วันพฤหัสบดี, 24 ตุลาคม 2567

หลวงปู่สุข ยโสธโร วัดแสนสุขสันติธรรม อ.หนองบุญมาก จ.นครราชสีมา

ประวัติและปฏิปทา
หลวงปู่สุข ยโสธโร
วัดแสนสุขสันติธรรม อ.หนองบุญมาก จ.นครราชสีมา

พระครูสุวัฒน์สังฆกิจ (หลวงปู่สุข ยโสธโร) วัดแสนสุขสันติธรรม อ.หนองบุญมาก จ.นครราชสีมา
พระครูสุวัฒน์สังฆกิจ (หลวงปู่สุข ยโสธโร) วัดแสนสุขสันติธรรม อ.หนองบุญมาก จ.นครราชสีมา

พระครูสุวัฒน์สังฆกิจ (หลวงปู่สุข ยโสธโร) วัดแสนสุขสันติธรรม พระเกจิอาจารย์ผู้สืบทอดวิทยาคมจาก หลวงพ่อพรมสร(รอด) อดีตพระเกจิชื่อดังเมืองโคราช

● ชาติภูมิ
หลวงปู่สุข ยโสธโร นามเดิมชื่อ “สุข มุ่งจุลกลาง” เกิดวันอังคาร ที่ ๑๕ เดือนกันยายน พ.ศ.๒๔๗๙ ที่บ้านเกรียม ตำบลขามเฒ่า อำเภอโนนสูง จังหวัดนครราชสีมา บิดาชื่อ “นายแสน มุ่งจุลกลาง” และมารดาชื่อ “นางมี มุ่งจุลกลาง” มีพี่น้อง ๗ คน ท่านเป็นบุตรคนที่ ๗

● ปฐมวัย
พออายุได้ ๗ ขวบ บิดามารดาของท่านได้เสียชีวิต ในปีเดียวกันทั้ง ๒ ท่าน ท่านจึงอาศัยอยู่กับพี่สาวและพี่ชายของท่าน ครอบครัวของท่าน มีฐานะปานกลาง ประกอบอาชีพ ทำไร่ทำนา เลี้ยงวัวควาย พอท่านเรียนจบชั้นประถม ๔ ท่านก็ออกมาช่วยครอบครัว ทำมาหากิน

ในสมัยนั้น บ้านเกรียมกับบ้านไพอยู่ไม่ไกลกันมากนัก ท่านได้มีโอกาสเข้าไปกราบ หลวงพ่อพรหมสร (รอด) ซึ่งขณะนั้น หลวงพ่อพรหมสร (รอด) ได้จำพรรษาอยู่ที่วัดบ้านไพ และได้ฝากตัวเป็นศิษย์วัด เฝ้าติดตาม ดูแลปรนนิบัติหลวงพ่อพรมสร(รอด) โดยตลอดมา โดยหลวงพ่อพรมสร (รอด) ได้ถ่ายทอดวิชา ความรู้ อักขระเลขยันต์คาถาอาคมให้จนแตกฉาน

● อุปสมบท
เมื่อปี พ.ศ.๒๔๙๙ มีอายุครบ ๒๐ ปีบริบูรณ์ จึงได้อุปสมบทเป็นพระภิกษุ ที่วัดบ้านเกรียม ซึ่งขณะนั้นพระอุปัชฌาย์ คือ พระครูสุวรรณ จิลจาภิบาล

หลังจากที่ท่านบวช ได้ ๑ พรรษา วันที่ ๒๘ เดือนพฤศจิกายน พ.ศ.๒๕๐๐ หลวงพ่อพรหมสร (รอด) ก็มรณภาพลง จากนั้นท่านก็เดินทางศึกษาวิชาวิปัสสนากัมมัฎฐานกับหลวงปู่อุ่น ชินปุตโต ซึ่งหลวงปู่อุ่นและหลวงพ่อพรหมสร(รอด) ท่านทั้งสองนั้นเป็นสหธรรมิกกัน

หลวงปู่สุข ยโสธโร ได้เล่าเรียนวิชาธรรมะและวิปัสสนากับหลวงปู่อุ่นจนแตกฉานและเฝ้าดูแลปรนนิบัติจนกระทั่ง หลวงปู่อุ่น ชินปุตโต ได้มรณภาพลง

ต่อมา หลวงปู่สุข ยโสธโร ได้ไปขอฝากตัวเป็นศิษย์ห ลวงปู่อินทร์ ซึ่งมีฐานะเป็นพี่ชายของหลวงปู่สุข ได้ศึกษาเล่าเรียนวิชากับหลวงปู่อินทร์และปรนนิบัติรับใช้ดูแลหลวงปู่อินทร์ ถึง ๑๒ พรรษา เมื่อได้เล่าเรียนวิชากับหลวงปู่อินทร์จนหมดสิ้น ก็ขอกราบลาออกปฏิบัติธรรมและได้สร้างคุณประโยชน์แก่วัดและโรงเรียนทั่วไป

ต่อมาหลังจากหลวงปู่อุ่น ชินปุตโต ได้มรณภาพลง ทางชาวบ้านบ้านเกรียม ได้กราบอาราธนานิมนต์หลวงปู่สุขดำรงตำแหน่งเจ้าอาวาสวัดบ้านเกรียม

ต่อมาท่านได้รับตำแหน่งเป็นครูสอนพระปริยัติธรรม ที่สำนักเรียนวัดบ้านเกรียม ตำบลขามเฒ่า อ.โนนสูง จ.นครราชสีมา

หลวงปู่สุข ได้ดำเนินงานจัดหาทุนสร้างพระอุโบสถเพื่อก่อสร้างซุ้มประตูรั้วรอบวัด สมัยนั้นยังไม่มีทางเข้าวัดและโรงเรียน ท่านจึงได้ดำเนินการก่อสร้างทางเข้าวัดและโรงเรียน โดยได้ของบโครงการขุดสระลอกคูบึงเก่าจากรัฐมนตรีกระทรวงเกษตรจำนวน ๑๐ กว่าไร่ อีกทั้งท่านได้บริจาคปัจจัยที่ได้รับมาจากญาติโยมช่วยเหลืออนามัยและโรงเรียนเป็นประจำทุกปี

เมื่อท่านได้ย้ายมาอยู่ที่ วัดหนองบุนนาก ต.หนองบุนนาก อ.หนองบุญมาก จ.นครราชสีมา ท่านได้ร่วมสร้างศาลาการเปรียญกับชาวบ้าน
และเมื่อท่านได้มาจำพรรษาที่สำนักสงฆ์แสนสุขสันติธรรม ต.หนองบุนนาก อ.หนองบุญมาก จ.นครราชสีมา ครั้งแรกท่านได้สร้างถนนคอนกรีตทางเข้าวัด และเมรุสำหรับฌาปณกิจศพร่วมกับคณะญาติโยมชาวบ้านจนสำเร็จ

ท่านก็ได้ย้ายมาจำพรรษา ณ วัดทรัพย์อุดมธรรม ต.หนองบุนนาก อ.หนองบุญมาก จ.นครราชสีมา และได้ท่านได้จัดสร้างสาธารณะประโยชน์มากมายหลายอย่าง วัดโรงเรียน โรงพยาบาล รพ.สต.มูลนิธิต่างๆ มากมาย

ปัจจุบันหลวงปู่สุข ท่านได้ย้ายมาจำพรรษา ณ.สำนักสงฆ์ วัดแสนสุขสันติธรรม ต.หนองบุนนาก อ.หนองบุญมาก จ.นครราชสีมา เพื่อโปรดญาติโยมอีกครั้ง เมื่อวันที่ ๑๖ กรกฎาคม พ.ศ.๒๕๖๒ ที่ผ่านมา

หลวงปู่สุข ยโสธโร ท่านเห็นว่าในชีวิตของท่าน สามารถสร้างคุณประโยชน์แก่วัดได้หลายวัด โดยที่ตัวท่านมิได้มีเงินทองเลย อาศัยชาวบ้านที่ศรัทธาเลื่อมใสในตัวท่าน มีลูกศิษย์ที่ศรัทธาเข้ามาหาท่านมากมาย บ้างก็มาหาเครื่องรางของขลัง บ้างก็มาให้ท่านสงเคราะห์ช่วยเหลืออาบน้ำมนต์ สะเดาะห์เคราะห์ บ้างก็มาทำบุญสร้างกุศลบารมีร่วมกับท่าน

หลวงปู่สุข เป็นพระนักพัฒนา มีญาณแก่กล้า รู้ล่วงหน้าว่าใครจะมาหา มาดีหรือมาร้าย จะมาทำอะไร ท่านเป็นพระสุปฏิปันโนที่มีจิตเมตตาสูง ท่านจะสงเคราะห์ญาติโยมที่มากราบท่านไม่เลือกแบ่งชั้นวรรณะ ท่านจะเมตตาสงเคราะห์โดยเท่าเทียมกัน

พระครูสุวัฒน์สังฆกิจ (หลวงปู่สุข ยโสธโร) วัดแสนสุขสันติธรรม อ.หนองบุญมาก จ.นครราชสีมา
พระครูสุวัฒน์สังฆกิจ (หลวงปู่สุข ยโสธโร) วัดแสนสุขสันติธรรม อ.หนองบุญมาก จ.นครราชสีมา

ปัจจุบัน หลวงปู่สุข ยโสธโร ท่านมีอายุมากแล้ว ท่านยังออกโปรดญาติโยมรับบิณฑบาตเช้าทุกวันแม้จะอาพาธก็ไม่ยอมหยุด ท่านจะสวดมนต์ ทำวัตรเช้า ๓ ชั่วโมง ทำวัตรเย็น ๒ ชั่วโมง ไม่เคยขาด แม้จะขนาดลูกศิษย์มากราบขอรดน้ำมนต์ท่านก็สงเคราะห์ให้ทั้งที่ท่านยังอาพาธอยู่เพราะท่านห่วงลูกศิษย์มากกว่าตัวเอง

ในวันศุกร์ที่ ๑๕ กันยายน พ.ศ.๒๕๖๖ ถือเป็นวันมงคล “พระครูสุวัฒน์สังฆกิจ” หรือ “หลวงปู่สุข ยโสธโร” วัดแสนสุขสันติธรรม อ.หนองบุญมาก จ.นครราชสีมา มีอายุครบรอบ ๘๗ ปี เหล่าศิษย์ผู้ใกล้ชิดและญาติโยมผู้เลื่อมใส จะได้ร่วมกันจัดงานมุทิตาจิตฉลองอายุวัฒนมงคล เป็นประจำทุกปี

พระครูสุวัฒน์สังฆกิจ (หลวงปู่สุข ยโสธโร) วัดแสนสุขสันติธรรม อ.หนองบุญมาก จ.นครราชสีมา
พระครูสุวัฒน์สังฆกิจ (หลวงปู่สุข ยโสธโร) วัดแสนสุขสันติธรรม อ.หนองบุญมาก จ.นครราชสีมา

○ คาถาประจำตัวหลวงปู่สุข
๑. อุดธัง อัดโธ โทอุดธัง อัดอุดฯ
พระคาถานี้ (ของหลวงพ่อพรมสร (รอด) สำหรับใช้ทั่วไปแล ใช้ภาวนากลั้นใจเด็ดใบไม้พับเป็นรูป พอพาน (พ) เวลาเข้าผจญอันตราย ต่อสู้ เหน็บไว้ข้างหน้า ถ้าถอยให้เหน็บไว้ด้านหลัง หรือบริกรรมควบกับเหรียญรูปเหมือนท่านก็จะประเสริฐนักแลฯ

๒. ยโสธะโร กิตติคุโณ สิทธิกิจจัง สิทธิกัมมัง สิทธิการิยะ ยโสธะโร พุทธังโหม ธัมมังหอม สังฆังล้อม ปะสิทธิเม พุทธังคุ้ม ธัมมังกัน สังฆังรักษา สัพพะอันตะรายา ปิวินัสสันติฯ

สำหรับภาวนาก่อนนำเหรียญหลวงปู่ขึ้นคล้องคอ ประเสริฐนักแลฯ

๓. นะมะพะทะ นะชาลีติ ประสิทธิลาภา ปะสันนะจิตตา สัทธาโหนติ ปิยังปัพพะฯ
ใช้สวดมนต์ภาวนานอน และภาวนาหาลาภ และเสกน้ำล้างหน้าก่อนออกไปประกอบอาชีพดำเนินกิจการงานทั่วไป ประเสริฐนักแลฯ

(อย่าลืมน้อมใจตั้ง นโม ๓ จบ ก่อนภาวนา ทุกครั้งและทุกบทที่จะใช้คาถานี้)