ำอภัยดำรงธรรม อำเภอส่องดาว จังหวัดสกลนคร
พระเดชพระคุณท่านพระอาจารย์วัน อุตตโม พระอริยเจ้าผู้เคยใกล้ชิด อุปัฏฐากทั้งหลวงปู่เสาร์ กนตสีโล และ ท่านพระอาจารย์มั่น ภูริทตฺโต ท่านเป็นผู้ที่พูดน้อยแต่พูดจริงทําจริง อ่อนน้อมต่อผู้ที่มีอายุพรรษามากกว่า เป็นผู้ที่หนักในคารวะธรรม ชอบความเป็นระเบียบ ให้ความอนุเคราะห์แก่สหธรรมิกที่อ่อนกว่า การวางตัวของท่านเสมอต้นเสมอปลายจึงได้รับคํายกย่องสรรเสริญ จากพระเถระผู้ใหญ่ และเป็นที่เคารพนับถือของผู้น้อย เป็นผู้ที่ฝึกตนได้ดี เรียบร้อยงดงามในทุกอิริยาบถ ทั้งยืน เดิน นั่ง นอน เป็นผู้ที่พอดี ไม่ช้า ไม่เร็ว พอเหมาะเสมอในทุกโอกาส
ท่านชื่นชอบการอยู่ป่าดงลึกเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะเทือกเขาภูพาน ซึ่งเป็นแดนแห่งธรรมที่พระอริยเจ้าศิษย์ท่านพระอาจารย์มั่นแทบทุกองค์ ต้องได้เหยียบย่างผ่าน ท่านได้อยู่อาศัยจําพรรษา ที่ถ้ําอภัยดํารงธรรม ภูผาเหล็ก บนเทือกเขาภูพาน มาจนตลอดชีวิต
ชื่อเสียงของท่านโด่งดังเป็นพลุแตก เป็นที่รู้จักของคนทั่วประเทศ เนื่องจากสื่อประโคมข่าว ถึงความขลังศักดิ์สิทธิ์ที่ท่านสามารถเดินฝ่าดงลูกกระสุนปืนที่รุมยิงได้อย่างปลอดภัย เรื่องมีดังนี้
เมื่อวันที่ ๑๕ พฤษภาคม ๒๕๑๓ ท่านได้ รับนิมนต์ไปเจริญพระพุทธมนต์ในงานแต่งงานที่หมู่บ้านส่องดาว ตําบลส่องดาว กิ่งอําเภอส่องดาว จังหวัดสกลนคร กว่าจะได้กลับวัดก็มืดค่ํา ท่านและพระเณรที่ติดตาม ๗ รูปได้เดินเท้าไปตามถนน ร.พ.ช. ผ่านทุ่งนาและป่าเขาขึ้นสู่ภูเหล็ก สมัยนั้นผู้ก่อการร้ายคอมมิวนิสต์กําลังถูกเจ้าหน้าที่บ้านเมืองปรามปรามอย่างหนัก จึงห้ามประชาชนเดินในป่าเวลาค่ําคืน ขณะที่เดินมาได้ประมาณ ๔ – ๕ เส้น ด้วยความมืด พระเณรจึงใช้ไฟฉายส่องทาง เจ้าหน้าที่ทหารเห็นเช่นนั้นนึกว่าเป็นผู้ก่อการร้าย
คอมมิวนิสต์จึงถล่มยิงด้วยปืนเอ็ม ๑๖ และ อาวุธปืนอื่น ๆ เสียงปืนดังสนั่นหวั่นไหว เพราะตั้งใจฆ่าให้หมด ขณะที่โดนยิงถล่ม พระเณรที่ติดตามท่านเล่าว่า ต่างองค์ก็ต่างวิ่งหลบกระสุนปืนรอบ ๆ ท่าน ในรัศมีของท่านกระสุนไม่อาจกรายผ่านเข้ามาได้ ท่านคงเดินฝ่ากระสุนไปเหมือนเดินเล่นตามปกติธรรมดา เป็นที่อัศจรรย์ของพระเณรที่ติดตาม
รุ่งสางทหารเข้าไปเคลียร์พื้นที่ ไม่เห็นศพคนตายสักคน จึงติดตามรอยเท้าขึ้นไปบนเขา สอบถามได้ความว่ากลุ่มที่ถูกรุมยิงเมื่อคืนนี้ มิใช่ผู้ก่อการร้ายแต่เป็นพระอาจารย์วันและพระเณร พวกทหารจึงเข้าไปขอขมาท่านและถวายตัวเป็นศิษย์ด้วยความศรัทธาเลื่อมใสเชื่อมั่นในอานุภาพของท่านเป็นอย่างยิ่ง นี้เองเป็นมูลเหตุให้ชื่อเสียงท่านโด่งดังในยุคนั้นเป็นอย่างมาก
พระอาจารย์วัน อุตตโม ท่านเกิดเมื่อวันอาทิตย์ที่ ๑๓ สิงหาคม พุทธศักราช ๒๔๖๕ บ้านตาลโกน ตําบลตาลโกน อําเภอสว่างแดนดิน จังหวัดสกลนคร เป็นบุตรนายแหลม และนางจันทร์ สีลารักษ์
ในวัยเด็กบิดามารดานําไปฝากกับท่านพระอาจารย์วัง ฐิติสาโร วัดอรัญญิกาวาส บ้านม่วงไข่ อําเภอพรรณานิคม จังหวัดสกลนคร
เมื่ออายุได้ ๑๕ ปีพระอาจารย์วังจึงพาไปบวช ณ วัดศรีบุญเรือง เมื่อวันที่ ๑ พฤษภาคม พุทธศักราช ๒๔๗๙ โดยมี พระราชกวี เป็นพระปัพพชาจารย์
ได้ฝากตัวเป็นศิษย์กับพระอาจารย์เสาร์ กันตสีโล ที่วัดป่าบ้านท่าต้องเหล็ก ซึ่งอยู่ใกล้กับเมืองอุบลราชธานี พระอาจารย์เสาร์ได้กําชับว่า
สามเณรที่มีอายุ ๑๙ ปี ต้องท่องปาฏิโมกข์ ให้ได้จึงจะให้ไปเรียนนักธรรม ท่านก็ท่องปาฏิโมกข์อยู่ประมาณ ๒๐ วันจึงขึ้นใจ
อุปสมบทที่วัดศรีธรรมาราม อําเภอเมือง จังหวัดยโสธร เมื่อ วันที่ ๒๙ มกราคม พุทธศักราช ๒๔๘๕ เวลา ๑๖.๑๐ น. โดย มี พระครูจิตรวิโสธนาจารย์ เป็นพระอุปัชฌาย์ พระมหาคล้าย วิสารโท เป็นพระกรรมวาจาจารย์ ปีพุทธศักราช ๒๔๘๘ – ๒๔๙๓ ท่านได้อยู่จําพรรษาศึกษาธรรม และเป็นพระอุปัฏฐากท่านพระอาจารยมั่น ภูริทตฺโต ที่วัดป่าบ้านหนองผือ อําเภอพรรณานิคม จังหวัดสกลนคร
เมื่อออกพรรษาแล้ว ท่านได้กราบลาท่าน พระอาจารย์มั่น ไปเที่ยวธุดงค์เพียงองค์เดียวเพื่อฝึกตนให้มีความกล้าหาญด้วยการพึ่งตนเอง
ตอนหนึ่งท่านเล่าว่า ไปพักที่ราวป่าใกล้บ้าน ระหว่างพักอยู่ที่นั้น วันหนึ่งตอนหัวค่ําได้เดินจงกรมพอสมควรแล้วจึงขึ้นไปพักเพื่อนั่งสมาธิต่อ ท่านเกิดปวดท้องอย่างหนัก ท้องเดินอย่างแรง และอาเจียนไปด้วยในขณะเดียวกัน ถ่ายได้เพียง ๓ ครั้งหมดเรี่ยวแรง ร่างกายมีเหงื่อออกโชกเปียกหมดทั้งตัว จึงพยายามรวบรวมสติระลึก ถึงธรรมว่าถึงคราวที่จะพึ่งตัวเองจริง ๆ เพราะเพื่อนฝูงญาติโยมในที่นั้นไม่มีเลย ท่านได้หยิบยาหม่องตราพระมาฉัน แต่ไม่ได้ผล จึงเอาเกลือที่เหลือจากฉันมะขามป้อมที่เอามาจากท่านพระอาจารย์มหาบัวมาทดลองฉันดู ปรากฏว่าอาการถ่ายและ อาเจียนได้หายไปอย่างปลิดทิ้ง ยังเหลืออยู่แต่ความอ่อนเพลียเท่านั้น
วันต่อมา ขณะที่ท่านเดินจงกรมอยู่ในป่าห่างจากที่พักประมาณ ๓ เส้น มีหญิงสาวคนหนึ่งซึ่งเคยมาใส่บาตรทุกวัน คงมีจิตปฏิพัทธ์ต่อท่าน ได้เดินร้องรําเข้าไปสู่ที่พักและไปนั่งร้องรําฮัมเพลงเบา ๆ อยู่ใกล้ที่พักของท่าน ท่านได้รวบรวมสมาธิเพ่งดูทางจงกรมอยู่ที่เดียวแทบไม่หายใจ หญิงสาวคนนี้ร้องรําอยู่ ณ ที่พักของท่านเกือบชั่วโมง สังเกตถึงพฤติการณ์ของเธอแล้ว ย่อมเป็นไปในทางเกิดอันตรายแก่พรหมจรรย์ได้มาก แต่เพราะกําลังใจของท่านแน่วแน่กว่า ในที่สุดหญิงสาวผู้นั้นก็เดินออกไปอย่างเงียบ ๆ
เหตุการณ์ครั้งนั้น ท่านอดภูมิใจในตัวเองไม่ได้ ที่สามารถรักษาพรหมจรรย์ให้ผ่านพ้นจากอันตรายไปได้ตลอดรอดฝั่ง ดังพุทธภาษิตที่ท่านได้เล่าเรียนมาว่า “อิตถี มลัง พรหมจริยัสสะ ซึ่งแปลว่า หญิงเป็นมลทินแห่งพรหมจรรย์นั้น เป็นพุทธภาษิตที่ท่านตระหนักและยึดมั่นตลอดมาตราบชั่วอายุขัย”
เป็นอันว่าสมความตั้งใจในการออกไปวิเวกเพื่อ ฝึกความกล้าและพึ่งตนเอง หากเป็นพระที่ไม่มั่นคง คงเอาตัวไม่รอดอย่างแน่นอน เมื่อท่านพิจารณาดูแล้วเห็นว่าสถานที่นั้นเสี่ยงมาก จึงอยู่เพียง ๙ คืนแล้วเดินทางต่อไป แต่หาที่ใดก็ไม่เหมาะ จึงไปอยู่ร่วมกับท่านพระอาจารย์มหาบัว ญาณสัมปันโน ที่ดงใกล้กับบ้านงิ้ว ต่อมาเมื่อใกล้วันวิสาขบูชา จึงได้เดินทางกลับวัดป่าบ้านหนองผือตามเดิม ท่านพระอาจารย์มั่นได้ถามถึงการไปวิเวกของท่าน ท่านก็ได้กราบเรียนไปตามความเป็นจริง ท่านพระอาจารย์มั่นจึงให้กําลังใจและให้โอวาทว่า
“การเจริญอานาปาณสติก็เป็นทางที่ดีเหมือนกัน เพราะการเจริญกรรมฐานแต่ละอย่าง เมื่อจิตจะรวมลงเป็นสมาธินั้น ย่อมน้อมลงสู่คลองอานาปานสติเสียก่อนจึงรวมลงเป็นสมาธิ”
ท่านได้อยู่อุปัฏฐากท่านพระอาจารย์มั่น ภูริทตฺโตจนถึงวันมรณภาพ รวมเวลาที่ได้อยู่ อุปัฏฐากท่านพระอาจารย์มั่น เป็นเวลา ๕ ปี
ปีพุทธศักราช ๒๔๙๔ ท่านจําพรรษาที่วัดป่าพระสถิตย์ อําเภอศรีเชียงใหม่ จังหวัดหนองคาย
ปีพุทธศักราช ๒๔๙๕ ท่านกลับมาจําพรรษาที่วัดป่าคามวาสี ซึ่งเป็นถิ่นมาตุภูมิ ระหว่างนั้นพระอาจารย์เทสก์และหมู่คณะหลายรูปลงไปจําพรรษาที่ภาคใต้ ท่านจึงติดตามไปด้วย
ปีพุทธศักราช ๒๔๙๖ จําพรรษาที่วัดราษฎร์โยธี บ้านโคกกลอย ตําบลโคกกลอย อําเภอตะกั่วทุ่ง จังหวัดพังงา
ปีพุทธศักราช ๒๔๙๗ – ๒๕๐๐ จําพรรษาที่ วัดเจริญสมณกิจ อําเภอเมือง จังหวัดภูเก็ต
ปีพุทธศักราช ๒๕๐๔ จําพรรษาที่ถ้ําอภัยดํารงธรรม มีพระภิกษุ ๗ รูป สามเณร ๓ รูป เสนาสนะที่อยู่อาศัยก็ทําขึ้นไว้เพียงชั่วคราว ปรากฏว่าการอยู่จําพรรษาปีนั้นท่านป่วยเป็นไข้ป่าอย่างหนัก
ปีพุทธศักราช ๒๕๑๘ ท่านจําพรรษาที่วัดป่าบ้านใหม่ ท่าขันทอง ตําบลแซว อําเภอเชียงแสน จังหวัดเชียงราย
ปีพุทธศักราช ๒๕๑๘ พระบาทสมเด็จ พระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯพระบรม ราชินีนาถ พร้อมด้วยพระเจ้าลูกเธอทั้งสองพระ องค์ได้เสด็จไปเยี่ยมท่านที่ถ้ําพวง ภูผาเหล็ก อําเภอส่องดาว จังหวัดสกลนคร เพื่อทรงสนทนาธรรม เป็นการส่วนพระองค์และทรงเยี่ยมประชาชนในถิ่นนั้นด้วย
ปีพุทธศักราช ๒๕๒๐ วันที่ ๕ ธันวาคม พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ พระอาจารย์วัน อุตตโม เป็นพระราชาคณะที่ “พระอุดมสังวรวิสุทธิเถร” เป็นกรณีพิเศษ
ปีพุทธศักราช ๒๕๒๑ จําพรรษาอยู่ที่วัดถ้ําอภัยดํารงธรรม เรื่อยมา
ท่านเข้าสู่อนุปาทิเสสนิพพานเมื่อวันที่ ๒๗ เมษายน ๒๕๒๓ ด้วยอุบัติเหตุเครื่องบินตก ณ ท้องนาทุ่งรังสิต หมู่ที่ ๔ ตําบลคลองหลวง อําเภอคลองหลวง จังหวัดปทุมธานี พร้อมกับพระอาจารย์บุญมา ฐิตเปโม พระอาจารย์จวน กุลเชฎโฐ พระ อาจารย์สิงห์ทอง ธัมมวโร และพระอาจารย์สุพัฒน์ สุขกาโม
สิริอายุ ๕๘ ปี ๓๗ พรรษา ๓๗