Customize Consent Preferences

We use cookies to help you navigate efficiently and perform certain functions. You will find detailed information about all cookies under each consent category below.

The cookies that are categorized as "Necessary" are stored on your browser as they are essential for enabling the basic functionalities of the site. ... 

Always Active

Necessary cookies are required to enable the basic features of this site, such as providing secure log-in or adjusting your consent preferences. These cookies do not store any personally identifiable data.

No cookies to display.

Functional cookies help perform certain functionalities like sharing the content of the website on social media platforms, collecting feedback, and other third-party features.

No cookies to display.

Analytical cookies are used to understand how visitors interact with the website. These cookies help provide information on metrics such as the number of visitors, bounce rate, traffic source, etc.

No cookies to display.

Performance cookies are used to understand and analyze the key performance indexes of the website which helps in delivering a better user experience for the visitors.

No cookies to display.

Advertisement cookies are used to provide visitors with customized advertisements based on the pages you visited previously and to analyze the effectiveness of the ad campaigns.

No cookies to display.

วันอังคาร, 1 เมษายน 2568

พระธาตุบังพวน อ.เมือง จ.หนองคาย

พระธาตุบังพวน อ.เมือง จ.หนองคาย

พระธาตุบังพวน

พระธาตุบังพวน อยู่ที่วัดพระธาตุบังพวน ตําบลพระธาตุบังพวน อําเภอเมืองหนองคาย จังหวัดหนองคาย เป็นพระธาตุที่เคารพ สักการะของพุทธศาสนิกชนไทย – ลาว มาช้านาน มีชื่อปรากฏในตํานานอุรังคธาตุว่าเป็นที่บรรจุพระธาตุหัวเหน่าของพระพุทธเจ้า กรมศิลปากรขึ้นทะเบียนเป็นโบราณสถานของชาติ เมื่อวันที่ ๒๗ กันยายน พ.ศ. ๒๔๗๙ งานนมัสการพระธาตุบังพวน จัดในวันขึ้น ๑๑ ค่ํา เดือนยี่ (ประมาณเดือนมกราคม) เป็นประจําทุกปี

ลักษณะของพระธาตุเป็นเจดีย์ฐาน กว้าง ๑๗.๒๐ เมตร สูงถึงยอดฉัตร ๓๔.๒๕ เมตร ฐานสี่เหลี่ยมย่อมุม เรือนธาตุทรง ปราสาทสี่เหลี่ยม มีซุ้มทั้ง ๔ ด้าน เครื่องบนเป็นทรงบัวเหลี่ยมซ้อนชั้น ศิลปะอยุธยาผสมล้านข้าง (ลาว)

เมื่อ พ.ศ. ๒๕๑๓ องค์พระธาตุได้พังทลายลง ต่อมากรมศิลปากรจึงบูรณะให้อยู่ ในสภาพเดิม และพบว่าพระธาตุบังพวน มีการก่อสร้างเพิ่มเติมมาแล้ว ๓ สมัย สมัยแรก เป็นเจดีย์ฐานศิลาแลง ไม่สามารถกําหนดอายุการสร้างได้ ต่อมาในสมัย พระเจ้าไชยเชษฐาธิราช กษัตริย์ล้านช้าง (ลาว) ประมาณ พ.ศ. ๒๐๙๓ – ๒๑๑๕ มีการ สร้างเจดีย์ก่ออิฐถือปูนครอบเจดีย์องค์เดิมอีกสองครั้ง โดยมีหลักฐานทางประวัติศาสตร์ ปรากฏในพงศาวดารล้านช้าง (ลาว) ว่าพระเจ้าไชยเชษฐาธิราชทรงสร้างพระธาตุบังพวนขึ้น พร้อมสิ่งก่อสร้างอื่น ๆ ภายในวัด

วัดพระธาตุบังพวน

นอกจากพระธาตุบังพวนแล้ว ภายในวัดพระธาตุบังพวนยังมีสิ่งที่น่าสนใจ เช่น สัตมหาสถาน เป็นสถานที่สําคัญ ๗ แห่ง ซึ่งตามพุทธประวัติกล่าวว่า พระพุทธเจ้า ได้เสด็จไปเสวยวิมุตติสุข หรือความสุขจากความหลุดพ้นซึ่งกิเลส ภายหลังตรัสรู้ เป็น การจําลองสถานที่ดังกล่าวจากประเทศอินเดีย นับเป็นสัตมหาสถานจําลองที่สมบูรณ์ที่สุด คือมีครบทั้ง ๗ แห่ง ทั้งนี้ ในประเทศไทย มีสัตมหาสถานจําลองอีกแห่งหนึ่งคือที่วัดเจ็ดยอด จังหวัดเชียงใหม่

พิพิธภัณฑ์พระธาตุบังพวน อยู่ใกล้กับพระธาตุ ภายในจัดแสดงประวัติองค์พระธาตุ ซากเศษหิน เสมา ศิลาจารึก ตลอดจนโบราณวัตถุที่พบอยู่ในพระธาตุองค์เก่า

สระพญานาค อยู่ใกล้กับพระธาตุ สมัยโบราณเมื่อมีการแต่งตั้งเจ้าเมือง จะนําน้ํา จากสระนี้ไปประกอบพิธีเพื่อเป็นสิริมงคล

จากการบูรณะพระธาตุบังพวนของกรมศิลปากร พบพระพุทธรูปบุเงินและทอง หลายองค์ภายในเจดีย์ มีจารึกที่ฐานพระ พุทธรูประบุศักราชตรงกับ พ.ศ. ๒๕๑๘ พ.ศ. ๒๑๕๐ พ.ศ. ๒๑๕๘ และ พ.ศ. ๒๑๖๗ ทําให้สันนิษฐานได้ว่าคงได้รับการบูรณะ ต่อเนื่องเรื่อยมาเป็นระยะ และน่าจะถูกทิ้งร้าง ในสมัยเจ้าอนุวงศ์ กษัตริย์แห่งนครเวียงจันทน์ องค์สุดท้าย ในช่วงประมาณ พ.ศ. ๒๓๖๙ – ๒๓๗๑